"ภูมิธรรม"เผย จ่อชง ครม.เพิ่มเยียวยาผู้เสียชีวิตชายแดน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผย กรณีพบโดรนบินรุกล้ำแนวชายแดนประเทศไทย หลังจากออกประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศ แต่ยังพบการฝ่าฝืน ว่า ก็เหมือนที่เราประกาศว่าห้ามมีโจร-ผู้ร้าย แต่โจรผู้ร้ายก็ยังทำอยู่ เราก็มีหน้าที่ติดตามจับกุม และสั่งการไปยัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แล้วว่าให้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งหมด 10 จังหวัด ซึ่งก็ว่ากันไป และเป็นเรื่องของพื้นที่ ส่วนอำนาจในการจัดการดำเนินการก็มีหลายภาคส่วน
ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่รับฟังและตรวจสอบ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเขาบอกว่า "ทำแล้ว" แต่ขณะที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยออกมาระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดยังไม่สามารถเบิกงบเยียวยาได้ จึงทำ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โทรศัพท์หาผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในทันที ซึ่งผู้ว่าฯ อุบลฯ บอกว่าจ่ายหมดแล้ว ดังนั้นเรื่องข้อมูลมองว่า ต้องฟังหูไว้หู เพราะเท่าที่ฟังใน ณ ขณะนี้ผู้ว่าฯ จ่ายเยียวยาหมดแล้ว แต่หากมีข้อมูลยืนยันว่าผู้ว่าฯ ไม่ทำก็ต้องรับผิดชอบ
ส่วนจะขอดูเรื่องงบประมาณที่เบิกจ่ายจริงหรือไม่ เนื่องจากมีการกล่าวว่าถึงเวลาแล้วไม่สามารถเบิกจ่ายได้ นายภูมิธรรม ย้ำว่า ถ้าทำไม่ได้ก็ให้คนอื่นมาทำแทนก็เท่านั้น
ก่อนที่นายภูมิธรรม จะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ในทันที ผู้สื่อข่าวได้พยามถามกรณีการประชุมหารือ GBC (คณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา General Border Committee: GBC ) ระหว่างไทยกัมพูชาจะได้ข้อยุติหรือไม่ เพราะมีประชาชนบางจังหวัดอพยพออกจากบ้านเรือนเป็นครั้งที่ 2 แล้ว นายภูมิธรรม ไม่ตอบคำถาม
ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึง กรณีการเยียวยาให้กับประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมถึง ว่า ขณะนี้ได้มีการพิจารณาขยายเงินเยียวยาเพิ่มเติมแล้ว หลังได้ข้อตกลงจากทางคณะกรรมการพิจารณาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับเงินเยียวยา 1 ล้านบาท แต่พรุ่งนี้ (5 ส.ค.) จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือ เรื่องจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นเท่าใดนั้นยังไม่ขอเปิดเผยได้ขอให้รอฟังผลการมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้
ส่วนกระแสข่าวที่จะอนุมัติวงเงินรายละ 8-10 ล้านบาทนั้น นายภูมิธรรม ย้ำคำเดิมว่า ขอให้รอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะอนุมัติเท่าไหร่นั้นตนยังไม่ทราบ