'นพ.วีระพันธ์' โพสต์เหตุผล 5 ข้อ 'รพ.ไทย' รับ 'กัมพูชา' รักษาไม่ได้
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค เพื่อให้ความเห็นต่อกรณีที่โรงพยาบาลในเขตประเทศไทย ไม่สามารถรับผู้ป่วยจากกัมพูชาได้ ว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา มีเหตุปะทะเกิดขึ้นระหว่างกองกำลังของทั้งสองประเทศ โดยประเทศไทยอยู่ในสถานะป้องกันตัว และไม่ใช่ผู้เริ่มความรุนแรง แต่เป็น ฝ่ายกัมพูชา ที่เริ่มใช้กำลังโจมตี ซึ่งรวมถึงการยิงเข้าใส่พื้นที่พลเรือนของไทย ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งในเขตชายแดนได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
1. โรงพยาบาลในพื้นที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีโดยตรงของกัมพูชา พบว่ามีโรงพยาบาลที่ต้องปิดให้บริการทั้งหมด จำนวน 11 แห่ง และยังมี โรงพยาบาลที่เปิดได้เพียงบางส่วน (เฉพาะห้องฉุกเฉิน) จำนวน 9 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับผลกระทบ 144 แห่ง พบว่าปิดให้บริการทั้งหมด 140 แห่ง และเปิดให้บริการบางส่วนเพียง 4 แห่ง
"โรงพยาบาลบางแห่งได้รับความเสียหายจากกระสุนและแรงระเบิดโดยตรง มีบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัย" นพ.วีระพันธ์ ระบุ
นพ.วีระพันธ์ ระบุต่อว่า 2. ขาดความพร้อมในการให้บริการทั้งด้านกำลังคนและทรัพยากร เพราะสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ชายแดนจำนวนมากไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ บางส่วนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ โรงพยาบาลหลายแห่งมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอ ระบบน้ำ ไฟฟ้า และการสื่อสารมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจากนอกพื้นที่ โดยเฉพาะจากประเทศที่เป็นต้นเหตุของความเสียหาย
3. ความไม่ปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายและดูแลผู้ป่วยจากประเทศต้นเหตุของการโจมตี
"ครั้งนี้กัมพูชาผู้ที่ร้องขอความช่วยเหลือกลับเป็นฝ่ายที่ใช้กำลังทำลายโครงสร้างพื้นฐานของระบบสาธารณสุขไทย ทั้งยังสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนไทย การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากกัมพูชาในสถานการณ์เช่นนี้จึงไม่สามารถกระทำได้โดยปลอดภัยหรือเหมาะสม" นพ.วีระพันธ์ ระบุ
นพ.วีระพันธ์ โพสต์ทิ้งท้ายด้วยว่า สรุปว่า ประเทศไทยไม่สามารถรับผู้ป่วยจากกัมพูชาได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่สำคัญดังต่อไปนี้
1.โรงพยาบาลไทยจำนวนมากได้รับความเสียหายโดยตรงจากการโจมตีของกัมพูชา
2.ระบบสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนล่มเกือบทั้งหมด
3. บุคลากรทางการแพทย์ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ
4.ความปลอดภัยของผู้ให้บริการและผู้ป่วยไม่สามารถรับประกันได้
5.ประเทศไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนของตนเองก่อน จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประเทศไทยจะยังไม่สามารถดำเนินบทบาทด้านมนุษยธรรมกับกัมพูชาได้ตามเจตนาดีที่มีต่อกันในอดีต