โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

ลุ้นดีลภาษีสหรัฐชี้ชะตา! หวังสูงไทยไม่เสียเปรียบเวียดนาม-อินโดฯ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขณะที่หลายประเทศคู่แข่งสำคัญในภูมิภาคอาเซียน อย่างเวียดนามและอินโดนีเซีย สามารถปิดดีลกับสหรัฐได้แล้ว โดยยอมลดอัตราภาษีนำเข้าของตนให้สหรัฐเหลือ 0% แลกกับสหรัฐลดภาษีนำเข้าให้เหลือเพียง 19-20% ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ทีมไทยแลนด์ที่อยู่ระหว่างการเจรจากับสหรัฐอย่างมาก

เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า ส.อ.ท. ได้เร่งจัดทำรายงานผลกระทบของภาษีสหรัฐฯ ครอบคลุม 47 กลุ่มอุตสาหกรรมใน 11 คลัสเตอร์ ส่งมอบให้กระทรวงพาณิชย์เพื่อนำไปใช้ประกอบการเจรจาของทีมรัฐบาลไทยที่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะเจรจาไปแล้ว

“ก่อนหน้านี้ เรายังได้ข้อมูลไม่ครบทุกกลุ่ม เพราะประธานในหลายกลุ่มสินค้าได้ติดภารกิจในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วที่เป็นช่วงลองวีคเอน ดังนั้นจึงทยอยรวบรวมเท่าที่ได้ก่อนและส่งต่อไปแล้ว ส่วนที่เหลือได้เร่งจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้เพื่อให้เห็นภาพรวมความเสียหายจากภาษี 36% ชัดเจนที่สุด”

เกิน 50% สินค้าไทยชนเวียดนาม

นายเกรียงไกรชี้ว่า จุดที่น่ากังวลคือ สินค้าส่งออกหลักของไทยกว่า 50% ไปชนกับเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้เวียดนามสามารถปิดดีลการเจรจากับสหรัฐได้แล้ว โดยได้รับการลดอัตราภาษีจาก 42% ลงเหลือ 20% และอินโดนีเซียจาก 32% เหลือ 19%

โดยที่ทั้งสองประเทศยอมลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐทุกรายการลงเป็น 0% พร้อมพ่วงเงื่อนไขการซื้อสินค้าจากสหรัฐล็อตใหญ่ ซึ่งได้สร้างความพอใจให้สหรัฐ ขณะที่ไทยยังถูกตั้งภาษีอยู่ในระดับ 36% เท่าเดิม หากยังไม่มีความคืบหน้า สินค้าไทยจะเสียเปรียบต้นทุนภาษีสูงกว่าเวียดนามถึง 16% อินโดนีเซีย 17% และมาเลเซีย 11% อย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ส.อ.ท.ได้จำลอง 4 ฉากทัศน์

ฉากทัศน์ 1 หากไทยถูกเก็บภาษีเต็ม 36% มูลค่าส่งออกไทยปีนี้อาจหายไป 8-9 แสนล้านบาท จีดีพีปีนี้อาจติดลบ 0.5-1% และเสี่ยงต่อการย้ายฐานผลิตของนักลงทุนไปยังประเทศที่ได้อัตราภาษีดีกว่าไทย

ฉากทัศน์ที่ 2 สหรัฐลดภาษีนำเข้าให้ไทยเหลือ 20-25% บางสินค้าพอที่จะแข่งขันได้กับประเทศที่มีส่วนต่างภาษีไม่มากนัก แต่บางสินค้าจะไม่สามารถแข่งขันได้เลย แม้ภาษีเราจะสูงกว่าประเทศคู่แข่งเพียง 1 หรือ 2% โดยเฉพาะการแข่งขันกับสินค้าจากเวียดนามที่มีโครงสร้างสินค้าส่งออกใกล้เคียงกับไทย จะส่งผลให้จีดีพีไทยขยายตัวได้เพียง 1-1.5%

ฉากทัศน์ที่ 3 สหรัฐลดภาษีไทยลงเหลือ 15-20% ไทยจะได้เปรียบบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาคนี้ จะทำให้ส่งออกไทยขยายตัวได้ 1-2% และจีดีพีขยายตัวได้ 1.5-2%

ฉากทัศน์ที่ 4 สหรัฐปรับลดภาษีไทยลงเหลือตํ่ากว่า 15% จะทำให้ไทยได้เปรียบประเทศคู่แข่งขัน และจะขยายการค้ากับสหรัฐได้มากขึ้น ส่งออกไทยอาจขยายตัวได้ 3-4% จีดีพีปีนี้จะโตมากกว่า 2% และที่สำคัญจะช่วยดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเพื่อใช้เป็นฐานผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดยังเป็นเพียงการคาดการณ์ในแต่ละฉากทัศน์ คงต้องรอผลการเจรจาและปิดดีลกับสหรัฐว่าไทยจะได้รับอัตราภาษีเท่าใด

ตั้งความหวังภาษีไม่เสียเปรียบ

“ภาคเอกชนมีความคาดหวังต่อการเจรจาของรัฐบาลไทย อย่างน้อยที่สุดอัตราภาษีที่ได้ต้องไม่เสียเปรียบเวียดนาม ซึ่งการที่เวียดนามยอมเปิดตลาดให้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐทุกกลุ่มเหลือ 0% เป็นทางเลือกที่ยากสำหรับไทย เพราะเรามีภาคเกษตรและ SME เป็นกลุ่มเปราะบาง หากทำตามอาจกระทบฐานรากเศรษฐกิจของประเทศ”

ทั้งนี้ สหรัฐมักใช้ภาคเกษตรเป็นหมากตัวใหญ่ในเจรจา โดยเฉพาะสินค้าหมู ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง และเนื้อวัว ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรครีพับลิกัน ซึ่งไทยยังไม่พร้อมเปิดตลาด 0% ในหมวดเหล่านี้ เพราะมีเกษตรกรและห่วงโซ่ซัพพลายเชนจำนวนมากที่ต้องได้รับการคุ้มครอง

แจงภาษีตอบโต้รวมภาษีพื้นฐานแล้ว

นายเกรียงไกรยังชี้แจงประเด็นที่หลายฝ่ายสับสนเกี่ยวกับภาษีพื้นฐาน (Baseline Tariff) ที่สหรัฐจัดเก็บจากทุกประเทศคู่ค้าไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งหากไทยถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ 36% จะหมายรวมถึงภาษีพื้นฐาน 10% แล้ว ไม่ใช่นำมาบวกเพิ่มเป็น 46%

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการเร่งด่วนขณะนี้ คือ ข้อมูลเปรียบเทียบเชิงลึกจากภาครัฐ เพื่อใช้ประเมินการแข่งขันได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะภาพรวมต้นทุนของไทยเมื่อเทียบกับเวียดนาม อินโดนีเซีย และประเทศอาเซียนอื่น ๆ ซึ่งหลายประเทศมีต้นทุน ภาษีตํ่ากว่า แต่รัฐยังขาดระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและทันเวลา จึงต้องอาศัยภาคเอกชนจัดทำเอง

“การเจรจาครั้งนี้ ไม่เพียงเดิมพันกับมูลค่าการส่งออกเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความสามารถในการรักษาสถานะประเทศไทยในห่วงโซ่การผลิตโลกและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ หากไทยพลาดดีล หรือได้อัตราภาษีที่เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้าน อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นตัวกลับมา” นายเกรียงไกร กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

กรมอุตุฯประกาศฉบับ 4 อีสาน กลาง ตะวันออก ใต้ 19 จว.ฝนตกหนักถึงหนักมาก

22 นาทีที่แล้ว

"เศรษฐา" ลุ้นข่าวดี “ภาษีทรัมป์” คาดไทยถกสหรัฐฯ อีกรอบ

24 นาทีที่แล้ว

ปตท.สผ. คว้า 9 รางวัลระดับเอเชีย สะท้อนความเป็นเลิศการบริหารองค์กร

52 นาทีที่แล้ว

กรมปศุสัตว์ ให้การต้อนรับคณะผู้ตรวจประเมิน รางวัลเลิศรัฐ คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0

59 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

สาวสองนำคลิปร้องสื่อ หลังถูกกลุ่มแท็กซี่โบ๊ท ยกพวกกว่า 10 คัน รุมทำร้าย

สยามนิวส์

"เศรษฐา" ลุ้นข่าวดี “ภาษีทรัมป์” คาดไทยถกสหรัฐฯ อีกรอบ

ฐานเศรษฐกิจ

“วิษณุ” จ่อเป็นพยาน 30 ก.ค.นี้ คดี "ทักษิณ" ชั้น 14

THE ROOM 44 CHANNEL

โรงเรียนดังขอโทษแล้ว หลังมีดราม่าปมตัดผมนักเรียนหญิง

สยามนิวส์

กรมปศุสัตว์ ให้การต้อนรับคณะผู้ตรวจประเมิน รางวัลเลิศรัฐ คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0

ฐานเศรษฐกิจ

กัมพูชา ปัดตอบระเบิดเก่า-ใหม่ ย้ำชี้จุดเกิดเหตุเป็นเขตใคร

สยามนิวส์

"บิ๊กเต่า" ยืนยันร่วมสำนักพุทธฯ เดินหน้าสางคดี สีกากอล์ฟ ย้ำไม่ได้ขัดแย้ง

สวพ.FM91
วิดีโอ

สารภาพสิ้น! "สีกากอล์ฟ" ยอมรับตรงๆ ใครคือพ่อที่แท้จริงของลูก ๆ ทั้ง 3 คน!?

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...