โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

การบินไทยตอกย้ำภาพ Network Airline รุกบินจีนเพิ่มเชื่อมผู้โดยสารทั่วโลก

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“การบินไทย” เดินหน้ายุทธศาสตร์ Network Strategy หนุนไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจการบินภูมิภาคเชื่อมต่อจุดบินไปทั่วโลก เผยปี’68-69 รับมอบ A321 ลอตใหญ่รวม 17 ลำเสริม Capacity เส้นทางบินระยะสั้น-กลาง เพิ่มเส้นทางบินสู่จีนอีก 5 เมืองใหญ่ หวังส่งต่อผู้โดยสารระหว่าง “จีน-ยุโรป-ออสเตรเลีย” ย้ำภาพ Network Airline พร้อมจัดหาเครื่องลำใหญ่โบอิ้ง 787 เชื่อมต่อการเดินทางระยะไกลแบบสมดุลไร้คอขวดระหว่างรอส่งมอบลอตใหญ่ 45 ลำ เพิ่มเติมอีก 8-10 ลำ มั่นใจเติบโตแข็งแกร่ง ปี’68 กวาดรายได้รวมตามเป้า 1.9 แสนล้านบาท

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้การบินไทยกลับมาแข็งแกร่งและพร้อมเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งเป็น “Network Airline” หรือสายการบินเชื่อมต่อการเดินทาง (Connecting Flight)มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) การเดินทาง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จในด้านการสร้างรายได้และกำไร รวมถึงช่วยกระจายความเสี่ยง ลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง ที่สำคัญทำให้การบินไทยมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร หรือ Cabin Factor ในช่วงโลว์ซีซั่นดีขึ้นด้วย

EBITDA Margin สูงเป็นประวัติการณ์

โดยเห็นชัดเจนจากผลประกอบการปี 2567 ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน และชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2568 ที่ผ่านมา ทำให้ครึ่งปีแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้ 44,828 ล้านบาท และสามารถสร้าง EBITDA Margin ที่ 22.78% สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมเฉลี่ย 11%

“ปัจจุบันการบินไทยมีสัดส่วนผู้โดยสาร Network หรือ Connecting Flight สัดส่วนประมาณ 20% จากก่อนหน้านี้ที่ไม่ถึง 10% และเชื่อว่าในอนาคตสัดส่วนผู้โดยสาร Connecting และรายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ไม่เพียงเท่านี้ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้การบินไทยบริหารจัดการการใช้เครื่องบินได้ดีขึ้น และมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแรงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเส้นทางการบินแบบจุดต่อจุด หรือ Point to Point การบินไทยก็ยังให้ความสำคัญเหมือนเดิม โดยปัจจุบันการบินไทยมีสัดส่วนรายได้จากตลาดยุโรป 35% เอเชีย 30% ออสเตรเลียกว่า 10% และอินเดียกว่า 10%

สร้างดีมานด์ใหม่เพิ่มทางเลือก

นายชายกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนของการบินไทยในวันนี้ คือ การบินไทยไม่ได้ต้องการแค่ผู้โดยสารเช่า-ออกประเทศไทยเท่านั้น แต่ต้องการสร้างดีมานด์ให้ผู้โดยสารมีทางเลือกเพิ่มขึ้น เพราะมองว่าผู้โดยสารที่มาต่อเครื่องก็สามารถ Generate หรือทำให้เกิดรายได้ทางเศรษฐกิจเข้าประเทศได้เช่นกัน อย่างน้อยก็มีการใช้จ่ายสำหรับรับประทานอาหาร และหากมีพื้นที่จำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรีก็จะเกิดการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

“การจะเป็นฮับการบินได้นั้นไม่ใช่ว่าทุกประเทศจะทำได้ ต้องขึ้นอยู่กับภูมิประเทศด้วย ดังนั้นประเด็นนี้รัฐบาลเองก็ควรสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นฮับการบินอย่างจริงจังด้วย เพราะประเทศไทยมีความได้เปรียบในด้านภูมิประเทศ รวมถึงมีต้นทุนการให้บริการที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ขณะที่การให้บริการเรามีมาตรฐานที่ดีกว่าด้วย” นายชายกล่าว

เร่งรับเครื่องบินใหม่เพิ่ม Capacity

สำหรับแผนการรับมอบเครื่องบินใหม่เพื่อเสริมฝูงบินและเพิ่มจำนวนที่นั่ง (Capacity) นายชายกล่าวว่า ระหว่างที่บริษัทรอรับมอบเครื่องบินใหม่ตามแผนการจัดหาเครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 45 ลำ (ปี 2570-2576) ซึ่งตามแผนจะเริ่มทยอยรับมอบในปี 2571 นั้น บริษัทมีแผนรับมอบเครื่องบินลำตัวแคบ A321 NEO 2 ลำแรกในช่วงปลายปี 2568 นี้ โดยจะรับมอบในเดือนกันยายนนี้ 1 ลำ และปลายปีอีก 1 ลำ หลังจากนั้นในปี 2569 จะรับมอบเพิ่มอีก 15 ลำ รวมสิ้นปี 2569 การบินไทยจะมีเครื่อง A321 NEO รวม 17 ลำ

นอกจากนี้ ยังได้เช่าเครื่องโบอิ้ง 787-9 เข้ามาเพิ่มอีก 1 ลำในปลายปีนี้ และอยู่ระหว่างการจัดหาเพิ่มเติมอีก 8-10 ลำในปี 2569 จากปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินจำนวน 78 ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินลำตัวกว้าง 58 ลำ ลำตัวแคบ 20 ลำ (ไทยสมายล์เดิม)

“ในช่วงปีนี้และปีหน้า 2569 เครื่องบินเรายังมาไม่เต็มฝูง และส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ ทำให้เกิดความไม่สมดุล หรือ Imbalance ของฝูงบินจึงต้องเร่งหาเครื่องบินเช่าเพิ่ม ซึ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุด คือ ประเด็นของ Capacity และความพร้อมของซัพพลายเชน ซึ่งเป็นปัญหาของสายการบินทั่วโลก” นายชายกล่าว

และนอกจากเครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 45 ลำ ตามแผนจัดซื้อแล้ว ล่าสุดการบินไทยยังได้ยืนยันสิทธิในการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติม 35 ลำ ที่ได้ทำไว้กับโบอิ้งแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในอนาคต

ลุยเปิดเส้นทางบินจีนเพิ่มเท่าตัว

นายชายกล่าวว่า เพื่อให้สอดรับกับแผนรับมอบเครื่องบินใหม่ดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องโฟกัสตลาดเส้นทางการบินระยะสั้นและระยะกลางเป็นหลักก่อน โดยล่าสุดเตรียมเพิ่มความถี่และเพิ่มเส้นทางบินใหม่สู่จีนในตารางฤดูหนาว หรือ Winter Schedule (ปลายเดือนตุลาคม 2568-มีนาคม 2569) โดยจะทยอยเพิ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

ประกอบด้วย 1.เพิ่มความถี่เส้นทางบินสู่ปักกิ่งและกว่างโจว จาก 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 14 เที่ยวบิน/สัปดาห์ 2.กลับมาเปิดเส้นทางบินในเมืองเซียะเหมิน, ฉงชิง, ฉางชา (เดิมให้บริการโดยไทยสมายล์) 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และ 3.เปิดจุดบินใหม่อีก 2 เมือง คือ อู่ฮั่น และเสิ่นเจิ้น 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์

“ปัจจุบันเราให้บริการเส้นทางบินสู่จีน 5 เส้นทางบิน คือ เซี่ยงไฮ้ 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ปักกิ่ง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เฉิงตู 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คุนหมิง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และกว่างโจว 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวม 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งตามแผนการเพิ่มเส้นทางบินและเพิ่มความถี่เส้นทางบินสู่จีน ปีหน้าการบินไทยจะมีจำนวนเที่ยวบินสู่จีนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว และคาดว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้จากเส้นทางจีนเพิ่มขึ้นจากประมาณ 5% ในปัจจุบัน เป็นไม่ต่ำกว่า 10% ในปีหน้า” นายชายกล่าวและว่า

นอกจากเส้นทางสู่จีนแล้ว เครื่องบินลำตัวแคบ A321 NEO จำนวน 17 ลำที่ทยอยรับมานั้น ส่วนหนึ่งจะนำไปรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นของตลาดอินเดียและกัมพูชา โดยมีแผนเพิ่มจุดบินใหม่สู่เมืองคยา ประเทศอินเดีย และเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา (ตารางบินฤดูหนาวนี้)

จีนตลาดใหญ่-ศักยภาพสูง

นายชายกล่าวด้วยว่า สำหรับตลาดจีนนั้น หลายคนมองว่าเป็นตลาดที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิม เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศไทยยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่การบินไทยมองว่าจำนวนคนจีนที่เดินทางออกนอกประเทศเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิดไม่ได้ลดลง การเพิ่มเส้นทางการบินสู่จีนของการบินไทยเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์เรื่องของ Network Strategy ได้ชัดเจนที่สุด เพราะวันนี้คนจีนโดยเฉพาะนักธุรกิจ กลุ่มที่มีกำลังซื้อนิยมเดินทางไปยุโรปและออสเตรเลีย

“วันนี้เส้นทางบินจีนผู้โดยสารของการบินไทย 90% เป็นผู้โดยสาร
ต่อเครื่อง ขณะเดียวกันก็มีผู้โดยสารหลากหลายสัญชาติที่มีดีมานด์เดินทางเข้า-ออกจีน ฉะนั้นการเปิดเส้นทาง
จีนไม่ได้หมายความว่าการบินไทยขนแค่คนจีนเข้าประเทศไทยเท่านั้น แต่เราขนคนจีนเชื่อมต่อไปยังยุโรป ออสเตรเลีย โดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลาง และขนคนยุโรป ออสเตรเลีย ฯลฯ เข้าจีน โดยผ่านประเทศไทยเช่นกัน” นายชายกล่าวและว่า

ที่สำคัญ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพและมีโอกาสมหาศาล และทั้ง 10 เมืองที่การบินไทยเปิดจุดบินล้วนเป็นเมืองหลักของแต่ละมณฑล และมีประชากรไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน

คาด “รายได้-กำไร” โตตามเป้า

นายชายกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ถึงภาพรวมของการท่องเที่ยวไทยด้วยว่ายังเป็นตลาดที่มีศักยภาพและสามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากดีมานด์ยังมีอยู่ทั่วโลก แต่โจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติจะมุ่งบริหารจัดการให้ทุกส่วนมีความบาลานซ์ โดยเฉพาะการบริหารจัดการฝูงบินลำตัวแคบและลำตัวกว้างเพื่อให้กระบวนการส่งต่อผู้โดยสาร Connecting Flight มีความสมดุล สอดรับกับดีมานด์การเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“ในส่วนของการบินไทยเอง เราก็ยังมั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2568 นี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 190,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีรายได้รวมที่ 180,000 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้จำนวนที่นั่ง หรือ Capacity เพิ่มไม่มากนัก โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถสร้าง EBITDA Margin ได้สูงเป็นประวัติการณ์ และเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ การบินไทยก็จะยังสามารถรักษา EBITDA Margin ในระดับนี้ได้” นายชายกล่าวและว่า

ส่วนตัวมองว่าวันนี้การบินไทยไม่มีจุดอ่อน เป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง และพร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน และเชื่อว่าหากมีปัจจัยภายในที่ทำให้เป็นจุดอ่อนบริษัท ก็มีศักยภาพในการบริหารจัดการได้ดีกว่าในอดีตแน่นอน แต่ความท้าทายจากปัจจัยภายนอกยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของการป้องกันไม่ให้วัฒนธรรมในอดีตกลับมามีผลต่อการบริหารงาน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : การบินไทยตอกย้ำภาพ Network Airline รุกบินจีนเพิ่มเชื่อมผู้โดยสารทั่วโลก

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (27 ส.ค. 68) บทวิเคราะห์โดย YLG Bullion

14 นาทีที่แล้ว

ราคาน้ำมันดิบ (27 ส.ค.) ปรับลด นักลงทุนกังวลมาตรการภาษีสหรัฐ-คว่ำบาตรรัสเซีย

23 นาทีที่แล้ว

ดุสิตธานี เตรียมประชุมผู้ถือหุ้น ถอด "ชนินทธ์ โทณวณิก" พ้นบอร์ด

23 นาทีที่แล้ว

ราคาทองวันนี้ (27 ส.ค. 68) ดีดขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 52,850 บาท

34 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

"เงินเย็น VS เงินแช่แข็ง" เส้นบางๆ ที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้!

Thairath Money

ราคาทองวันนี้ 27/08/68 ปรับขึ้น 200 บาท รูปพรรณขายออก 52,850 บาท

สยามรัฐ

ราคาทองวันนี้ 27 สิงหาคม 2568 ล่าสุด ราคาปรับเพิ่ม 200 บาท ราคาทองรูปพรรณ บาทละ 52,850 บาท

Thairath Money

ราคาน้ำมันดิบ (27 ส.ค.) ปรับลด นักลงทุนกังวลมาตรการภาษีสหรัฐ-คว่ำบาตรรัสเซีย

ประชาชาติธุรกิจ

ราคาทองวันนี้ 27 ส.ค. 68 ครั้งที่ 1 พุ่ง 200 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 52,850 บาท

sanook.com

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

AEC10NEWs

ราคาบิตคอยน์วันนี้ (27 ส.ค. 68) ขยับขึ้น 1.35%

TNN ช่อง16

ราคาทองวันนี้ 27 ส.ค. ปรับขึ้นรวดเดียว 200 บาท

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

การบินไทยตอกย้ำภาพ Network Airline รุกบินจีนเพิ่มเชื่อมผู้โดยสารทั่วโลก

ประชาชาติธุรกิจ

อดีตพระอลงกต-หมอบี ปฏิเสธทุกข้อหา เตรียมฝากขังศาลอาญาวันนี้

ประชาชาติธุรกิจ

รูดปรื๊ดแข่งดุเปิดศึกชิงลูกค้า ชี้ครึ่งปีแรกหดตัว-ลุ้นฟื้น Q4

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...