โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

ฟินแลนด์ ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 7 ปีซ้อนกลับมีคนฆ่าตัวตายสูงอันดับที่ 4 ในกลุ่มชาติเจริญแล้ว

Reporter Journey

อัพเดต 28 มิถุนายน 2568 เวลา 0.23 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Reporter Journey

ฟินแลนด์ ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 7 ปีซ้อน

กลับมีคนฆ่าตัวตายสูงอันดับที่ 4 ในกลุ่มชาติเจริญแล้ว
ความหนาว ความเหงา ความเหลื่อมล้ำ กำลังคร่าชีวิต

ทุกคนต่างเคยเห็นข่าวการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกในทุกๆ ปี ซึ่งในปี 2024 ฟินแลนด์ยังคงรั้งอันดับ 1 ถึง 7 ปีติดต่อกันตามรายงาน World happiness report หรือรายงานความสุขของโลก ทีเป็นผลสำรวจผ่านความร่วมมือระหว่าง Gallup, ศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ที่ดีของออกซ์ฟอร์ด, เครือข่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยสำรวจข้อมูลจากผู้คนใน 140 ประเทศทั่วโลก ด้วย 6 ตัวแปร ได้แก่ GDP ต่อหัว การสนับสนุนทางสังคม อายุขัยที่มีสุขภาพดี เสรีภาพ ความเอื้ออาทร และการรับรู้เรื่องการคอร์รัปชัน

อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ระบบการศึกษาดีที่สุดในโลกอีกด้วย จนทั่วโลกต้องยกเป็นกรณีศึกษาว่า ทำอย่างไรฟินแลนด์ที่ประเทศตั้งอยู่ใกล้กับแถบขั้วโลกเหนืออันแสนหนาวเหน็บถึงสามารถพัฒนาระดับคุณภาพชีวิตผู้คนได้สูงเพียงนี้

แน่นอนว่าอันดับโลกที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือในระดับนานาชาติ ย่อมเป็นการการันตีที่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะฉายภาพให้ฟินแลนด์นั้น เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในทุกๆ ด้านต่อสายตาชาวโลก และทำให้ผู้คนมองภาพตามว่า นี่คือดินแดนสวรรค์ที่ใครๆ ต่างก็อยากไปใช้ชีวิต

แต่ในความเป็นจริงของโลกมนุษย์ ไม่มีสิ่งใดๆ สมบูรณ์แบบ 100% และในด้านที่ไม่สมบูรณ์นั้น อาจถูกอำพรางความดำมืดของสังคมที่ใครก็คาดไม่ถึงว่า ดินแดนอันแสนสุข จะมีความทุกข์ห่อหุ้มอยู่โดยไม่อาจปกปิดซ่อนเร้นเอาไว้ได้

จากข้อมูลของ Wisevoter เว็บไซต์ที่รวบรวมฐานข้อมูลด้านสังคม การเมือง และคุณภาพชีวิตรายงานว่า ฟินแลนด์ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก แต่กลับมาอัตราการฆ่าตัวตายอยู่ในอันดับที่ 37 ของโลกในปี 2024 ใกล้เคียงกับประเทศยากจนในทวีปแอฟริกาอย่าง นามิเบีย ชาด กายาน่า และกาบอง โดยมีสัดส่วนที่ 13.5 คนต่อ 1 แสนคนต่อปี สูงกว่าประเทศไทยที่อยู่อันดับ 99 ที่ 8 คนต่อ 1 แสนคนต่อปี

ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ในประเทศกลุ่มนอร์ดิก และครองอันดับที่ 4 ของโลกในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วรายได้สูงรองจากเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และเบลเยี่ยม

อะไรทำให้ประเทศที่ถูกยกย่องว่าผู้คนมีความสุข 7 ปีซ้อนถึงมีการฆ่าตัวตายสูง

อันที่จริงแล้วการที่ฟินแลนด์ตั้งอยู่ในประเทศในแถบใกล้ขั้วโลกเหนือนั้น มีผลอย่างมาต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในประเทศ ด้วยการที่ต้องอยู่ท่ามกลางความเหน็บหนาวเป็นเวลานานเกือบทั้งปี และการได้รับแสงแดดค่อนข้างน้อย ทำให้ผู้คนในประเทศนี้อยู่ในสภาวะ “โรคซึมเศร้า” สูง

อาการเหล่านี้เรียกว่า “ความผิดปกติทางอารมณ์ตามฤดูกาล หรือ Seasonal Affective Disease (SAD) เป็นภาวะซึมเศร้าประเภทหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลตามธรราติ ซึ่งอาการ SAD เริ่มต้นและสิ้นสุดในเวลาเดียวกันทุกปี โดยมักจะเริ่มในฤดูใบไม้ร่วงและดําเนินต่อไปในฤดูหนาว

อย่างที่ทราบคือ ฤดูหนาวในประเทศที่อยู่ตอนเหนือของโลก อุณหภูมิจะอยู่ในระดับติดลบมากกว่า -10°C และอาจไปถึง -50°C ได้ในช่วงที่สภาพอากาศเลวร้ายที่สุดของทุกปี ทำให้ผู้คนไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเนื่องจากต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บสุดขั้ว ความหมองหม่นของท้องฟ้า และพายุหิมะที่โหมกระหน่ำจนหิมะท่วมสูงถนนและทางเดิน

ประกอบกับเป็นช่วงที่ต้องใช้ชีวิตในวันที่ไร้แสงแดดเพื่อให้ความอบอุ่น โดยบางพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับขั้วโลกอาจจะไม่เห็นแสงแดดยาวนาน 10 เดือนติดต่อกัน ท้องฟ้าตอนกลางวันไม่ต่างกับตอนกลางคืน ชีวิตในความมืดอันแสนยาวนานทำให้ผู้คนรู้สึกห่อเหี่ยว ไร้ความสุขได้ง่าย

ผลที่เกิดขึ้นกับมนุษยคือ ทําให้ระดับพลังงานในร่างกายลดลงและรู้สึกหงุดหงิดง่าย ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แต่บ่อยครั้งที่ SAD ทําให้เกิดภาวะซึมเศร้าในฤดูใบไม้ผลิหรือต้นฤดูร้อนและหายไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวเช่นกัน

การขาดแสงแดดส่งผลต่อการทํางานของ “Serotonin (เซโรโทนิน)” ในสมองซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่รับผิดชอบในการควบคุมอารมณ์ เมื่อแสงแดดเริ่มลดลงในฤดูใบไม้ร่วง ร่างกายจะเริ่มผลิตโปรตีนที่เรียกว่า Serotonin-Reuptake Transporter (SERT) มากขึ้น การที่ระดับของ SERT สูงขึ้นนําไปสู่การทำให้ระดับของเซโรโทนินลดลง และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะอารมณ์ซึมเศร้า

ในกรณีส่วนใหญ่อาการผิดปกติทางอารมณ์ตามฤดูกาลจะปรากฏขึ้นในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงหรือต้นฤดูหนาวและหายไปในช่วงวันที่แดดจัดของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน โดยทั่วไปคนที่มีรูปแบบตรงกันข้ามจะมีอาการที่เริ่มในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน ไม่ว่าในกรณีใด อาการอาจเริ่มต้นจะไม่รุนแรง แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาการจะค่อยๆ รุนแรงขึ้นตามวัฏจักกรที่ฤดูกาลดําเนินไป

สำหรับสัญญาณและอาการของ SAD ได้แก่

  • รู้สึกกระสับกระส่าย เศร้า หรือท้อแท้เกือบทั้งวัน เกือบทุกวัน

  • หมดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ

  • มีพลังงานต่ำและรู้สึกเฉื่อยชา

  • มีปัญหาในการนอนหลับมากเกินไป

  • ประสบกับความอยากกินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไปและน้ําหนักตัวเพิ่มขึ้น

  • มีปัญหาต่อการมีสมาธิจดจ่อ

  • รู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า หรือรู้สึกผิด

  • มีความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่

กรณีมีอาการ SAD ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว : อาการเฉพาะสําหรับ SAD ที่เริ่มมีอาการในฤดูกาลนี้บางครั้งเรียกว่า “ภาวะซึมเศร้าในฤดูหนาว” โดยจะมีอาการคือ
.

  • นอนมากเกินไป

  • ความอยากอาหารเปลี่ยนไปโดยเฉพาะความอยากอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง

  • น้ําหนักตัวเพิ่มขึ้น

  • เหนื่อยล้าหรือพลังงานต่ำ
    .

กรณีอาการ SAD ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน : อาการที่เฉพาะเจาะจงสําหรับความผิดปกติทางอารมณ์ตามฤดูกาลที่เริ่มมีอาการในฤดูร้อน ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “ภาวะซึมเศร้าในฤดูร้อน” โดยจะมีอาการคือ

  • ปัญหาการนอนไม่หลับ

  • มีความเบื่ออาหาร

  • น้ำหนักลด

  • เกิดความปั่นป่วนในจิตใจ ฟุ้งซ่าน หรือวิตกกังวล

  • ความหงุดหงิดเพิ่มขึ้น

การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลส่งผลต่อโรคอารมณ์สองขั้ว

ผู้ที่เป็นโรคอารมณ์สองขั้ว หรือโรคไบโพลาร์มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อสภาวะอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล ในบางคนที่เป็นไบโพลาร์อยู่แล้ว อาการคลุ้มคลั่งอาจเชื่อมโยงกับฤดูกาลที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนสามารถทําให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งหรือรูปแบบที่รุนแรงน้อยกว่าของความบ้าคลั่ง (hypomania) ความวิตกกังวลความปั่นป่วนและความหงุดหงิด แต่ในทางกลับกันอาจประสบกับภาวะซึมเศร้าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

การเกิดอารมณ์แปรปรวนซ้ำๆ ติดต่อกันยาวนานตลอดทั้งชีวิต ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยเผชิญกับอาการป่วยเรื้อรังจากการเปลี่ยนแปลงฤดูกาล และหากไม่ได้รับการรักษา ความรุนแรงจะพัฒนาไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้า ไบโพลาร์อย่างถาวร และจุดจบคือการฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากอาการเจ็บป่วยเหล่านี้ในที่สุด

แม้รายได้สูงแต่รายจ่ายก็สูง ความเหลื่อมล้ำยิ่งสูง

แม้คุณภาพชีวิตผู้คนในฟินแลนด์จะอยู่ในระดับสูงหากมองผ่านสายตาผู้คนในประเทศกำลังพัฒนา แต่เชื่อหรือไม่ว่า ฟินแลนด์กลับมีความเหลือมล้ำทางรายได้สูงและกำลังห่างชั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างคนจน คนชนชั้นกลาง และคนรวย

ตามรายงานขององค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป (OECD) ระบุว่า 70% พลเมืองของฟินแลนด์ที่อายุระหว่าง 15 - 64 ปีมีงานทำรับค่าจ้างสูงกว่าค่าเฉลี่ยการจ้างงานของกลุ่มชาติสมาชิก OECD ที่ 68% แต่รายได้สุทธิต่อหัวของครัวเรือนที่หักลบการจ่ายภาษีแล้วโดยเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 29,943 ดอลลาร์หรือราว 1 ล้านบาท กลับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ที่ 33,604 ดอลลาร์หรือ ราว 1.1 ล้านบาท

สาเหตุมาจากการที่ประเทศแถบนอร์ดิกส่วนใหญ่มีอัตราค่าครองชีพสูงติดอันดับหัวแถวของโลก อีกทั้งการจัดเก็บภาษีบุคคลธรรมดาก็อยู่ในอันดับท็อบ 5 ของประเทศที่พลเมืองต้องจ่ายภาษีหนักที่สุด เพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการรัฐสวัสดิการต่างๆ

โดยฟินแลนด์มีการเก็บภาษีจากรายได้บุคคลธรรมดาสูงเป็นอันดับ 6 ของกลุ่มประเทศ OECD ในปี 2565

อัตราภาษีที่เก็บจากรายได้บุคคลธรรมดาอยู่ที่ 20.64 - 59% แต่โดยเฉลี่ยแล้วชาวฟินแลนด์ผู้มีเงินได้จะต้องจ่ายภาษีอัตราเฉลี่ยสูงถึง 56.95% หรือกล่าวคือ ถ้าในแต่ละเดือนหาเงินได้ 100,000 บาท แค่จ่ายภาษีอย่างเดียวก็หักไป 56,950 บาทแลว ซึ่งยังไม่ได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั้งค่าช่าบ้าน ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าของใช้ส่วนตัว และการสันทนาการ

แต่ถ้าหากนำเงินไปลงทุน ก็ต้องจ่ายภาษีที่จัดเก็บจากรายได้จากการลงทุนอยู่ในอัตรา 30 - 34% ส่วนภาษีรายได้นิติบุคคลเก็บขั้นต่ำอยู่ที่ 20% และอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 24%

เมื่อค่าครองชีพที่สูงมากขึ้น ยิ่งทำให้การใช้ชีวิตเพื่อเข้าสังคมยิ่งน้อยลง เพราะผู้คนต่างก้มหน้าก้มตาเพื่อหาเงินในแต่ละเดือนในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และการจ่ายภาษีที่หนักอึ้งอยู่แล้ว ดังนั้นผู้คนในฟินแลนด์กำลังโดนสภาวะความเหงากัดกินจิตใจ

ทั้งนี้ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยมักได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเพียงแค่จะทำมาหากินให้เพียงพอในแต่ละเดือนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เพียงเท่านั้นการเจ็บป่วยทางจิตยังส่งผลต่อการถูกกีดกันในการทำงาน

โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าก็มักจะถูกกีดกันออกจากตลาดแรงงาน และการขาดงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะซึมเศร้าก็กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนึ่งที่เชื่อมโยงการถูกกีดกันจากงานที่ได้รับค่าจ้างด้วยเช่นกัน ซึ่งซ้ำเติมให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองด้อยคุณค่าในสังคม และนำพาไปสู่การฆ่าตัวตาย

เมื่อผู้คนรู้สึกโดดเดี่ยว ท่ามกลางความเหงาและหนาวเหน็บ ที่พึ่งพาของคนเหงาที่ง่ายที่สุดคือการหันไปหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติด โดยความเจ็บป่วยทางใจที่ต้องพึ่งพาการใช้สารเสพติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนฟินแลนด์คิดเป็น 4% ของประชากร ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรปที่ 2.4%

อย่างไรก็ตามยังมีมิติทางสังคมอื่นๆ อีกมากมายที่กดดันให้ชาวฟินแลนด์อาจต้องใช้ชีวิตที่ “มีความสุขแบบทุกข์ๆ” จากความคาดหวังผ่านสายตาของคนทั้งโลก แต่ด้วยธรรมชาติความเป็นมนุษย์ ไม่มีความสุขใดคงอยู่อย่างถาวร หรือมีความทุกข์ใดที่คงอยู่ตลอดไป

ในภาพรวมฟินแลนด์อาจจะดูดี แต่สิ่งที่ซ่อนไว้ภายใต้เปลือกภายนอกนั้นคือ ปัญหามากมายที่ผู้คนมักมองข้ามผ่าน และอาจทำให้ลืมพิจารณาลงไปให้ลึกว่า สังคมโลกไม่มีที่ใดสมบูรณ์แบบ ที่ที่คิดว่าดีที่สุดอาจไม่ใช่ที่ที่อยู่แล้วมีความสุขที่สุดก็ได้ หรือที่ที่คิดว่าแย่ในสายตาของตัวเอง อาจจะเป็นสวรรค์ของใครมากมายที่รู้สึกว่านี่คือที่ที่เหมาะสมที่จะลงหลักปักฐานชีวิต

ฉะนั้นจงหาที่ที่เหมาะสมกับตัวเราให้เจอ และชีวิตที่มีความสุขจะเกิดขึ้นในความพอดีตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นที่ที่คนอื่นบอกว่า “มีความสุขที่สุดในโลก”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Reporter Journey

ในวันที่ T-Beauty Thai โตสวนทางเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

NIA ร่วมกับ จุฬาฯ จัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม ผลักดันให้เติบโตไประดับโลก

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่น ๆ

ปรับครม. นายกฯ แพทองธาร ควบรัฐมนตรีวัฒนธรรม คุมงบซอฟต์พาวเวอร์พันล้านในมือ

ฐานเศรษฐกิจ

“บิ๊กเต่า” สั่งสอบทรัพย์สิน “จ.น.” อดีตตำรวจดัง ร่ำรวยผิดปกติ

THE ROOM 44 CHANNEL
วิดีโอ

ขยี้! “แม่ทัพภาค2” ถูกผู้นำด่า เอาใจกัมพูชา ถึงกับทรยศชาติ แฉแผนเอาทหารยัดคุก?

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

กาจผจญฯ เข้าปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการ รฟม. วันแรก เตรียมพร้อมสานต่อภารกิจและขับเคลื่อนนโยบายรัฐ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”

สวพ.FM91

ข่าวดี! ตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน 423 บาท/ถัง 15 กก.ถึงสิ้น ก.ย.

ฐานเศรษฐกิจ

ทลายโรงงานผลิตบุหรี่ไฟฟ้าพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

สยามนิวส์

“จตุพร บุรุษพัฒน์” ลาออกบอร์ดปตท. แต่งตัวรอขึ้นแท่น รมว.พาณิชย์

ฐานเศรษฐกิจ
วิดีโอ

"ชูวิทย์" แฉ "ฮุน เซน – ทักษิณ" แตกคอกลางแผนเปิดบ่อน "เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ"

THE ROOM 44 CHANNEL

ข่าวและบทความยอดนิยม

เมื่อระบบผิดพลาด แต่สังคมกลับ ‘โทษเหยื่อ’

Reporter Journey

ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงคราม ในศตรวรรษที่ 21

Reporter Journey

“Self-Serving Bias” เวลาสำเร็จคิดว่าเพราะความสามารถ แต่พอผิดพลาด เรากลับโทษโชคชะตา

Reporter Journey
ดูเพิ่ม
Loading...