อนุทินชี้ รัฐบาลไม่ลงพื้นที่จะรู้ปัญหาได้ไง บอกผู้ว่าฯ พูดเจื้อยแจ้ว ไม่กล้ารายงานปัญหา ยอมรับงบล่าช้าเพราะเป็นพื้นที่ภูมิใจไทย
วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงสถานการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ขณะนี้ชาวบ้านจำนวนมากต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา เดิมทีมีการเตรียมการกลับแล้ว แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้กลับไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงตามเดิม
อนุทินมองกรณีกระทรวงมหาดไทยปลดล็อกการพนันโป๊กเกอร์ว่า ดำเนินการได้รวดเร็วมาก แต่ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชายแดนกลับล่าช้า และไม่ได้รับการดูแลอย่างจริงจัง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการรับรายงานเพียงจากผู้ว่าฯ อาจไม่เพียงพอ ควรสอบถามข้อมูลโดยตรงจากนายอำเภอในพื้นที่ เพราะกระบวนการเบิกงบประมาณเป็นไปอย่างยากลำบาก
อนุทินกล่าวต่อว่า ส่วนใหญ่ในค่ายอพยพเป็นสิ่งของบริจาคเกือบทั้งหมด ถ้าไปหวังแต่เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ตนคิดว่าจะมีปัญหากว่านี้มาก เรื่องที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีรายงานในรัฐสภาก็รายงานเจื้อยแจ้วไปแบบนั้น ของจริงต้องไปลงหน้างาน แต่คณะรัฐมนตรีไม่มีใครไปลงหน้างานเลย ซึ่งตนอยู่ในพื้นที่ก็เห็น เป็นไปตามที่เขาพูดไว้
ในส่วนของการเบิกจ่ายงบประมาณ อนุทินระบุว่า ผู้ว่าฯ แจ้งว่าเบิกและโอนเงินไปยังอำเภอแล้ว แต่ยังไม่มีแนวทางการจัดสรรงบให้กับหน่วยงานที่ปฏิบัติในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าท้ายที่สุดจะสามารถดำเนินการได้ แต่หากไม่มีความช่วยเหลือจากประชาชนที่มีจิตศรัทธา สถานการณ์คงโกลาหลและเดือดร้อนกว่านี้มาก พร้อมขอบคุณประชาชนทั่วประเทศที่ร่วมบริจาคสิ่งของ ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง ของสด และเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เมื่อถามว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรียืนยันว่า หน้างานไม่มีปัญหา อนุทินกล่าวว่า ถ้าอยู่ตรงนี้ ไม่ไปลงพื้นที่หน้างาน การรายงานสถานการณ์ต่างๆ ก็ต้องบอกไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ไม่มีใครรายงานว่าระบบมีปัญหาหรอก
เมื่อถามว่า ต้องให้ภูมิธรรมลงพื้นที่ด้วยหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ก็แล้วแต่ ตนขอไม่ยุ่ง เพราะเวลาพวกตนลงพื้นที่ เราแคร์ชาวบ้าน อย่าไปแคร์คนอื่น แคร์แค่คนที่เดือดร้อนคือพี่น้องประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่มีการเบิกงบประมาณล่าช้าเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของ สส. พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ก็มีคนพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะพี่น้องประชาชนไม่ได้เห็นตามนั้น เรามีของบริจาคในหลายจังหวัด หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เราไม่ได้หวังความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาล ประชาชนในพื้นที่ก็อยู่ด้วยกันอย่างพึงพอใจ มีกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด ทหารก็มีการจัดดนตรีในค่าย ซึ่งประชาชนก็อยู่กันเองและทำกันเอง ทุกคนมีความสุขดี