3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า คืนนี้จับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) เดือน มิ.ย. คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% YoY จาก 2.4% ในเดือน พ.ค. และ Core CPI (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.0% YoY จาก 2.8% ในเดือน พ.ค. สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบของนโยบายภาษีของทรัมป์ เช่น ภาษีทองแดง 50% และภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ หากตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง อาจทำให้ FED ปรับลงดอกเบี้ยได้ยากขึ้น โดย FED Watch Tool ให้โอกาสปรับลงดอกเบี้ยรอบประชุม ก.ย. นี้ 60.2%
• คุณ พิชัย รมว. คลัง ยืนยันข้อเจรจาต่อรองภาษี 36% ที่ส่งไปสหรัฐฯ ไม่มีการยื่นข้อเสนอความมั่นคง เช่น การตั้งฐานทัพเรือที่จังหวัดพังงา และฐานทัพเรือสัต ระบุว่าข้อเสนอที่ยืนไปดูแล เฉพาะเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น และการเจรจาเป็นไปตามผลประโยชน์ของประเทศ
• ครม. เลื่อนเคาะตั้งผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ จาก Candidate 2 ท่าน คุณ วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เสนอชื่อโดยคุณ พิชัย รมว. คลัง อีกท่าน ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. ทั้ง 2 ท่านต่างมีแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินลักษณะ Dovish-ผ่อนคลายทางการเงิน จึงมีแนวโน้มที่ ธปท. จะลดดอกเบี้ยได้อีก 1-2 ครั้งภายในปีนี้ สะท้อนที่ Bond Yield 1-10 ปี ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย เป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งปัจจุบันหากอิง EPS 86 บาท/หุ้น และราคาปิด SET INDEX เมื่อวานที่ 1143 จุด พบว่าซื้อขายที่ P/E 13.30 เท่า เปิดความน่าสนใจเชิง Valuation จับจังหวะ Market Timing ดีไปต่อและกำไรโตต่อเนื่องใน 3Q68 KCE HAHA หุ้นดอกเบี้ยขาลง ปันผลสูง SPALI SIRI MTC TIDLOR SAWAD KTC เทคนิคดี AWC CPF ; SET บ่ายนี้วิ่งในกรอบ 1145-1160 จุด
บล.เอเอสแอล ระบุ ดัชนีช่วงเช้าปรับตัวขึ้น นำโดย AOT จากสัญญาณการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว และเที่ยวบินที่เข้าสู่ไทย ประกอบกับกลุ่มการเงินที่ปรับตัวขึ้นรับประเด็น ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ ที่คาดว่าจะเป็นคุณพิชัย ที่มีแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินสอดคล้องไปกับนโยบายการคลัง มองสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดปีนี้จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง
ประเด็นต่างประเทศถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ ขู่คว่ำบาตรประเทศที่ยังซื้อน้ำมันจากรัสเซีย หากรัสเซียไม่ยุติสงครามภายใน 50 วัน โดยอาจมีการใช้มาตรการภาษีทุติยภูมิสูงถึง 100% ของมูลค่านำเข้า ทำให้ตลาดกังวลว่าอุปทานน้ำมันโลกอาจได้รับผลกระทบส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงกดดันกลุ่มพลังงาน
กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ระยะสั้นมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,155/1,160 ตามลำดับ แนวรับ 1,130 ไม่ควรต่ำกว่า
บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ดัชนีปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังว่าจะได้ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะเข้า ครม. ในวันนี้ แต่ล่าสุด รมช. สาธารณสุขเผย ครม. ยังไม่พิจารณาแต่งตั้งผู้ว่า ธปท. ในวันนี้ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้จำกัด มองกรอบดัชนีภาคบ่าย 1,140-1,157 จุด แนวรับ 1,140 แนวต้าน 1,157
ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยนักลงทุนจับตาการพิจารณาแต่งตั้งผู้ว่า ธปท. คนใหม่ ขณะที่ Fund Flow ที่ไหลกลับเข้ามา เป็นปัจจัยหนุนดัชนี มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขนส่ง และพลังงาน อย่างไรก็ตามมีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้น ได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,149.22 จุด +5.91 จุด +0.52% มูลค่าการซื้อขาย 24,889.06 ลบ.
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้