ออกแรงปิดประตู “นายกฯ” มาตรา 5
การดำรงอยู่ของ “แพทองธาร ชินวัตร” ทั้งในฐานะ “สร.1” และ “รมว.วัฒนธรรม” กำลังอยู่ในสถานการณ์ยังต้องรอลุ้น คำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ แต่ดูเหมือนว่า ทุกวัน ทุกเวลา “แรงกดดัน” จาก “กองแช่ง” และความรู้สึกของผู้คนในสังคม กลับ “จี้” ให้เธออยู่ยากเต็มที
แกนนำของพรรคเพื่อไทยทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และในครม. ต่างพากันออกแรง “ปิดประตู” ปิดทางการมี “นายกฯคนนอก” ไปจนถึงความพยายามกลบเสียงเรียกร้อง นายกฯที่จะมาจาก “มาตรา 5” ตามรัฐธรรมนูญ 2560
เมื่อคราวที่มีการชุมนุมโดย “ม็อบเสื้อเหลือง” กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในปี 2549 เสียงเรียกร้อง นายกฯมาตรา 7 ดังกระหึ่ม ไปทุกหัวระแหง ซึ่งหมายถึง “นายกฯพระราชทาน” จากมาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2540 จากนั้นเกิดรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
มาถึงวันนี้ ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย จาก “รุ่นพ่อ” มาสู่ “รุ่นลูก” หรือไม่ เมื่อการไม่ยอมรับในศักยภาพ “การนำ” ของนายกฯแพทองธาร บวกกับความไม่ไว้วางใจ ครอบครัวชินวัตร จากกรณี “2 พ่อลูก” จากกัมพูชา เปิดเกมรุกล้ำอธิปไตยของไทย จนนำมาสู่การปะทะเดือดที่ชายแดนไทย-กัมพูชาส่งผลให้ประชาชนและทหาร บาดเจ็บ เสียชีวิต
ทั้งที่นายกฯแพทองธาร ยังมีหวัง ว่าเธอเองมีความบริสุทธิ์ใจ มีความตั้งใจจริงในการรักษาอธิปไตยของประเทศ แม้เธอจะพลาดพลั้งไปพูดคุยกับ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยย้ำว่าจะ “ไม่ลาออก” ก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย
เท่ากับว่า ทักษิณ ส่งสัญญาณให้ทั้งลูกสาวและพรรคเพื่อไทย “สู้ต่อ” ด้วยการรักษา “อำนาจ” เอาไว้ในมือให้นานที่สุด หมายความว่า ณ เวลานี้จะไม่มีทางได้เห็น การประกาศลาออกจากนายกฯ จาก แพทองธาร
แต่สำหรับฝ่ายที่อยากไล่ นายกฯอิ๊งค์ คงไม่ต้องการ “รอ” ให้ถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมา เพราะคาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือนข้างหน้า ดังนั้นการฝากความหวังเอาไว้ที่การเฟ้นหา “นายกฯคนใหม่” ไม่ว่าจะเป็น “คนนอก” หรือนายกฯที่จะมาจาก มาตรา 5 ตามรัฐธรรมนูญ 2560 จึงถูกพูดถึง เพราะอย่างน้อยย่อมมองว่านี่อาจเป็น “ทางออก” ที่ไม่สามารถพึ่งพา สภาฯให้เลือกนายกฯจากบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคการเมืองยังมีอยู่ได้อีกต่อไป
อย่าลืมว่า ทักษิณ คงไม่ปล่อยให้แพทองธาร และพรรคเพื่อไทยเดินไปสู่ “ทางตัน” เพราะการที่ลูกสาว ประกาศไม่ลาออก จากตำแหน่ง อาจยิ่งกลายเป็นการเพิ่มแรงกดดันและตกเป็นเป้านิ่ง มากขึ้นทุกขณะ และเมื่อ การที่บางฝ่ายโยน “นายกฯมาตรา5” ลงมารอบนี้ อาจเพื่อ “โยนหินถามทาง” เช็คท่าทีจากทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ว่ายังมีแรงฮึดอยู่ได้อีกนานแค่ไหน เท่านั้น !?