จุดจบ SAWAD..จุดตายหุ้นจำนำทะเบียนรถ / สุนันท์ ศรีจันทรา
หุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ หมดความคึกคักมาพักใหญ่แล้ว และมีแนวโน้มเป็นหุ้นอีกกลุ่มที่หมดอนาคต ไม่มีความน่าสนใจ จนนักลงทุนทยอยขายทิ้ง ราคาจึงดิ่งลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD
หุ้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถระดับแนวหน้า และเคยเป็นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม ประกอบด้วย SAWAD หุ้น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และหุ้น บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR
ราคาหุ้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถทั้ง 3 บริษัท ถดถอยลงเรื่อยๆ และเพิ่งสร้างจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากคาดหมายว่า ผลประกอบการมีแนวโน้มชะลอตัวลง หนี้เสียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และจะถูกธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามากำกับดูและเหมือนสถาบันการเงินต่าง ๆ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2568
ย้อนหลังไปประมาณ 5 ปี หุ้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถ ยังเป็นหุ้นกลุ่มดาวรุ่งที่นักลงทุนแห่งเข้าไปเก็งกำไร ผลประกอบการเติบโตสูง แม้แต่หุ้น TIDLOR ซึ่งถือเป็นหุ้นจำนำทะเบียนรถขนาดใหญ่ที่เพิ่งเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังได้รับอานิสงส์ไปด้วย
เพราะหุ้นที่นำมาเสนอขายประชาชนทั่วไปในราคา 36.50 บาท ซึ่งถือว่าแพงมาก แต่นักลงทุนกลับจองซื้อกันหมด และประเดิมเข้าซื้อเข้าวันแรกเมื่อ 10 พฤษภาคม 2564 ราคาพุ่งทะยานขึ้นไปปิดที่ 53.50บาท สูงกว่าราคาจอง 17 บาท หรือสูงกว่าจอง 46.58%
แต่หลังจากนั้น ราคาย่อลงมาตลอด และราคาปิดวันแรกที่ 53.50 บาท อาจเป็นราคาที่นักลงทุนอาจไม่มีโอกาสได้เห็นกันอีก โดยล่าสุด หุ้น TIDLOR ลงมาปิดที่ 16.00 บาท
หุ้น SAWAD ซึ่งขยายสาขาอย่างไม่หยุดยั้ง จนปัจจุบันมีมากกว่า 6,000 สาขาทั่วประเทศ และในช่วงที่จับมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารออมสินรุกสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเมื่อปี 2564
เป็นช่วงที่ SAWAD รุ่งโรจน์ที่สุด ราคาหุ้นพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวันติการณ์เฉียด 100 บาท แต่ล่าสุดปิดที่ 17.10 บาท
ส่วน MTC เคยรุ่งเรืองสุดขีด จน 2 ผู้ถือหุ้นใหญ่ นางดาวนภาและนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ คู่สามีภรรยา ติดทำเนียบมหาเศรษฐีหุ้นลำดับที่ 7 และ 8 เป็นครั้งแรก ด้วยหุ้น MTC ที่ถืออยู่และคำนวณเป็นเงินคนละกว่า 4 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2562 และติดทำเนียมหาเศรษฐีหุ้นติดต่ออยู่หลายปี
MTC มีสาขาอยู่จำนวนกว่า 8,000 สาขา ราคาหุ้นเคยพุ่งขึ้นสูงสุดที่ระดับ 70-80 บาท แต่ล่าสุดร่วงลงมาปิดที่ 35.50 บาท
ความรุ่งโรจน์ของหุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เกิดขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้าในอัตราสูงลิ่ว มีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ มากมาย บางบริษัทร่างสัญญาที่เอาเปรียบผู้กู้ จนถูกบริโภคร้องเรียน มีคดีฟ้องร้องกันมากมาย
จุดเปลี่ยนของธุรกิจจำนำทะเบียนรถ เริ่มตั้งแต่ธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มเข้ามาควบคุมดอกเบี้ย การแข่งขันที่สูงขึ้น โดยธนาคารพาณิชย์โดดร่วมวงแข่งขันด้วย ขณะที่ปัญหาหนี้เสีย มีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะลูกค้าเห็นช่องโหว่ทางกฎหมาย ไม่ยอมชำระหนี้ และยอมให้ยึดทะเบียนรถ แต่ไม่สามารถตามยึดรถได้ ทำให้หนี้เสียมีแนวโน้มสูงขึ้น
จุดตายของหุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เกิดขึ้นเมื่อแบงก์ชาติ จะเข้ากำกับดูและบริษัทที่ปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ มีผลตั้งแต่ 2 ธันวาคมนี้ เพื่อคุ้มครองสร้างความเป็นธรรมให้ผู้บริโภค โดยกำหนดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อรวมค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไม่เกิน 28% ต่อปี
ส่วนต่างกำไรหรือมาร์จิ้นที่บริษัทจำนำทะเบียนรถ เคยโขกจากลูกค้าในอัตราสูง จะถูกแบงก์ชาติควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นธรรม ซึ่งจะทำให้แนวโน้มผลประกอบการหุ้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถชะลอตัวลง ขณะที่แนวโน้มหนี้เสียสูงขึ้น เพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าลดลง
และอาจเผชิญกับลูกค้าที่อาจจงใจเบี้ยวหนี้มากขึ้น โดยปล่อยให้ทะเบียนรถที่จำนำไว้ถูกยึด แต่นำรถไปขาย พร้อมจะถูกฟ้องเรียกชำระหนี้ ซึ่งถึงเวลานั้น ลูกค้าก็ไม่เหลือทรัพย์สินใด ๆ แล้ว
หุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ กำลังหลุดจากจอเรด้าร์ของนักลงทุน จากหุ้นที่เก็งกำไรกันร้อนแรง ซื้อขายคึกคัก และมักติด 10 อันดับหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด แต่ปัจจุบันหลุดหายจากสายตาไปแล้ว
ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกเข้ามาเยือนหุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแล้ว ราคาหุ้นที่ลงมาต่ำแสนต่ำ ถูกแสนถูก จึงไม่ค่อยมีนักลงทุนอยากเข้าไปแตะ
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO