ผลสอบชี้ 'แอร์ อินเดีย' ตก หลังเครื่องยนต์ 2 ตัวดับกลางอากาศ
สำนักข่าวซินหัว รายงานอ้างสื่อท้องถิ่นว่า รายงานการสอบสวนเบื้องต้นจากสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศยานของอินเดีย (ABI) ที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (12 ก.ค.) ระบุว่า เครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องของเครื่องบินสายการบินแอร์อินเดียที่พุ่งตกเมื่อไม่นานนี้ ดับกลางอากาศภายในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากบินขึ้น
รายงานข้างต้นระบุว่า ก่อนที่เครื่องบินเอไอ171 (AI171) จะพุ่งตก สวิตช์ควบคุมการไหลของเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องได้สับเปลี่ยนจาก "RUN" (เดินเครื่อง) เป็น "CUT OFF" (ปิดการทำงาน) ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เป็นเหตุให้เครื่องยนต์ของเครื่องบินหยุดทำงาน
เสียงบันทึกในห้องนักบินแสดงให้เห็นว่า หนึ่งในนักบินถามว่า"ทำไมคุณถึงตัด (เชื้อเพลิง)" และนักบินอีกรายหนึ่งตอบกลับว่า "ผมไม่ได้ทำ"
รายงานอุบัติเหตุดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าสวิตช์ทั้งสองตัวถูกย้ายกลับสู่ตำแหน่ง "RUN" และแม้ว่าเครื่องยนต์ 1 จะแสดงสัญญาณกลับมาเดินเครื่อง แต่เครื่องยนต์ 2 กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ภาพจากกล้องวงจรปิดจากท่าอากาศยาน แสดงให้เห็นว่ากังหันอากาศแบบแรม (RAT) ทำงานช่วงเครื่องบินไต่ระดับเบื้องต้นทันที หลังจากเครื่องทะยานขึ้น โดยไม่พบกิจกรรมที่สำคัญของนกในบริเวณใกล้เคียงกับเส้นทางการบิน และเครื่องบินลำนี้เริ่มลดระดับความสูงลง ก่อนบินข้ามผ่านกำแพงโดยรอบท่าอากาศยาน
รายงานชี้ว่า การที่กังหันอากาศแบบแรมถูกเปิดใช้งาน บ่งชี้ว่าเครื่องบินสูญเสียกำลัง และแรงขับโดยสิ้นเชิง
รายงานยังเผยว่า ขณะพุ่งตกการตั้งค่าแฟลป หรือปีกสร้างแรงยก (flap) และตำแหน่งของล้อลงจอดเป็นปกติ
รายงานระบุว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้จะกลายเป็นประเด็นสำคัญในการสืบสวนในอนาคต
อนึ่ง เครื่องบินโบอิง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ของ แอร์อินเดีย ซึ่งมุ่งหน้าสู่กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร ประสบเหตุพุ่งตกเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.หลังบินขึ้นไม่นานจากท่าอากาศยานนานาชาติสารดาร วัลลัภภาย ปาเตล ในเมืองอาห์มดาบาด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากคานธีนคร เมืองหลวงของรัฐคุชราฏ ทางตะวันตกของประเทศไปทางใต้ประมาณ 17 กิโลเมตร ส่งผลให้ผู้โดยสาร และลูกเรือรวม 242 คนเสียชีวิตทั้งหมด ยกเว้นเพียงผู้โดยสาร 1 รายที่รอดชีวิต และทำให้มีผู้เสียชีวิตบนพื้นดินอีก 19 ราย