‘นนกุล’ เตรียมเบรกงาน ผันตัวทำธุรกิจตามฝัน ชี้ถึงจุดที่ต้องสร้างความมั่นคงให้ตัวเองแล้ว!
จัดเป็นนักแสดงมากความสามารถ สำหรับ "นนกุล-ชานน สันตินธรกุล“ ที่ล่าสุดได้เปิดใจถึงแพลนชีวิตปีนี้ เตรียมรับงานแสดงน้อยลง เพื่อหันไปทุ่มเทให้กับการทำธุรกิจตามความฝัน ยอมรับอาชีพนักแสดงไม่แน่นอน ชี้ถึงจุดที่ต้องสร้างความมั่นคงทางการเงินแล้ว
โดยในงาน ROYAL IVY REGATTA x MONET เปิดตัวคอลลาบอเรชั่นใหม่ นนกุล ได้เล่าถึงแพลนของทิศทางในชีวิตการทำงานของตัวเองในปีนี้ว่า
“ตอนนี้มีผลงานซีรีส์ Mouse ออนแอร์ทาง True id ชีวิตส่วนตัวเหมือนเดิม ติดตามได้ทางอินสตาแกรม สำหรับปีนี้มีแพลนจะรับงานน้อยลง อาจจะปีนึงไม่กี่เรื่อง โฟกัสทำธุรกิจอย่างอื่นด้วย รู้สึกว่าถึงจุดที่การเป็นนักธุรกิจเป็นหนึ่งในความฝัน มันถึงจุดนึงที่มองว่าอาชีพนักแสดงกลับมาทำทีหลังก็ไม่สาย เป็นอาชีพที่ดีมาก ๆ เพราะเปิดรับทุกช่วงอายุ ขอแค่คาแรกเตอร์ใช่ หรือฝีมือได้ มันจะอายุเท่าไหร่ก็ได้เลย ไม่หมายความว่าจะรีไทร์เลยนะ หมายถึงว่าจะไม่ได้รับถี่ๆ เท่าก่อนหน้านี้แล้ว บทบาทที่เลือก ผลงานดีตลอด ส่วนตัวเน้นสนุกมากกว่า หวังว่าคนดูจะสนุกด้วย แต่ว่าสุดท้ายมันก็แล้วแต่เทส มองว่าเอาสนุกไว้ก่อนดีกว่า เพราะควบคุมความเห็นคนอื่นไม่ได้
ถามว่าเล็งทำธุรกิจอะไรไว้บ้าง ก็ยังไม่ได้แน่ใจ แต่เบื้องต้นจะช่วยทางพี่สาวน้องสาวก่อน ถ้าของส่วนตัวต้องใช้เวลาตกตระกอนนิดนึง เพราะว่าก็อยากทำให้มันดี ถามว่าธุรกิจครอบครัวเลยไหม ก็เป็นไปได้ ธุรกิจครอบครัวอยากโฟกัสกับธุรกิจจริงจังเลย คือก่อนหน้านี้เหมือนกับอยู่ในช่วงขวนขวาย อยากเป็นนักแสดงให้ดี ให้ได้ไกลที่สุด รู้สึกว่าอาชีพนักแสดงมัน 50/50 เรื่องโชว์ เรื่องความมุ่งมานะ เลยรู้สึกว่าบางทีก็ฝึกฝนในแบบของเราไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้นก็รองานที่มันดีจริง ๆ แล้วค่อยรับ ไม่ใช่รับทุกอย่าง ทุกเรื่อง
ถามถึงเรื่องธุรกิจส่วนตัวได้คุยกับ "แอฟ ทักษอร" ไหม คือไม่น่า ยังไม่ได้คุยกันมากกว่า คือมันไม่ใช่ว่าไม่มีทางเด็ดขาด ยังไม่มีโอกาสคุยมากกว่า อันนี้เป็นเรื่องที่คุยกับทางที่บ้านคร่าวๆ เฉยๆ แต่ยังไม่ได้วางแผนธุรกิจชัดเจนว่าจะทำอะไร ยังไง ซึ่งเรายังไม่ได้ปรึกษาแอฟเลย แต่ว่าถ้าบังเอิญว่าสินค้า หรือผลิตภัณฑ์นั้นมันใกล้ ถ้าคิดว่าพี่เขาช่วยเราได้ เราก็อาจจะปรึกษา
เริ่มทำธุรกิจตอนนี้ ก็คิดว่าไม่เร็วนะ รู้สึกว่าหลายคนที่อายุน้อยกว่าก็ทำเยอะมาก ๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ รู้สึกว่าอาชีพนักแสดงถ้าถึงจุดนึงมันจะรู้สึกว่าอยากรับงานที่สนใจจริงๆ แต่พอจะเลือกที่สนใจจริงๆ นั่นหมายความว่ารายได้ก็จะลดน้อยลง เพราะฉะนั้นรู้สึกว่าอยากทำอาชีพที่รักต่อไป ในผลงานที่รักจริงๆ เพราะฉะนั้นการที่จะทำอย่างนั้นได้แปลว่ามันต้องมีความมั่นคงด้านการเงินซัพพอร์ตด้วย ส่วนเรื่องรายได้ที่จะลดลงไม่ได้มีผลกระทบใช่ไหม คือถามว่าเสียดายไหม มันก็คงเสียดายอยู่ มันก็เป็นตรรกะที่ถูกต้องแล้ว ถ้าเกิดรับงานแสดงน้อยลง รายได้ก็จะน้อยลงไปด้วย แต่เราอาจจะอยู่ในจุดที่โชคดีหน่อย คือถ้ารับผลงานนึงมันก็พออยู่ได้ ซึ่งเรื่องธุรกิจส่วนตัวแพลนไว้ว่าถ้าปลายปีนี้เริ่มได้ก็คงดี หมายถึงเริ่มหาข้อมูล เริ่มรีเสิร์ช คงไม่ได้ออกมาเลย ถ้าออกมาเลยก็เร็วไปนิดนึง จะเป็นนักธุรกิจท่านหนึ่งแล้วก็หวังว่าครับ“