"ศรีจันทร์" ยอดขายพุ่ง 1.6 พันล้าน ดัน T-beauty รุกตลาดโลก l การตลาดเงินล้าน
คุณ รวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติไทย "ศรีจันทร์" และ "ศศิ" บอกว่า ปัจจุบันกระแส ไทย บิวตี้ (Thai Beauty) ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในประเทศเองและตลาดต่างประเทศ ทำให้สินค้าแบรนด์ไทยเป็นที่ยอมรับ เห็นได้จากสัญญาณยอดขายของบริษัทฯ ใน สปป.ลาว เติบโตขึ้นมากกว่าเท่าตัว
สะท้อนถึงศักยภาพของแบรนด์ไทย ในการยกระดับสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลกขณะเดียวกัน บริษัทฯ เองก็มีความพร้อมมากขึ้นในการต่อยอดไปสู่การเป็น โกลบอล แบรนด์ ด้วยการนำเสนอความเป็นไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านผลิตภัณฑ์ของศรีจันทร์
ในระยะแรกจะเน้นขยายเข้าไปในตลาดเอเชีย เน้นการหาความร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นดิสทริบิวเตอร์ ที่พร้อมจะสร้างแบรนด์ไปด้วยกัน อย่างไรก็ดี ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการขยายไปตลาดลาว และจากผลตอบรับที่ดี ทำให้เชื่อว่า ลาวเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง อีกตลาดที่เห็นสัญญาณที่ดี คือ ญี่ปุ่น โดยมีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งในตลาดญี่ปุ่นผ่านช่องทางออฟไลน์มากกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศ และยังเป็นแบรนด์เครื่องสำอางแรกของไทย ที่ บันได บริษัทของเล่นญี่ปุ่น ซื้อลิขสิทธ์ตลับแป้งไปทำเป็นกาชาปอง ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีที่ จีน และอีกหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งพบว่ายังมีโอกาสในการขยายตลาดได้อีกมาก ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศยังมีไม่มากนัก แต่ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตในตลาดต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจนมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 10-15 ภายใน 3 ปี
โดย ศรีจันทร์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 76 ปีแล้ว และตั้งแต่หลังโควิดที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างโดดเด่นมาต่อเนื่อง
ปี 2565 ศรีจันทร์ มียอดขายอยู่ที่ 717 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต ร้อยละ 42.02
ปี 2566 ทำยอดขายเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,000 ล้านบาทได้สำเร็จ หรือมียอดขายอยู่ที่ 1,019 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตราการเติบโต ร้อยละ 41.92
ล่าสุด ปี 2567 มียอดขายกว่า 1,600 ล้านบาท คิดเป็นเติบโตจากปีก่อนหน้าร้อยละ 58.98 โดยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ล้วนมีการเติบโตมากกว่าตลาดรวม ได้แก่ กลุ่มเมคอัพ เติบโตร้อยละ 11 เทียบกับตลาดรวม เติบโตเพียงร้อยละ 0.58 กลุ่มสกินแคร์ เติบโตมากกว่าเท่าตัว ที่ 148% แต่ตลาดรวมเติบโตเพียงร้อยละ 3.39 และครีมกันแดด ศรีจันทร์ เติบโตร้อยละ 73 แต่ตลาดรวมหดตัวลงร้อยละ 1.65
และสำหรับปี 2568 นี้ วางเป้าหมายเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 30 หรือมียอดขายกว่า 2,000 ล้านบาท เป็นรายได้จากช่องทางออฟไลน์ร้อยละ 90 และออนไลน์ร้อยละ 10 โดยจะกระจายช่องทางการขายให้มากขึ้น รวมถึงการขยายพอร์ตกลุ่มสินค้าให้หลากหลาย อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลัง จะเน้นทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้นเพื่อผลักดันการเติบโต
คุณ รวิศ กล่าวด้วยว่า สมัยก่อนคนอาจจะรู้จักศรีจันทร์ จากแป้งม่วง(แป้งฝุ่นตลับสีม่วง) แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่รู้จักศรีจันทร์ผ่านผลิตภัณฑ์ สกินแคร์ ซึ่งกลุ่ม สกินแคร์ แม้จะเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นพอร์ตที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ รองลงมาคือ กลุ่มเมคอัพ และอันดับ 3 คือกลุ่มครีมกันแดด
สำหรับภาพรวมของตลาดความงามในประเทศ ประเมินคร่าว ๆ มีมูลค่าตลาดอยู่กว่า 270,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้สัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และโดยปกติ ตลาดรวมจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ราวร้อยละ 7-10 ต่อปี แต่ยังเชื่อมั่นว่าปีนี้ ตลาดยังคงเติบโตเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกัน แม้ว่าเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบันจะชะลอตัวลง แต่ยังเชื่อว่าคนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความงาม แต่พฤติกรรมการเลือกซื้ออาจจะเปลี่ยนไป และให้สนใจในเรื่องราคามากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดเคล็ดลับความสำเร็จ การสร้างแบรนด์ PIPATCHARA กับ คุณเพชร ‘ภิพัชรา’ แก้วจินดา
- "Co-op" ค้าปลีกอังกฤษคว่ำบาตรสินค้าจากอิสราเอล l การตลาดเงินล้าน
- "ศรีจันทร์" ยอดขายพุ่ง 1.6 พันล้าน ดัน T-beauty รุกตลาดโลก l การตลาดเงินล้าน
- นโยบายใหม่ "Ford" เรียกพนักงาน กลับออฟฟิศ 4 วันต่อสัปดาห์ l การตลาดเงินล้าน
- ม.หอการค้าประเมินปิดด่าน “กัมพูชา” หากลากยาว 1 ปี ฉุดส่งออกวูบ 6.9 หมื่นล้าน