ตร.ศรีสะเกษ ลุยเก็บหลักฐานชิ้นส่วนจรวด BM-21 เตรียมดำเนินคดี "ผู้นำกัมพูชา"
ตำรวจศรีสะเกษ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และเก็บหลักฐานสอบปากคำพยานเพิ่ม เตรียมดำเนินคดีกับผู้นำกัมพูชา กรณีมีการใช้อาวุธจรวดและกระสุนปืนใหญ่ยิงเข้ามาในพื้นที่ตำบลในเมือง อำเภอกันทรลักษณ์ จนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต และบ้านเรือนพังเสียหาย
ความเคลื่อนไหวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 คณะพนักงานสอบสวนจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษณ์ ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.กันทรลักษณ์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ และหน่วยอีโอดีจังหวัดศรีสะเกษ นำกำลังลงพื้นที่ 7 จุด ในพื้นที่ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเก็บวัตถุพยานและชิ้นส่วนวัตถุระเบิดเพิ่มเติม เพื่อนำหลักฐานส่งตรวจพิสูจน์ ประกอบสำนวนการสอบสวน เพื่อเตรียมดำเนินคดีอาญากับผู้ที่กระทำความผิด (ผู้นำกัมพูชา) จากกรณีที่มีการยิงอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ในห้วงเวลาวันที่ 24 - 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงมีบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย
โดยนอกจากจะมีการลงพื้นที่รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว ยังได้มีการสำรวจความเสียหายของประชาชน และสอบปากคำพยานเบื้องต้น ก่อนจะมีการเชิญตัวไปให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับจุดที่ทางเจ้าหน้าที่มีการลงตรวจพิสูจน์ในวันนี้ ทุกจุดเป็นจุดที่มีจรวด BM-21 ตกใส่ และสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน ประกอบไปด้วย
1. ร้านค้า (บ้านพ่อนารี) บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง
2. บ้านยายสำราญ คันศร กำแพงเสียหาย
3. สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเมือง หลังคาเสียหาย ฝ้าพัง
4. สวนยางและทุ่งนาข้าว ด้านหลังปั๊มน้ำมัน ปตท.น้ำเย็น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะกำลังหยอดน้ำกรดที่ต้นยางพารา และยังมี BM-21 ตกค้างยังไม่ถูกทำลายอีก 1 ลูก
5. ร้านข้าว และบ้านนางคำพอง พรมลา อายุ 72 ปี ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนบ้านผือ จรวด BM-21 ตกใส่หน้าบ้านห่างไปประมาณ 10 เมตร บ้านและร้านข้าวเสียหาย
6. อู่ซ่อมรถ นายสงกรานต์ รากแก่น ร้านพังเสียหาย รถตัวเองและรถลูกค้าเสียหายรวม 5 คัน
และจุดสุดท้าย (7.) บ้านของชาวบ้านน้ำเย็นใต้ หมู่ 9 บ้านเสียหาย
นางคำพอง พรมลา อายุ 72 ปี เล่าวินาทีที่จรวดบีเอ็ม 21 ของกัมพูชาตกใส่หน้าบ้าน ซึ่งตอนนั้นตัวเองกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน และคุยโทรศัพท์กับลูกสาว ซึ่งบอกว่า “แม่ไม่ต้องอพยพหรอก ระเบิดอยู่ไกลตกไม่ถึงบ้าน” แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ระเบิดก็ตกใส่หน้าบ้าน สะเก็ดระเบิดเฉียดไปเพียงนิดเดียว แต่ด้วยความตกใจตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก จึงรีบวิ่งหนีขึ้นรถกระบะของเพื่อนบ้านแล้วออกไปโดยไม่คิดชีวิต และเพิ่งเข้ามาสำรวจความเสียหายของบ้าน เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่าบ้านเสียหายหลายจุด ทั้งเสาบ้าน ประตู หน้าต่าง ถ้วยชาม ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้มาประเมินความเสียหาย บอกว่าจะจ่ายค่าเยียวยาให้ 20,000 บาท ซึ่งส่วนตัวก็เห็นว่าน้อยไป ไม่เพียงพอที่จะซ่อมบ้านด้วยซ้ำ
ด้านนายสงกรานต์ รากแก่น อายุ 47 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถ “ช่างนุ” เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถยนต์ของลูกค้าเข้ามาจอดรอซ่อม รวม 4 คัน และรถของตัวเอง 1 คัน จอดอยู่ด้านหน้าร้าน จนกระทั่งช่วงบ่าย จรวด BM-21 ตกใส่ถนน และสะเก็ดระเบิดกระเด็นใส่รถยนต์ของลูกค้า และรถของตัวเองด้วยรวม 5 คัน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพราะอพยพไปหมดแล้ว
ส่วนค่าเสียหาย ได้ประเมินให้ลูกค้าคันละ 40,000-50,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประเมินค่าเสียหายที่แท้จริง ซึ่งก็อยากได้ค่าเสียหายเต็มจำนวนตามที่เสนอไป
นายสงกรานต์ยังบอกว่า เมื่อปี 2554 ที่มีการสู้รบบริเวณชายแดน ก็ไม่เคยมีกระสุนปืนใหญ่ตกมาถึงตำบลเมือง ทำให้ไม่มีใครเตรียมตัวเก็บข้าวของ ทำให้ได้รับความเสียหายแบบนี้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ตร.ศรีสะเกษ ลุยเก็บหลักฐานชิ้นส่วนจรวด BM-21 เตรียมดำเนินคดี "ผู้นำกัมพูชา"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “โรม” เฉ่ง “แพทองธาร” ไร้ความรับผิดชอบ จี้ กต. เอากัมพูชาขึ้นศาล ICC
- ชาวบ้านพื้นที่ชายแดน เรียกร้องให้สร้าง "รั้วกำแพง" ปิดพรมแดนไทย-กัมพูชา
- "ชัยวุฒิ" ชี้หลักฐานชัดกัมพูชาวางทุ่นระเบิด หนุนฟ้องผู้นำกัมพูชา
- รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เปิดความจริง "ช่องอานม้า" ปัญหาที่ยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน
- ศบ.ทก. ซัดละครฉากใหญ่ กัมพูชารับบทผู้ถูกกระทำ ย้ำ หลักฐานชัดสาธิตใช้ทุ่นระเบิด
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath