"สมปอง" ยอมรับยืมเงิน "อดีตพระอลงกต" 13 ล้าน ทยอยคืนแล้ว ลั่น! มั่นใจเป็นเงินส่วนตัว
วันนี้ (28 ส.ค. 68) นายสมปอง นครไธสง หรือที่รู้จักกันในนาม “อดีตพระมหาสมปอง” ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ “โหนกระแส” ผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาว่าติดหนี้เงิน "อดีตพระอลงกต" จำนวนหลายล้านบาท โดยยืนยันว่า ได้ยืมเงินจากอดีตพระอลงกต หรืออดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุจริง
สมปอง เปิดเผยว่า เหตุผลที่ต้องขอยืมเงิน เนื่องจากมีภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะในการดูแลมารดาที่ป่วยติดเตียง ประกอบกับชีวิตหลังลาสิกขาเผชิญกับภาระหนี้สินดอกเบี้ยสูง จึงตัดสินใจติดต่อขอยืมเงินจากอดีตพระอลงกต ซึ่งตนรู้จักกันมานานตั้งแต่ยังบวชเป็นพระ และเคยร่วมกิจกรรมทางธรรม รวมถึงเคยบริจาคเงินให้วัดในนามบริษัทที่ทำงานด้วยกว่า 3 ล้านบาท
สำหรับยอดเงินที่ยืมรวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 13-14 ล้านบาท แบ่งเป็นเงิน 3 ก้อน คือ 3 ล้าน, 4 ล้าน, 5 ล้าน และเงินสดอีก 1 ล้านบาท เป็นการทยอยยืมแบบปากเปล่า ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตาม สมปอง ยืนยันว่าได้ชำระเงินคืนไปแล้ว 5.5 ล้านบาท พร้อมแสดงหลักฐานการโอนเงิน และบันทึกการใช้หนี้ โดยระบุว่า การโอนเงินคืนได้โอนเข้าบัญชีของลูกศิษย์คนสนิทของอดีตพระอลงกต ไม่ใช่บัญชีโดยตรงของหลวงพ่อ ซึ่งการโอนล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
สมปอง ยังระบุว่า ถ้าเป็นเงินวัดกรรมการคงไม่ให้ยืม ตนเลยมั่นใจว่าเป็นเงินส่วนตัว 13 ล้านบาท ทยอยโอน ไม่ได้โอนก้อนเดียว
นอกจากนี้ สมปอง ยอมรับว่า รู้สึกน้อยใจคนใกล้ชิดที่ไม่เชื่อมั่นในตัวเขา และกำลังเร่งหารายได้จากการไลฟ์สดขายของ รวมถึงงานอื่น ๆ เพื่อชำระหนี้ที่เหลืออีกประมาณ 8.8 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าจะปิดบัญชีหนี้ทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2568 นี้ หากตำรวจเรียกไปสอบถามเมื่อไหร่ก็พร้อมไปเมื่อนั้น