โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คะแนนนิยมอุ๊งอิ๊งดิ่งเหวที่สุด

ไทยโพสต์

อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 7.02 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"เพื่อไทย" ปรามม็อบเคลื่อนไหวรับผิดชอบสังคม อย่าซ้ำเติมสถานการณ์ ยันบ้านเมืองต้องการเอกภาพ "รวมพลังแผ่นดินครั้งที่ 2" แจงส่งกำลังใจทหาร พร้อมสื่อสารผู้นำไร้วุฒิภาวะ "สวนดุสิตโพล" เผยดัชนีการเมือง ก.ค. ร่วงทุกด้าน "ท็อป-เท้ง" บทบาทเด่น "อิ๊งค์" รั้งท้าย สะท้อนประชาชนไม่พอใจรัฐบาลปมชายแดนไทย-เขมร "ซูเปอร์โพล" ชี้พลังเงียบเสื่อมศรัทธาการเมืองน้ำเน่า หนุนผู้นำรุ่นใหม่-พรรคเล็ก

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 10.00 น. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยว่า พรรคเพื่อไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบนั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนในระบอบประชาธิปไตย พรรคพร้อมที่จะป้องหลักการดังกล่าวอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ประเทศกำลังเผชิญสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทยกับกัมพูชา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สังคมไทยต้องการความร่วมมือ ความเข้าใจ และความเป็นเอกภาพจากทุกภาคส่วน จึงขอความร่วมมือจากทุกกลุ่มทุกฝ่าย ให้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการแสดงออกทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงออกที่อาจจะทำให้เกิดการซ้ำเติมต่อสถานการณ์ หรือขยายความขัดแย้งทางสังคมในช่วงเวลาที่เปราะบางนี้

"พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล พร้อมรับฟังเสียงจากประชาชนทุกกลุ่ม แต่ขอให้ความเคลื่อนไหวตั้งอยู่บนฐานของความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และไม่กลายเป็นชนวนของความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ในช่วงเวลาที่ประเทศเรานั้นต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างสูงสุด" รองโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุ

ด้านนายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า เป็นการนัดชุมนุมรวมพลังประชาชนที่รักชาติ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพในการปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออก ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ทำให้เกิดปัญหาข้อพิพาทจนนำไปสู่การสู้รบไทย-กัมพูชา แต่การที่รัฐบาลมีผู้นำที่ไร้วุฒิภาวะ เป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้การทำหน้าที่ของกองทัพมีปัญหาในหลายเรื่อง นอกจากนั้น ประชาชนที่เดินทางมาร่วมการชุมนุมได้ช่วยกันนำข้าวสาร อาหารแห้ง บริจาคเงิน เพื่อส่งมอบให้กองทัพภาคที่ 2 เพื่อส่งต่อให้กับทหารที่ชายแดนและประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งได้ส่งมอบเรียบร้อยแล้ว

สำหรับจำนวนประชาชนที่มาร่วมกันชุมนุมครั้งนี้ ใกล้เคียงกับการชุมนุมเมื่อ 28 มิ.ย.68 แม้จะน้อยลงบ้าง ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเวลา 18.00 น. มีผู้เข้าร่วมการชุมนุม 12,357 คน แต่ตัวเลขจริงของผู้ชุมนุม ต้องคูณ 2-3 เท่า อยู่ในราว 30,000-35,000 คน การชุมนุมของพี่น้องประชาชนครั้งนี้ นอกเหนือจากได้ช่วยกันส่งกำลังใจไปให้ทหารหาญได้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว ยังเป็นการสื่อสารให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชนที่ติดตามการถ่ายทอดสดทางรายการโทรทัศน์ ช่องทางโซเชียล ทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศด้วย

"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนกรกฎาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,171 คน ระหว่างวันที่ 26-31 ก.ค.2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน ก.ค.2568 เฉลี่ย 3.86 คะแนน ลดลงจากเดือน มิ.ย.2568 ที่ได้ 4.13 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 4.36 คะแนน แต่ลดลงจากเดือนก่อน ส่วนตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือ ผลงานของนายกรัฐมนตรี 3.43 คะแนน ซึ่งลดลงเช่นกัน

สำหรับนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือนคือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ร้อยละ 44.05 รองลงมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 29.85 และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ร้อยละ 26.10

ด้านนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือนคือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ และหัวหน้าพรรคประชาชน ร้อยละ 45.79 รองลงมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 28.28 และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ร้อยละ 25.93

ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ ทำหนังสือชี้แจงสหประชาชาติ ร้อยละ 42.21 รองลงมา ดูแลช่วยเหลือประชาชนชายแดนไทย ร้อยละ 40.51 และนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ร้อยละ 17.28

ขณะที่ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ ตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาล ร้อยละ 40.28 รองลงมา ติดตามเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อยละ 30.75 และการแก้รัฐธรรมนูญ ร้อยละ 28.97

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า สถานการณ์ไทย-กัมพูชา กระทบความเชื่อมั่นประชาชนและฉุดคะแนนดัชนีการเมืองไทยลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะผลงานนายกรัฐมนตรีที่ตกไปอยู่ลำดับท้ายเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังมีปัญหาปากท้องและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บวกกับการทำงานของภาครัฐที่เดินเกมช้าเหมือนแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถาม และคาดหวังว่ารัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาให้เท่าทันความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น

ผศ.กัญญกานต์ เสถียรสุคนธ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า เดือน ก.ค. ประเทศไทยมีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการทุจริตและประพฤติมิชอบที่ขัดต่อพระธรรมวินัยในวงการสงฆ์ การเจรจาต่อรองกำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกา คลิปเสียงระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน การใช้กำลังปะทะของทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ

โดยเฉพาะประเด็นผลงานของนายกฯ ที่ตกต่ำที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของประชาชนต่อการทำงานของภาครัฐ และการสื่อสารที่ล่าช้าของฝ่ายรัฐบาลในการตอบโต้กับกัมพูชาเกี่ยวกับการปะทะทางทหารบริเวณชายแดน เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน สร้างผลกระทบอย่างยิ่งต่อความรู้สึกสูญเสียของคนไทยทั้งประเทศ ทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล โดยยังมองไม่เห็นแนวทางที่จะฟื้นฟูหรือสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมาในระยะเวลาอันใกล้

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยว่า สำนักวิจัยซูเปอร์โพลได้ศึกษาเปิดใจพลังเงียบต่อการเมืองระหว่างวันที่ 28 ก.ค. ถึง 2 ส.ค.2568 จำนวนทั้งสิ้น 1,102 ตัวอย่าง พบกลุ่มพลังเงียบแสดงความรู้สึกเบื่อหน่ายและผิดหวังการเมืองอย่างชัดเจน โดยมากถึงร้อยละ 79.3 ระบุว่ารู้สึกเบื่อ สับสน ไม่แน่ใจว่าอะไรคือความจริงทางการเมือง ขณะที่ร้อยละ 75.2 หมดศรัทธาต่อระบบการเมืองโดยรวม และร้อยละ 71.6 ไม่สนใจการเมืองอีกต่อไป สิ่งที่สะท้อนชัดคือ ภาพการเมืองไทยวนเวียนอยู่กับคนหน้าเดิม พรรคเดิม (ร้อยละ 69.4) และมีมุมมองว่า พรรคการเมืองใหญ่คือ ต้นตอของปัญหา (ร้อยละ 67.1) ไม่สามารถสร้างความหวังใหม่ให้กับประชาชนได้อีกต่อไป นี่คือ “อาการทางสังคม” ของการเสื่อมศรัทธาแบบกว้างขวาง ที่บ่งชี้ถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนตัวบุคคล

ที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มพลังเงียบมีความหวังต่อผู้นำรุ่นใหม่ที่มีคุณลักษณะดังนี้ ร้อยละ 83.7 ต้องการผู้นำที่เด็ดขาด กล้าหาญ รักชาติ, ร้อยละ 81.6 ชอบผู้นำที่พูดตรง ทำจริง ไม่สร้างภาพ, ร้อยละ 80.0 ต้องสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจยุคใหม่และมีความสามารถด้านธุรกิจ รวมทั้งแนวโน้มการสนับสนุนพรรคขนาดเล็กและตั้งใหม่กำลังชี้ให้เห็นกระแสแห่งความหวัง, ร้อยละ 37.9 ระบุว่าสนับสนุนมากถึงมากที่สุด ดังนั้น ผลโพลนี้คือสัญญาณเตือนต่อพรรคการเมืองขนาดใหญ่.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘วิน ศิริวงศ์’ จูงมือแฟนสาว เข้าพิธีแต่งงานสุดอบอุ่น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ทหารเสียชีวิตคุณอยู่ไหน?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถอยเถิดทหารกล้า?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

งานด่วนในมือ พม.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ด่วน! ชาวบ้านผวา ได้ยินเสียงดังบนท้องฟ้าพร้อมลูกไฟขนาดใหญ่

Khaosod

อินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แม้ทรัมป์ขู่ลงโทษ

JS100

สหราชอาณาจักรขู่จำคุกผู้ลักลอบขนคนเข้าเมืองที่ลงโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย

JS100

เผยวงจรปิดอีกมุม หลัง "เป๊ก ผลิตโชค" ถูกแทง ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง

Khaosod

ไฟฟ้าดับวันนี้ 4-6 ส.ค.นี้ กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ อัปเดตที่นี่

ฐานเศรษฐกิจ

อินเดียไม่สนคำขู่ทรัมป์ สั่งซื้อน้ำมันรัสเซียต่อ ด้านมอสโกเริ่มซ้อมรบร่วมกับจีน ในเขตทะเลญี่ปุ่น

Manager Online

ภูเขาไฟรัสเซียปะทุครั้งแรกในรอบกว่า 500 ปี

JS100

แฉทรัมป์‘หมกมุ่น’อยากได้รางวัลโนเบลสันติภาพ เพราะโหยหาเกียรติยศ-ริษยาโอบามา-ลิ่วล้อเชลียร์

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...