โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สรุปงบ Q2/68 หุ้นสายการบิน "THAI-BA-AAV" เจาะเกมครึ่งปีหลังใครรุ่ง-ร่วง ?

PostToday

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ธุรกิจสายการบินในประเทศไทยกลับมาร้อนแรงท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดสวนทางจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่เพิ่มขึ้น แต่ละสายการบินจึงต้องเร่งปรับกลยุทธ์ ต้นทุน บริการ และเครือข่ายเส้นทางบิน เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด

3 หุ้นเด่น อย่าง "บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI", "บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA" และ "บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV" ต่างมีจุดแข็งและโอกาสเติบโตที่แตกต่างกัน

ไม่ว่าจะเป็นแผนเพิ่มฝูงบิน การรุกตลาดต่างประเทศ หรือขยายเส้นทางบินสู่เมืองท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั้งหมดนี้กำลังสร้างคำถามสำคัญให้กับนักลงทุน ใครจะทะยานสูงสุดบนเส้นทาง ?

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า "บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI" รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2/68 ที่ 1.212 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,860% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน (YoY) และ เพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)

กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จาก 306 ล้านบาทในไตรมาส 2/67 เป็นผลมาจากรายการพิเศษและผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น รายการพิเศษประกอบด้วยกำไร 4.98 พันล้านบาทจากการแปลงสัญญาเช่าซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 4 ลำ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.19 พันล้านบาท และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ 746 ล้านบาท

หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักอยู่ที่ 6.78 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 465% YoY และลดลง 34% QoQ กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งในส่วนของเชื้อเพลิงและส่วนที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงที่ลดลง และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงอย่างมาก การลดลง QoQ เป็นผลมาจากฤดูกาล

โดยรวมแล้ว THAI ได้แลกอัตราผลตอบแทนต่อผู้โดยสาร (PX yield) กับ Load Factor ที่สูงขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด เนื่องจากสายการบินเริ่มเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร

รายได้หลักเพิ่มขึ้น 1% YoY และลดลง 14% QoQ ได้รับแรงหนุนจากรายได้จากการขนส่งสินค้าและรายได้หลัก และธุรกิจอื่นๆ เช่น บริการภาคพื้นดิน บริการจัดเลี้ยง และบริการซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) รายได้จากผู้โดยสาร (PX) ทรงตัว YoY เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวน PX ถูกหักล้างด้วยอัตราผลตอบแทนต่อผู้โดยสารที่ลดลง

แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะชะลอตัวลง 12% YoY แต่จำนวนผู้โดยสารของ THAI กลับเพิ่มขึ้น 4.2% YoY โดยมาจากทุกเส้นทางบิน ยกเว้นเส้นทางบินภายในประเทศ โดยปริมาณผู้โดยสารที่สายการบินขนส่ง (RPK) เพิ่มขึ้น 15.6%

เนื่องจาก THAI กลับมาให้บริการเที่ยวบินในยุโรปบางส่วน และเพิ่มความถี่ในเส้นทางบินในภูมิภาค PX Yield อยู่ที่ 2.6 บาท (-13% YoY) โดยเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศลดลง 9.9% และ 13.8% ตามลำดับ จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

ส่วนของอัตราการใช้ประโยชน์ ฝูงบินยังคงอยู่ที่ 78 ลำ ขณะที่อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เพิ่มขึ้นจาก 73.2% ในไตรมาส 2/67 เป็น 77% ในไตรมาส 2/68 จากเครือข่ายเส้นทางบินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและการจัดตั้งพันธมิตรเที่ยวบินร่วม THAI มีรายได้ต่อหน่วยจากการผลิตด้านผู้โดยสาร (RASK) ที่ 2.1 บาท

ต้นทุนต่อที่นั่งกิโลเมตรว่าง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพทางการเงินของสายการบิน (CASK) ที่ 1.7 บาท และอัตรากำไรต่อหน่วยรวมอยู่ที่ 0.34 บาท เพิ่มขึ้น 78% YoY ส่วนใหญ่มาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง นอกจากนี้ CASK ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง 0.13 บาท จากต้นทุนการบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายลูกเรือที่ลดลง

แนวโน้มไตรมาส 3/68 กำไรในไตรมาส 3 หุ้น THAI น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว การบินไทยน่าจะยังคงได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลง พร้อมกับการควบคุมโครงสร้างต้นทุนผันแปรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนต่อผู้โดยสารน่าจะอ่อนตัวลงบ้างจากการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่ถูกชดเชยด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นของการบินไทยจากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 10.40 บาท

BA เข้าไฮซีซั่นครึ่งปีหลัง

บล.ฟิลลิป แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 18.60 บาท "บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA" กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ทำได้ 402 ล้านบาท ลดลง 43.6% จากปีก่อน ต่ำกว่าคาด 7.3% จากภาษีจ่ายและขาดทุน Fx ผู้โดยสาร ลดลง 3% จากปีก่อนที่ 0.92 ล้านคน จากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยว แม้เส้นทางสมุยยังโตรายได้ต่อตั๋วที่ 3,895 บาท ลดลง 2.6% แต่ต่ำกว่าคาด 3.6% รายได้สายการบิน ลดลง 4.9%

แต่ธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพิ่มขึ้น 10.2% รายได้ธุรกิจ ลดลง 0.9% ที่ 5,127 ล้านบาท ต้นทุนเพิ่มขึ้น 0.9% แม้ต้นทุนน้ำมันลดลงตามราคาน้ำมัน แต่ต้นทุนเช่าเครื่องบินและค่าลูกเรือเพิ่มขึ้นตามเที่ยวบิน มีรับปันผล 306 ล้านบาท

หลักมาจาก BDMS จ่ายปันผลเพิ่ม และภาษีจ่ายมากกว่าคาด 95% ซึ่งเป็นรายการหลักที่ทำให้กำไรต่ำคาด 498 ล้านบาท ต่ำคาด 3.7% และลดลง 27.7%จากปีก่อน เงินบาทแข็งค่าขึ้นมีขาดทุน Fx ที่ 115 ล้านบาท มากกว่าที่คาด 106 ล้านบาท และเทียบปีก่อนที่มีกำไร 30 ล้านบาท กดดันให้กำไรสุทธิลดลงมากขึ้น

แนวโน้มครึ่งหลังปี 68 ปกติเป็นช่วงไฮซีซั่นเกาะสมุยในไตรมาส 3 และไฮซีซั่นการท่องเที่ยวปลายปีในไตรมาส 4 ผู้โดยสารสูงกว่าไตรมาส 2 แต่ต่ำกว่าไตรมาส 1 ที่เป็น high season สุดอีกทั้งในไตรมาส 4 มักมีค่าใช้จ่ายปลายปีสูงขึ้น

กำไรในช่วงครึ่งหลังปี68 จะอ่อนลงจากครึ่งปีแรกตามค่าใช้จ่าย และตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังหดตัวฉุดเส้นทางอื่น แม้สมุยยังโตได้ มีแนวโน้มที่รายได้และกำไรจะลดลงจากปีก่อน ฝ่ายวิเคราะห์คงคาดกำไรปกติปีนี้ที่ 3,345 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งแรกปี68 คิดเป็น 64% และคาดจ่ายปันผล ครึ่งปีหลังที่ 0.50 บาท

AAV ผลประกอบการเสี่ยงขาดทุนสูง

บล.กรุงศรี ระบุว่า "บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV" ได้รับผลกระทบจากการหดตัวของนักท่องเที่ยวในปี 2568 โดยตรงเพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ลดลง (จีน อาเซียน และเอเชียตะวันออก) เป็นลูกค้าหลักของ AAV

แนวโน้มไตรมาส 3/68 มีผลประกอบการปกติขาดทุนต่อเนื่องใกล้เคียงไตรมาสก่อนหน้า ขาดทุน 800-900 ล้านบาท เนื่องจากยังเป็น Low season ธุรกิจการบิน สอดคล้องกับที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดก่อนหน้านี้

AAV ปรับกลยุทธ์บริหาร Capacity ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลดเป้าหมายฝูงบิน ณ สิ้นปี 2568 ลงเหลือ 62 ลำ จากเดิม 64 ลำ และพยายามใช้จุดแข็งส่วนแบ่งตลาดในประเทศสูง (40%) ต่อยอดผู้โดยสารประเภท Fly-through มากขึ้น

ผู้บริหาร AAV มองมาตรการสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากประเทศจีนของรัฐบาลเป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น (มาตรการชั่วคราว) สิ่งสำคัญคือต้องแก้ปัญหาภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยถึงจะฟื้นอุตฯ ท่องเที่ยวไทยในระยะยาวได้

"เรายังคงคำแนะนำ Reduce และราคาเป้าหมาย 1.02 บาท มองผลประกอบการ AAV มีความเสี่ยง(ขาดทุน)สูงในสถานการณ์ธุรกิจการบินในปัจจุบัน และขณะนี้เรายังไม่เห็นสัญญานการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญของผลประกอบการ AAV"

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น THAI ณ เวลา 14.39 น. วันที่ 15 ส.ค.68 อยู่ที่ 16.20 บาท ลดลง 1.60 บาท คิดเป็น -8.99% มูลค่าการซื้อขาย 4,109.38 ล้านบาท

หุ้น BA อยู่ที่ 14.50 บาท ลดลง 0.20 บาท คิดเป็น -1.36% มูลค่าการซื้อขาย 61.80 ล้านบาท

หุ้นAAV อยู่ที่ 1.24 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 44.61 ล้านบาท

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

ถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ บอร์นมัธ วันนี้ 15 ส.ค. 68

15 นาทีที่แล้ว

ถ่ายทอดสด มวย วัน ลุมพินี 120 ONE Championship วันนี้ 15 ส.ค.68

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คลัง อัปเดตออมสิน-ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อแก้หนี้นอกระบบแล้ว 2,616 ล้านบาท

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทนายแจม" จี้ตัด "งบบ้านพักบิ๊กตร." หลังพบ คฤหาสน์หรูมูลค่า 91 ล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ออริจิ้นฯ กวาดรายได้รวม 3,610 ล้าน กำไรไตรมาส 2/68 โตแรง เดินหน้าขยายโครงการ เสริมธุรกิจโรงแรมและคลังสินค้า

TODAY Bizview

“กระดูกเทียม” ไทเทเนียม นวัตกรรมทรัพย์สินทางปัญญาไทย ช่วยทหารกล้าชายแดน

Thai PBS

7 เทรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์มาแรงแห่งปี

SMART SME

"ViVi Investor" หาหุ้นด้วยพื้นฐาน จับจังหวะด้วยกราฟ กับ เอ พิสุทธิ์ สันติโชค

TNN ช่อง16

ACU PAY แจกจริง! มอบทองคำแท่ง ผู้โชคดี มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท จากแคมเปญ “มหาเฮงเปย์ใหญ่! อั่งเปาล้านแตก ทองคำแจกจริง กับ ACU PAY ครั้งที่ 1”

Positioningmag

มท.2 ร่วมยินดี 58 ปี กปน. “ประปาคุณภาพ เพื่อชีวิตที่ดี: Quality Water for Quality Living”

เดลินิวส์

สถาบัน KAPI จับมือ ‘เค-เอพีไอ’ ปั้นผู้ประกอบการหน้าใหม่ผ่านหลักสูตร ‘TEBC 2025’

เดลินิวส์

ITD เปิดเวที ผู้ประกอบการสตรีไทย รุกเจาะการค้าอย่างยั่งยืนในเวทีโลก ประเดิมบุกตลาดสหภาพยุโรปและออสเตรีย

BTimes

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...