โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ในพระราชสำนัก

ขยายผลการพัฒนา อ่างเก็บน้ำคลองหยา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ "ชาวกระบี่มีน้ำใช้ตลอดปี ผลผลิตเพิ่ม คุณภาพชีวิตดีขึ้น"

สยามรัฐ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขยายผลการพัฒนา อ่างเก็บน้ำคลองหยาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกระบี่ ราษฎรมีน้ำใช้ เพิ่มผลผลิต ยกระดับคุณภาพชีวิต

โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหยาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เดินหน้าขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ให้มีความมั่นคงในทุกมิติ เพิ่มศักยภาพระบบการจัดการน้ำ การผลิตทางการเกษตร พร้อมทั้งส่งเสริมระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มความคล่องตัวและสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน

พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ นายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการ กปร. พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางลงพื้นที่ติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พร้อมทั้งพบปะเยี่ยมเยียนและรับฟังข้อเสนอแนะจากราษฎรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ

นายประยุทธิ์ อ้นชู ราษฎรหมู่ที่ 1 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายยา จังหวัดกระบี่ สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหยาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงหลังมีโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหยาฯ ว่า “ในอดีตพื้นที่แห่งนี้ประสบปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงอย่างหนัก ชาวบ้านต้องอาศัยน้ำฝนในการอุปโภคบริโภคและทำนา แต่ผลผลิตมักเสียหาย ข้าวไม่เพียงพอต่อการบริโภค ชีวิตเต็มไปด้วยความยากลำบาก”

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2530 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริให้จัดสร้างแหล่งเก็บน้ำถาวร เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนจากภัยแล้งและอุทกภัย โดยสำนักงาน กปร. และกรมชลประทาน ได้ร่วมสนองพระราดำริ ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองหยาฯ ในปี 2533 แล้วเสร็จในปี 2535 ขนาดความจุประมาณ 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์กว่า 3,307 ไร่ เมตร ส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรกว่า 3,932 ไร่ รวมถึงการอุปโภคบริโภคของราษฎรในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น บ้านปากหยา บ้านเขาเขนใน และบ้านปากน้ำ มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี สามารถทำการเกษตรได้สม่ำเสมอ และลดปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้แก่พื้นที่ได้เป็นอย่างดี

“ปัจจุบันสามารถทำนาได้ถึงปีละ 2-3 ครั้ง ทั้งนาปรังและนาปี พันธุ์ข้าวที่นิยมปลูก คือพันธุ์ กข. และข้าวหอมปทุม รวมถึงมีการปลูกผัก ผลไม้ และพืชเศรษฐกิจที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ เช่น ทุเรียน เงาะ ลองกอง มังคุด ลางสาด ปาล์มน้ำมัน และยังขุดบ่อเลี้ยงปลาทับทิม ปลานิล และปลาดุก สร้างรายได้และความมั่นคงในชีวิต ครอบครัวมีข้าวกิน มีรายได้ มีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เกิดความรักความสามัคคีในชุมชนซึ่งได้จัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ จำนวน 8 กลุ่ม ร่วมบริหารจัดการน้ำเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง ไม่ให้น้ำขาดแคลน รวมถึงการซ่อมบำรุงเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน ขอขอบพระคุณพระองค์ท่าน ที่ได้พระราชทานโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหยาฯ ให้ราษฎรในพื้นที่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ ทำให้เศรษฐกิจ สังคมดีขึ้น มีความรักความสามัคคีในทุกวันนี้” นายประยุทธิ์ อ้นชู กล่าว

โดยโอกาสนี้องคมนตรีและคณะฯ ได้รับฟังสรุปผลการดำเนินงานขยายผลโครงการฯ ตามที่ได้ให้ข้อเสนอแนะ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 เพื่อช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ โดยสำนักงาน กปร. และกรมชลประทานได้ร่วมดำเนินการก่อสร้างถนน และขยายเขตไฟฟ้ารอบอ่างเก็บน้ำคลองหยาฯ จัดทำผิวทางลาดยาง เพื่อช่วยเหลือราษฎร หมู่ที่ 1 และ 3 ตำบลปลายพระยา เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งพืชผลทางการเกษตร ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 83% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 นี้ รวมถึงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ ความยาวท่อ 4.1 กิโลเมตร เพื่อช่วยเหลือราษฎรบางส่วนในหมู่ที่ 3 และ 12 ตำบลปลายพระยา ประมาณ 200 ครัวเรือน ที่อาศัยอยู่บริเวณด้านเหนืออ่างเก็บน้ำ ได้มีน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 75% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2568 และโครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำ ความยาวรวม 3.123 กิโลเมตร เพื่อช่วยเหลือราษฎรบางส่วนในหมู่ที่ 3 และ 12 ตำบลปลายพระยา ประมาณ 210 ครัวเรือน ที่อาศัยอยู่บริเวณด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ ซึ่งยังขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ

พร้อมกันนี้องคมนตรี ได้ให้ข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และร่วมกันรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป พร้อมกันนี้ได้ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียน และปลาสุลต่าน รวมจำนวน 100,000 ตัว ลงในอ่างเก็บน้ำฯ เพื่อเป็นแหล่งอาหารโปรตีนสูงตามธรรมชาติแก่ราษฎรในพื้นที่ต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ยื่นได้เลย! ธอส.ออก 3 มาตรการช่วยลูกค้าชายแดนไทยกัมพูชา พักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี

30 นาทีที่แล้ว

สห.ทอ.จับชาวเขมรบังคับโดรน ทิ้งกล่อง GPS ล็อกเป้ากองบิน 5 หวั่นเป็นจุดนำทางบึ้มซ้ำ

31 นาทีที่แล้ว

ศบ.ทก. ย้ำ ไทยคุมตัวเชลยศึกตามอนุสัญญาเจนีวา ประณามกัมพูชาฟ้อง OHCHR บิดเบือน วอนเคารพความเป็นมนุษย์เก็บศพทหาร กต. เผยนานาชาติตอบรับ -เห็นใจ

34 นาทีที่แล้ว

"แป้ง อรจิรา" อวดหุ่นแซ่บในบิกินีสีฟ้า กลางทะเลสุดปัง!

37 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยอดนิยม