โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ทบ. แจง 18 ผู้ช่วยทูตทหาร ปมวางทุ่นระเบิดใหม่เขตไทย ทูตกัมพูชา ไม่โต้แย้ง

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

22 ก.ค. กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ได้เชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย รวม 18 ประเทศ (เวียดนาม, มาเลเซีย, เมียนมา, สิงค์โปร, อินเดีย, ญี่ปุ่น,ฟิลิปปินส์,อังกฤษ, บรูไน, ปากีสถาน, ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย, จีน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, กัมพูชา และรัสเซีย) เข้าร่วมประชุมรับฟังคำชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์และกรณีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี โดยมี พลโท กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการประชุม ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก

สำหรับข้อมูลที่กรมข่าวทหารบกได้ชี้แจงต่อผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยประกอบด้วย รายละเอียดสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในวันที่ 16 ก.ค.68 พร้อมยืนยันอย่างชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดที่พบไม่ใช่ของไทย โดยหน่วยพิสูจน์ทราบได้พิสูจน์ทราบว่าหลุมระเบิดนั้นได้พบเศษวัตถุระเบิดชนิด PMN-2 และพบทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 2 จุด และจากการตรวจพบทุ่นระเบิดดังกล่าว ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นระเบิดชนิด PMN-2 มีสภาพใหม่พร้อมทำงาน ปรากฏตัวอักษรชัดเจนบริเวณด้านข้างทุ่นระเบิด ซึ่งทุ่นระเบิดชนิดนี้กองทัพไทยไม่มีอยู่ในระบบยุทโธปกรณ์

ขณะเดียวกันพบหลักฐานที่ชัดเจนว่าบริเวณวางทุ่นระเบิดยังไม่มีวัชพืชหรือรากไม้ขึ้นปกคลุม และพบร่องรอยของการขุดเพื่อวางทุ่นระเบิดอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าในปี 2565 ฝ่ายไทยได้ดำเนินการกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่บริเวณช่องบก และไม่มีการตรวจพบทุ่นระเบิดPMN-2 แต่อย่างใด จากข้อมูลทั้งหมดบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดPMN-2 ที่ตรวจพบ เป็นการวางหลังจากเกิดเหตุปะทะเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้กรมข่าวทหารบกยังได้ชี้แจงในกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยเผยแพร่ภาพและคลิปภารกิจการฝึกเก็บกู้ทุ่นระเบิดของหน่วย TMAC ของไทย พร้อมกล่าวหาว่าฝ่ายไทยเป็นผู้วางทุ่นระเบิด ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ในช่วงท้ายของการประชุม ฝ่ายไทยยังได้แสดงจุดยืนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเกี่ยวข้องทั้งในมิติความสัมพันธ์ทวิภาคีและพันธะกรณีระหว่างประเทศ โดยประเทศไทยให้ความสำคัญกับการเจรจาในกรอบทวิภาคีกับกัมพูชา เพื่อร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งประเทศไทยคาดหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะให้ความร่วมมืออย่างจริงจังโดยเฉพาะการเข้าร่วมการประชุม JBC, RBC และ GBC ในอนาคต เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศอย่างรอบด้านเพื่อประโยชน์สูงสุดร่วมกัน

ด้านพลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟัง และมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง

พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ

ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดง และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดชายแดน มีช่องทางอะไรบ้าง โหมตั้งแต่ระดับรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกองทัพภาค ผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชา ยืนยันว่าผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชา ไม่ได้แก้ต่าง ในที่ประชุม

เมื่อถามว่าผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชา ไม่ได้โต้อะไรใช่หรือไม่ หรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า ก็ไม่ได้พูดอะไร ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย เราเองก็มีหลักฐาน ที่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องของผู้รับสารจะเป็นอย่างไร และเรื่องของการรับฟังข่าวสาร ขอให้ดูมาตั้งแต่ต้น ยืนยันว่าไทย เราอยู่ในกฎกติกาโดยเฉพาะทุ่นระเบิด ไม่ใช่เรื่องของความได้เปรียบทางยุทธวิธี ประเทศไทยก็ถือว่ามีความพร้อม ทางการทหาร ที่สามารถปกป้องอธิปไตยได้ และอยู่ในกติกา ยืนยันว่า ทูตทหารจากประเทศต่างๆไม่ได้ติดใจ ในประเด็นที่เราชี้แจง

ส่วนเรื่องการปฎิบัติการทางทหาร ก็ให้เป็นเรื่องของหน่วยในพื้นที่ ซึ่งพยายามใช้ความอดทนอดกลั้น และใช้สันติวิธี ซึ่งก็ต้องให้กองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ประเมิน แต่ก็ไม่อยากให้คิดไปในเรื่องไม่ดีไว้ก่อน กองทัพภาคที่ 2 ก็พูดมาตลอดว่า พร้อมทุกวิธี ก็เป็นวิธีที่ชอบธรรม และอยู่ในกฎกติกา

ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ส่งมอบเอกสารหลักฐานยืนยันให้แต่ละประเทศ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุมี 2 ลักษณะงาน ในระดับประเทศ กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ สิ่งแรกที่ทำนอกเหนือ จากการดูแลคนเจ็บ คือการดูแลความปลอดภัยของกำลังพล คือต้องค่อยๆ เก็บกู้

ส่วนในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ที่ มีการนัดหมายของคนไทยกัมพูชาขึ้นไปเผชิญหน้ากับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ตามกลุ่มปราสาทตาเมือน พลตรีวินธัย ยืนยันว่า กองทัพภาคที่สองมีแนวทางในการดำเนินการอยู่แล้ว วันนี้ก็ได้พูดในที่ประชุม ว่ามีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาสนับสนุน ซึ่งหากประเมินสถานการณ์แล้ว เกิดการขยายผลความขัดแย้ง จะต้องมีมาตรการดำเนินการ แต่ขอให้ทางกองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ชี้แจง ส่วนถึงขั้นต้องปิดปราสาทหรือไม่นั้น ก็ขอให้ฟังกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเช่นกัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

สัมพันธ์'บ้านโล่สถาพรพิพิธ-บิ๊กเนมภท.' ไม่ใช้คนอื่นไกล?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ทักษิณ’ ประกาศ กลางวง พรรคร่วมฯ ‘เลือกตั้ง’ แล้ว จับมือกันต่อ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถึงเวลาที่ ธปท.จะ ‘เปิดประตูหอคอย ฟังเสียงบ้านนา’ ไม่ใช่แค่สนทนา ในกรอบสถิติ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม่พร้อมมีลูกตอนนี้ Gen Z เลื่อนสร้างครอบครัว เศรษฐกิจไม่เอื้อ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ศทช. แถลงชี้จุดทหารไทยเหยียบระเบิด เก็บกู้หมดตั้งแต่ปี 65 ยันไม่เคยตรวจพบ PMN-2

Khaosod

"แพทองธาร"มั่นใจเจตนาบริสุทธิ์ กลับมาทำหน้าที่นายกฯ

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23
วิดีโอ

'อิ๊งค์' ควง 'พ่อ' กลับบ้าน! หลังร่วมดินเนอร์พรรคร่วม

THE ROOM 44 CHANNEL

‘ทักษิณ’ เป่ามนต์ พรรคร่วมไม่ทิ้งกัน รัฐบาลหน้าจับมือกันเหมือนเดิม

ไทยโพสต์

"ทักษิณ" ปลุกสามัคคีบอกพรรคร่วมไม่ทิ้งกัน ซัด ภท.ถอนตัวไม่สุภาพบุรุษ

Thai PBS

ทักษิณ มั่นใจปริ่มน้ำบริหารได้ ย้อนสมัยช่วยปรีดา คุมเสียงรบ.ศึกฤทธิ์ เคยทำบัญชี-ไล่ตะครุบส.ส.มาประชุม

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม