CIB แถลง เปิดปฏิบัติการ “กองทุนหมู่บ้านไร้โกง”

CIB แถลง เปิดปฏิบัติการ “ กองทุนหมู่บ้านไร้โกง”

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายหน่อย อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 4775/2568 ลงวันที่ 16 ส.ค.2568 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคลหนึ่ง และฟอกเงิน” โดยจับกุมได้บริเวณ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ผู้เสียหายได้มาพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา กรณีที่ผู้ต้องหาแอบอ้างว่าทำงานอยู่ที่มูลนิฐิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้บริษัทของผู้เสียหายได้งานในโครงการภาครัฐ และ โครงการของสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (SML) จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเป็นค่าดำเนินการให้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2566 ถึงปี พ.ศ.2568 รวมจำนวน 89 ครั้ง เป็นเงิน 7,836,000 บาท ซึ่งต่อมาภายหลัง ผู้เสียหายทราบว่าผู้ต้องหา ไม่ได้ดำเนินการอย่างที่แอบอ้างและผู้ต้องหา ไม่ได้เป็นบุคคลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหาได้แอบอ้างว่าตนเองดูแลโครงการของภาครัฐจำนวน 3 โครงการ ได้แก่

1. โครงการทำถนนของหน่วยทหารพัฒนา (นทพ.) (ตรวจสอบแล้วพบว่าโครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริง)

2. โครงการ 72 พรรษา น้ำพระทัยสู่ชุมชน เป็นโครงการบริจาคถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ให้กับชุมชน ในพื้นที่ 72 จังหวัด (นทพ.) (ตรวจสอบแล้วพบว่าโครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริง)

3. โครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนอย่างมั่นคง (กทบ.) (ตรวจสอบแล้วพบว่าโครงการดังกล่าวมีอยู่จริง แต่อยู่ในขั้นตอนการให้แต่ละกองทุนหมู่บ้าน ยื่นเรื่องเข้ามาของบกับ กทบ.)

ซึ่งนอกจากนี้นายหน่อย ยังได้ปลอมแปลงเอกสารจากโครงการต่างๆ พร้อมกับส่งภาพถ่ายที่ร่วมถ่ายกับบุคคลที่มีชื่อเสียงในทางราชการ ส่งมาให้ผู้เสียหายดูเพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าตนเองรู้จักกับบุคคลเหล่านี้ และสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้จริง

และจากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลาง รถยนต์หรู จำนวน 3 คัน, สมุดบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินสด ,โทรศัพท์มือถือ และเอกสารจำนวนมาก จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ