ไขข้อข้องใจ! ทางด่วนเมืองไทยเส้นเดียวกัน ทำไมมีหลายชื่อ? ชื่อไหนคือเส้นที่คุณใช้
ทุกครั้งที่ขึ้นทางด่วนไปแล้วคุณจะเห็นป้ายบอกทางหลายๆ ป้ายเพื่อนำทางไปที่จุดหมายอย่างรวดเร็ว แต่เคยสงสัยไหมว่า จริงๆ แล้วทางด่วนแต่ละเส้นมีชื่อเป็นของตัวเอง จนหลายคนงงว่า ทั้งๆ มีแค่เส้นเดียวกันต่อเป็นโครงข่าย แล้วชื่อเหล่านั้นมาจากไหน รวมถึงเส้นที่คุณใช้ปกติเรียกว่าเส้นอะไร เพื่อให้เกิดความเข้าใจวันนี้ Sanook Auto จะมาไขคำตอบเรื่องนี้กันครับ
ทำไมทางด่วนหนึ่งเส้นถึงมีหลายชื่อ?
เมื่อหลายคนเริ่มอยากรู้แล้วว่า "ทางด่วนหลายชื่อ" มีที่มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ส่วนใหญ่มักจะประกอบด้วย
- ชื่อพระราชทาน: เป็นชื่อทางการที่ได้รับพระราชทานเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งมักจะเป็นชื่อที่ไพเราะและมีความหมายดี แต่บางครั้งอาจจะยาวและจำยากกว่าชื่อเรียกทั่วไป
- ชื่อตามระบบสัมปทาน: ในยุคแรกๆ ของการสร้างทางด่วน มักจะเรียกกันง่ายๆ ตามลำดับการสร้าง เช่น ทางด่วนขั้นที่ 1, ทางด่วนขั้นที่ 2
- ชื่อตามเส้นทาง: เป็นชื่อที่เรียกตามจุดหมายปลายทาง หรือถนนสายสำคัญที่ทางด่วนเส้นนั้นๆ เชื่อมต่ออยู่ ทำให้เข้าใจง่ายและสื่อสารได้ตรงไปตรงมาที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน
- ชื่อที่เรียกติดปาก: บางครั้งก็เกิดจากชื่อที่ผู้คนนิยมเรียกกันจนคุ้นเคยและกลายเป็นชื่อที่เข้าใจกันโดยทั่วไป
ชื่อทางด่วนแต่ละเส้น คือเส้นอะไร
หลังจากรู้เรื่าองของที่มาจากชื่อแล้ว เรามาดูกันว่าแต่ละขั้นแต่ละเส้นของทางด่วนมีชื่ออะไรบ้าง เริ่มจาก
1. ทางด่วนขั้นที่ 1: "ทางพิเศษเฉลิมมหานคร"
สำหรับทางด่วนสายแรกของประเทศไทยที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน ทำให้คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับชื่อ "ทางด่วนขั้นที่ 1" มากที่สุด แต่หากต้องการระบุเส้นทางให้ชัดเจน ก็มักจะเรียกตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการไป หลายคนจะใช้บ่อยกับเส้นทาง ดินแดง-ท่าเรือ, บางนา-ท่าเรือ, ดาวคะนอง-ท่าเรือ
2. ทางด่วนขั้นที่ 2: "ทางพิเศษศรีรัช"
เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่คนกรุงใช้กันอย่างหนาแน่น ชื่อ "ทางด่วนขั้นที่ 2" ยังคงเป็นที่นิยม แต่ชื่อทางการคือ "ทางพิเศษศรีรัช" ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางจากใจกลางเมืองไปยังตอนเหนือและตะวันออกของกรุงเทพฯ เช่นเส้นทาง บางโคล่-แจ้งวัฒนะ หรือ พญาไท-ศรีนครินทร์
3. ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์: "ทางพิเศษฉลองรัช"
สำหรับผู้ที่เดินทางในย่านลาดพร้าว, รามอินทรา, และสุขุมวิท จะคุ้นเคยกับทางด่วนเส้นนี้เป็นอย่างดี ชื่อ "ฉลองรัช" อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่ากับชื่อที่เรียกตามเส้นทางด่วนสายรามอินทรา–อาจณรงค์ หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา
4. ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด: "ทางพิเศษอุดรรัถยา"
เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อกรุงเทพฯ ตอนเหนือกับจังหวัดนนทบุรีและพระนครศรีอยุธยา ผู้ที่ใช้เส้นทางไปเมืองทองธานี หรือศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มักจะคุ้นเคยกับชื่อที่บอกเส้นทางมากกว่าชื่อพระราชทาน และออกจากเมืองได้เร็วเป็นเส้นตรงยาว
5. ทางด่วนบางนา-ชลบุรี: "ทางพิเศษบูรพาวิถี"
ทางด่วนยกระดับสายยาวที่สุดในประเทศไทยที่มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก ชื่อ "บูรพาวิถี" มีความหมายว่า "เส้นทางสู่ทิศตะวันออก" ซึ่งสอดคล้องกับเส้นทาง แต่คนส่วนใหญ่มักจะเรียกติดปากว่า "ทางด่วนบางนา-ชลบุรี" เพื่อความง่ายในการสื่อสาร
6. ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ: "ทางพิเศษประจิมรัถยา"
และ เป็นทางด่วนสายใหม่ที่ช่วยแบ่งเบาภาระการจราจรจากฝั่งธนบุรีเข้าสู่ใจกลางเมือง ชื่อพระราชทาน "ประจิมรัถยา" หมายถึง "เส้นทางสู่ทิศตะวันตก" ซึ่งปัจจุบันเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นควบคู่ไปกับชื่อเรียกตามเส้นทาง
การทำความเข้าใจชื่อเรียกต่างๆ ของทางด่วนเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถวางแผนการเดินทางและสื่อสารได้อย่างถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะใช้แอปพลิเคชันนำทางหรือสอบถามเส้นทาง ก็มั่นใจได้ว่าจะไม่หลงและไปถึงจุดหมายได้อย่างราบรื่นแน่นอน แต่บางครั้งคุณอาจจะไม่ต้องจำเป็นชื่อ ให้นับว่าอยู่ขั้นไหนก็ได้เพื่อความสะดวกนั่นเองครับ