AOT ยืนยันให้ คิง เพาเวอร์ ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างการเจรจา
AOT ยืนยันให้ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจรจา หลัง 25 มิ.ย.ที่ผ่านมาอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการขยายเวลาจ่ายเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ทั้ง 6 สนามบินที่ขาดสภาพคล่อง
วันที่ 28 มิ.ย.2568 บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) ชี้แจงผ่านเพจAOT Official ว่า ตามที่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) มีหนังสือถึงAOT เพื่อขอหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ KPD ยังคงสามารถประกอบกิจการตามสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรจำนวน 3 สัญญาต่อไปได้ หรือข้อยุติอื่นๆ รวมถึงแนวทางในการพิจารณาหากจะมีการขอยกเลิกสัญญาฯ
โดยในระหว่างการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้ข้อยุติ KPD ได้ขอชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนของสัญญาอนุญาตฯ ดังกล่าวทั้ง 3 สัญญา เฉพาะอัตราร้อยละ 20 ของยอดจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในแต่ละเดือนนั้น
แต่ AOTได้ยืนยันกับ KPD แล้วว่า AOTจะเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนตามเงื่อนไขสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 AOTอนุมัติให้ KPD เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของAOT ที่ขาดสภาพคล่องทั้ง 3 สัญญา ได้แก่
(1) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
(2) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และ
(3) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
โดยให้ KPD สามารถแบ่งชำระส่วนต่างและเลื่อนกำหนดชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำเพียงบางส่วนออกไปอีกงวดละ 8 เดือนสำหรับงวดดังต่อไปนี้
- เดือนมิถุนายน - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ทสภ.
(ยกเว้นเฉพาะงวดเดือนมิถุนายน 2568 ให้เลื่อนออกไป 6 เดือน) - เดือนกันยายน - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ทดม.
- เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ทภก. ทชม. และ ทหญ.
โดย KPD ต้องชำระดอกเบี้ยในอัตรา 8.8440% ต่อปี (คิดตาม MLR+2) ซึ่งเป็นไปตามมาตรการก่อนหน้าของค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ค้างชำระในแต่ละงวดให้แก่AOT ทุกเดือน ซึ่ง AOT ได้ดำเนินการตรวจสอบหลักประกันสัญญาของ KPD แล้ว พบว่า ยังครอบคลุมค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ KPD ขอเลื่อนชำระรวมกับค่าปรับในอัตรา 18% จากการผิดนัดชำระ
ทั้งนี้ เพื่อให้ความเชื่อมั่นต่อAOT ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน AOTได้ขอให้ KPD นำหลักประกันสัญญามาวางเพิ่มเติม และ KPD ยืนยันจะชำระเงินที่เรียกเก็บตามสัญญาบางส่วน พร้อมชำระดอกเบี้ยในส่วนที่ชำระล่าช้าตามโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินฯ ระหว่างที่รอผลการศึกษาและวิเคราะห์ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรให้มีความเหมาะสมกับการดำเนินงานและบริบททางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
AOT ยืนยันว่า AOTยังคงมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง มีเสถียรภาพ และมีสภาพคล่องเพียงพอ สำหรับรองรับการดำเนินงานตามแผนพัฒนาท่าอากาศยาน และโครงการต่างๆ ที่วางไว้ ภายใต้การดำเนินงานด้วยหลักธรรมาภิบาลควบคู่กับการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างรอบคอบ โปร่งใส และเป็นระบบ พร้อมทั้งมีการกำกับดูแลภายในที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ นักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
AOT ตั้งกรรมการศึกษาแนวทางสัมปทาน Duty Free คาดได้ข้อสรุปใน 60 วัน