"เงินเย็น VS เงินแช่แข็ง" เส้นบางๆ ที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้!
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "เงินเย็น" คำฮิตติดปากในโลกการลงทุนที่บ่งบอกถึงความรอบคอบและชาญฉลาด แต่ในความจริงแล้ว นักลงทุนมือใหม่จำนวนไม่น้อยยังสับสนและเข้าใจผิดว่า แค่มีเงินเหลือใช้ ก็เรียกว่า “เงินเย็น”แล้ว
ซึ่งความเชื่อนี้ ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป เพราะเงินเหลือใช้ที่ไม่ได้ถูกนำไปสร้างโอกาส อาจเป็นได้แค่ "เงินแช่แข็ง" ที่กำลังเสื่อมค่าลงไปเรื่อย ๆ อย่างน่าเสียดาย
เงินเย็น คืออะไร?
ในหนังสือ : เงิน เงิน 101 ก้าวแรกก่อนลงทุน โดย Jitta สำนักพิมพ์ Spacebook ให้ความรู้ว่า เมื่อคุณมีเงินเหลือ จากรายจ่ายในชีวิตประจำวัน และเงินเก็บสำรองฉุกเฉินทุกประการแล้ว เงินส่วนที่เหลือ ที่คุณไม่มีแผรต้องใช้ใน 3-5 ปี ก็คือ “เงินเย็น” นั่นเอง
ว่าง่ายๆ เงินเย็น หมายถึง เงินที่เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
เป็นเงินที่พร้อมจะทำงานและเติบโต เหมือนปลูกเมล็ดพันธุ์ในดินที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อเวลาผ่านไป เมล็ดพันธุ์จะเติบโตเป็นต้นไม้ที่ให้ผลผลิต ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่เราจะได้ในอนาคต
โดยสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการมีเงินเย็นเยอะ ๆ อาจเริ่มได้ ด้วยการเริ่มวางแผนการบริหารเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ผ่านวิธีเก็บเงิน ที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ การใช้งานแอปรายรับรายจ่ายเพื่อจดบันทึกค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน หากเป็นกรณีที่มีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเยอะจะได้ไหวตัวทัน และปรับพฤติกรรมการใช้เงิน หันมาออมเงินเพื่อเป็นเงินเย็นแทนที่จะนำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในแต่ละวันแทน
แล้วเงินแช่แข็ง คืออะไร?
เงินแช่แข็ง (Frozen Money) คือเงินที่ไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ หรือเงินที่ถูกเก็บไว้ในที่ที่ไม่มีการเติบโต เช่น บัญชีออมทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยต่ำ หรือการเก็บเงินสดไว้เฉย ๆ ภายใต้หมอนหรือในตู้เซฟ เงินประเภทนี้ดูเหมือนจะปลอดภัย
แต่ความจริงแล้วมันกำลังถูก "แช่แข็ง" ด้วยภาวะเงินเฟ้อที่กัดกินมูลค่าลงไปทุกวัน เงินก้อนนี้จะยิ่งลดกำลังซื้อลงเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ต่างอะไรจากน้ำแข็งที่ค่อย ๆ ละลายไปเองตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
เดิมเรามีเงินในกระเป๋า 100 บาท เมื่อต้นปี 2561 ผ่านไป 5 ปี เงินเฟ้อเฉลี่ย 5 ปี ตั้งแต่ปี 2561 - 2565 เท่ากับ 1.66% ทำให้มูลค่าเงินที่เราจะเหลิออยู่ มีค่าแค่ 91.91 บาท เท่านั้น นั่นหมายถึง เราจะไม่สามารถซื้ออะไรที่เงิน 100 บาท เคยซื้อได้อีกแล้ว และยิ่งผ่านระยะเวลาหลายๆปี มูลค่าเงินเราก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ
หรือ เมื่อก่อนเงิน 10 บาท ซื้อชาเย็นได้ 2 แก้ว แต่ปัจุบัน เงิน 10 บาท ซื้อชาเย็นไม่ได้สักแก้ว
วิธีเปลี่ยน "เงินแช่แข็ง" ให้เป็น "เงินเย็น"
การแยกเงินสองประเภทนี้ออกจากกันอย่างชัดเจน คือ จุดเริ่มต้นของการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ และนี่คือ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะช่วยเปลี่ยน "เงินแช่แข็ง" ของคุณให้เป็น "เงินเย็น" ที่พร้อมทำงาน
- สำรวจและทำความเข้าใจสถานะทางการเงิน: ลองสำรวจดูว่าเงินในบัญชีของคุณส่วนไหนบ้างที่ไม่ได้ถูกนำไปใช้จ่ายและมีแนวโน้มว่าจะไม่ถูกใช้ในระยะเวลาอันใกล้
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: กำหนดเป้าหมายสำหรับเงินก้อนนั้น เช่น เพื่อการเกษียณในอีก 20 ปี, เพื่อดาวน์บ้านในอีก 5 ปี หรือเพื่อซื้อกองทุนรวมในอีก 1 ปี การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสม
- เริ่มลงทุนอย่างมีวินัย: เมื่อระบุ "เงินแช่แข็ง" ได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะทำให้มัน "เย็น" ลงและพร้อมทำงานแทนคุณ ลองเริ่มต้นด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน, พันธบัตรรัฐบาล, หรือกองทุนรวมผสม เพื่อให้เงินของคุณเริ่มเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ แนวทางการลงทุนที่เป็นที่นิยม สำหรับการลง “เงินเย็น” ยังมีอีกหลายวิธี เช่น
- ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ สำหรับเงินเย็นจำนวนมาก
- ลงทุนหุ้น เพื่อผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว
- ลงทุนทองคำ เพื่อรักษามูลค่าของเงิน
อย่างไรก็ดี ทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ข้อมูลจาก เคทีซี แนะนำว่า ก่อนจะนำเงินเย็นไปลงทุน เราควรทำความเข้าใจจุดแข็งจุดอ่อนของการลงทุนแต่ละประเภท เพื่อเข้าใกล้เป้าหมายทางการเงินมากกว่าเดิม โดยการนำเงินเย็นไปลงทุนสามารถช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับเป้าหมายทางการเงินในอนาคต เช่น วางแผนเกษียณอายุ และอื่น ๆ
สุดท้าย การมีวินัยทางการเงินที่แท้จริงไม่ใช่แค่การออมเงิน แต่คือการรู้จักบริหารจัดการเงินแต่ละส่วนให้เหมาะสม เงินเย็นไม่ใช่เงินก้อนโตที่ต้องมีในตอนเริ่มต้น
แต่เป็น "วินัย" ก้อนเล็ก ๆ ที่จะเติบโตเป็นอิสรภาพทางการเงินในวันหน้า อย่าปล่อยให้เงินที่เราหามาอย่างเหนื่อยยากต้องถูก "แช่แข็ง" และเสื่อมค่าไปอย่างน่าเสียดาย แต่ให้เริ่มทำให้เงินของเรา "เย็น” ลง และพร้อมทำงานตั้งแต่วันนี้ เพื่อรอผลลัพธ์ที่น่าทึ่งในอนาคต
ที่มา : หนังสือ เงินเงิน 101 ก้าวแรกก่อนลงทุน , ktc ,ธนาคารกสิกรไทย
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "เงินเย็น VS เงินแช่แข็ง" เส้นบางๆ ที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถิติชี้หุ้นไทยบวกเฉลี่ย 10% ใน 2 เดือน หลังศาลตัดสิน “คดีผู้นำ” เตรียมส่องจังหวะลงทุน
- หวยเกษียณถ้าซื้อทุกงวด แต่ "ไม่ถูกรางวัล" เลยจะคุ้มไหม? เริ่มซื้อตอนอายุเท่านี้จะมีเงินสะสมเท่าไร
- เมื่อผมถูกมิจฉาชีพหลอก
- "เงินเย็น VS เงินแช่แข็ง" เส้นบางๆ ที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้!
- หุ้นไทย รอดหรือร่วง ลุ้นคำตอบดีล “ภาษีทรัมป์” โค้งสุดท้ายก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.นี้ หวังอัตราภาษีฯ 20%
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath