จับตาคดี “แพทองธาร” นักวิเคราะห์คาด “ลาออก หรือ ยุบสภา” ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความผิด
จับตาศาล รธน. อ่านคำตัดสินของ นายกฯ แพทองธาร คดีคลิปเสียงฮุน เซน วันที่ 29 ส.ค. นี้ นักวิเคราะห์คาด ผลที่ออกมาเป็นไปได้ทั้งผิดหรือไม่ผิด หรือนายกอาจเลือก ลาออก-ยุบสภาฯ ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย มองระยะสั้นอาจเป็นภาวะ Overhang
ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย Timeline ปัจจัยการเมืองในประเทศ
โดยวันที่ 22 ส.ค.-ศาลอาญานัดฟังคาพิพากษาคดีม.112 ของนาย ทักษิณ ต่อด้วย วันที่ 29 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายก และวันที่ 9 ก.ย.-ศาลฎีกาวินิจฉัยกรณีชั้น 14 นายทักษิณ
โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากรณีคลิปเสียงของนายกจะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สำคัญ ซึ่งผลที่ออกมาเป็นไปได้ทั้งผิดหรือไม่ผิด หรือนายกอาจเลือก ลาออกหรือยุบสภาฯ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนายก และครม.ตามมา
ทั้งนี้ในระยะสั้นอาจเป็นภาวะ Overhang ในการกระตุ้นการบริโภคและการเบิกจ่ายงบประมาณระหว่างที่รอความชัดเจนจึงอาจกดดันกลุ่ม Domestic Play ต่อเนื่อง แต่คาดเห็นแรง Buy on fact กลับในกลุ่มค้าปลีก,ไฟแนนซ์,อาหารเครื่องดื่ม,รับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างในช่วงปลายเดือนก่อนที่ศาลฯจะวินิจฉัย
ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สภาฯ กำลัง พิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณปี 2569 ในวาระ 2 และ 3 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท โดยจะมีการโหวตวันศุกร์นี้ ( วันที่ 15 ส.ค.68)
โดยการพิจารณาเสร็จเร็วกว่าที่คาด แต่ตามกำหนด (เดิม) ของสภาฯ เป็นข่าวบวกของตลาด เพราะมาตรการเศรษฐกิจ อาจออกได้เร็วขึ้น (ถ้าไม่มีการสะดุดในเรื่องการเมืองอีก)
อย่างไรก็ตามวันที่ 29 ส.ค. นี้ ศาล รธน. อ่านคำตัดสินของ นายกฯ แพทองธาร คดีคลิปเสียงฮุน เซน มีพฤติกรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญ และผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งน.ส.แพทองธารได้ส่งคำชี้แจงไปเมื่อ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้วันที่ 21 ส.ค. ศาลฯ จะนัดไต่สวนพยานบุคคลสองฝั่งก่อน คือ ผู้ถูกร้อง และเลขาธิการสมช. และจึงนัดวินิจฉัยคำตัดสินต่อไป ดังนั้นตลาดหุ้นอาจได้รับแรงกดดันจากการเมืองอีกครั้งในช่วงที่ศาลฯ อ่านคำตัดสิน ระมัดระวังแรงขายในช่วงดังกล่าว