“ศึกเขากระโดง” “แดง” สางแค้น “น้ำเงิน” !
แม้ “รัฐบาล” ที่นำโดย “พรรคเพื่อไทย” กำลังเจอกับมรสุมรอบด้าน ทั้งศึกชายแดนไทย-กัมพูชาที่เพื่อนบ้าน อย่างผู้นำเขมร สร้างความวุ่นวาย ยุ่งยาก จนนำไปสู่การปะทะ ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและทหารแล้ว
ศึกนี้ยังเขย่า “ความนิยม” ของ “พรรคเพื่อไทย” ไปจนถึง “ตระกูลชินวัตร” ให้ร่วงหล่นกลาย จนลดทอนความได้เปรียบทางการเมืองตามมา จนยากที่จะตัดสินใจ ยุบสภาฯแล้วไปเจอกันในสนามเลือกตั้งครั้งใหม่
ปรากฏว่า ขณะที่ฝั่งแดงคือพรรคเพื่อไทย คล้ายสูญเสียรังวัด กลับยังเปิดหน้าเล่น บดขยี้ “พรรคภูมิใจไทย” ฝ่ายสีน้ำเงิน อย่างไม่ลดละ !!
เมื่อกระทรวงมหาดไทย ในมือของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกฯ เปิดฉาก “ถล่มต่อ” โดยการสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินกว่า 5,083 ไร่ ในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ หลังจากที่เรื่องนี้เป็นเหมือน “มหากาพย์” ยืดเยื้อ หลังจากที่เรื่องนี้เป็นกรณีพิพาท ระหว่าง คดีที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ กับ กรมที่ดินและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
ซึ่งพื้นที่ ที่สั่งให้มีการเพิกถอนทั้งสิ้น มากกว่า 5พันไร่ จากนั้นตามมาด้วยการส่ง “ขจรเกียรติ รักพานิชมณี” ไปเป็นอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ โดย ภูมิธรรม ย้ำว่าการเดินหน้าเรื่องนี้ คือการทำตามคำสั่งของศาลฎีกา ที่ผ่านมา
และแน่นอนว่าที่ดินเจ้าปัญหาส่วนนี้ย่อมไปกระทบกับผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคสีน้ำเงิน โดยปริยาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.68 มีตัวแทนประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจ และนิติบุคคลที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ร่วมจัดงานแถลงข่าว และหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบคือสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถ
เมื่อฝั่งแดงเดินหน้าจัดการฝ่ายสีน้ำเงิน จึงมีคำถามว่าแล้วกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งมี “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯและรมว.วัฒนธรรม เกี่ยวข้องด้วยนั้น กระทรวงมหาดไทย จะทำอย่างไร แม้ภูมิธรรม เคยตอบคำถามสื่อว่า จะใช้มาตรฐานเดียวกันก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องยากที่จะมีใครเชื่อ เพราะกระทรวงมหาดไทย จะตรวจสอบ นายกฯของพรรคเพื่อไทยด้วยกันเองได้อย่างไร
ทั้งนี้การฟาดฟันฝั่งตรงข้าม ด้วยการลุยคดีที่ดินเขากระโดง ที่จ.บุรีรัมย์ ฐานที่มั่นทางการเมืองของพรรคสีน้ำเงินครั้งนี้ อาจไม่ใช่แค่สัญญาณของการเอาคืนหรือล้างบางเท่านั้น แต่อีกนัยยะด้านหนึ่งนี่คือการส่งสัญญาณที่กำลังสะท้อนว่า เวลาของพรรคเพื่อไทยในฐานะรัฐบาล อาจเหลือน้อยเต็มที หากคิดอ่านจะทำอะไร ก็อย่ารอช้า !