อย่าแตกแถว
สิ่งที่น่าดีใจสำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ยกฐานสูงขึ้นต่อเนื่องก็คือ กองทุนยังคงทำหน้าที่ประคองตลาดหุ้นได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนต่างชาติก็กระโดดเข้ามาไล่หุ้นแบบสุดซอยในบางจังหวะ จึงทำให้ดัชนีฝ่าแนวต้านสำคัญขึ้นมาได้เรื่อย ๆ จนวันก่อนนักเล่นได้เห็นต่างชาติเริ่มสาดหุ้นออกมาหนักอีกครั้ง (จริง ๆ เป็นการทำรายซื้อขายหุ้น TIDLOR) เลยทำให้การทะยานขึ้นของดัชนีต่อจากนี้อาจไม่ราบรื่นเหมือนเช่นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเจ้าค่ะ
ประเด็นดังกล่าวอาจก่อให้เกิดคำถามว่า แล้วดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้หรือเปล่า? อีฉันจึงขอตอบว่า ขึ้นอยู่กับกำไรไตรมาส 3และไตรมาส 4ทำได้ดีขนาดไหน? เพราะผลงานตรงนั้นจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ดัชนีเดินหน้าอย่างมั่นคง “โมนิก้า” ถึงพยายามชี้ให้เห็นว่า การลงทุนเหนือแนวรับ 1,250 จุดมีทั้งเรื่องเรื่อง “โอกาส”และ “ความเสี่ยง”ในระดับที่พอ ๆ กันนะตัวเอง
ที่น่าสนใจคือ การที่ กนง.ประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% มันเข้ากับทฤษฎีที่อีฉันร่ำเรียนมาตั้งแต่เป็นสาวแรกแย้มที่ว่าด้วยเรื่อง “ดอกลง หุ้นขึ้น..ดอกขึ้น..หุ้นลง” อีฉันถึงมองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,266.67 จุด ลบไป 10.76 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56,938ล้านบาท มันเป็นโมเมนตัมที่นักลงทุนต้องคิดว่าเปิดโอกาสให้ “ขึ้นต่อ” หรือ “หมดรอบ” จึงอยากให้แฟนคลับไปสำรวจความพร้อมของตัวเอง
เหมือนกับการขยับตัวของหุ้น CPALL ที่ค่อนไปในทางอ่อนตัวเป็นหลัก ก็มีเรื่องที่ต้องประเมินเยอะพอสมควรว่า ในมุมของราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้นั้น มันมีอัพไซด์ให้หุ้นไปต่อเยอะเหมือนกัน แต่สุดท้ายหุ้นก็ไปไม่ไหวแบบนี้..เดี๊ยนถือเป็นข้อมูลที่เป็นบวกสำหรับการซื้อหุ้น เพราะการยืนปิดที่ระดับ46.25 บาท บวกไป0.25 บาท หรือขึ้นไป0.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,232 ล้านบาท เป็นการยืนปิดใกล้กับจุดเด้งเที่ยวก่อนที่บริเวณ 45 บาทพะยะค่ะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น HANA เพื่อชี้ให้เห็นลักษณะการเคลื่อนตัวก็คล้ายกับรายข้างต้น แต่ต่างกันนิดหนึ่งตรง “ขึ้นแล้วพักฐานนาน”ต่อจากนั้นถึงจะขึ้นใหม่อีกรอบ อีฉันเลยมองการพักฐานที่บริเวณ 22 บาทเป็นอะไรที่น่าสนใจ จึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 22.50 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3.02% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 596ล้านบาท น่าซื้อเหมือนที่เม้าท์ให้ฟังอะป่าว?
ส่วนรายที่พุ่งแรงแบบไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า คงต้องมองไปที่หุ้น ERW หลังราคาหุ้นพุ่งทะลุแนวต้านบริเวณ 2.50 บาทอย่างง่ายดาย ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ2.66 บาท บวกไป0.14 บาท หรือขึ้นไป5.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย331 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ผิดคาดอย่างเห็นได้ชัด เพราะในมุมของกำไรไตรมาส 2 ก็ไม่ซัพพอร์ตสักเท่าไหร่? หรือมองในมุมของโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงแรม ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล อีฉันเลยอธิบายเรื่องนี้ไม่ได้เจ้าค่ะ
สำหรับรายที่อธิบายการย่อตัวได้ชัดเจน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น EA แบบไม่ลังเลใจ เพราะการลงมายืนปิดที่ระดับ2.62 บาท ลบไป0.18 บาท หรือลงไป6.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย461 ล้านบาท มันเป็นผลมาจากงบไตรมาส 2 ขาดทุนมากถึง 721 ล้านบาท แต่ในขณะเดียวกันบริษัทยังเชื่อว่า ไตรมาส 3 น่าจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญแบบนี้..มันเป็นเกมที่นักเล่นต้องคิดกันเอาเองว่า กล้าซื้อไหม?
ปิดท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่ HANN ซึ่งเปิดตัวได้อย่างสวยงามตามท้องเรื่อง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ2.12 บาท บวกไป1.42 บาท หรือขึ้นไป202.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย1,896ล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ปลุกความเชื่อมั่นหุ้นไอพีโอที่กำลังจะเข้าตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี เพราะแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนมองเรื่องธุรกิจในมุมบวก และมองการตั้งราคาขายที่เหมาะสม คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ขาลุยกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้งนะจะบอกให้
โมนิก้าและทีมงาน