รพ.จุฬาฯ ชูเทคโนโลยีทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล แห่งแรกในอาเซียน
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร ฝ่ายอายุรศาสตร์ ร่วมกับฝ่ายศัลยศาสตร์, ฝ่ายรังสีวิทยา และฝ่ายการพยาบาล ได้นำเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผลช่วยรักษาผู้ป่วยเนื้องอกตับอ่อน ได้เป็นครั้งแรกของประเทศไทยและเป็นแห่งแรกในอาเซียน
จากปกติการรักษามาตรฐานของโรคเนื้องอกของตับอ่อน ต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อนำเนื้องอกออก ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ซับซ้อน ใช้เวลานาน เสี่ยงต่อการเสียเลือดและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ บางรายต้องดูแลต่อในหอผู้ป่วยวิกฤติ
ดังนั้น ทีมแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงได้นำเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล (Endoscopic Ultrasound-Guided Radiofrequency Ablation, EUS-RFA) มาใช้ผู้ป่วยกลุ่มนี้แทนการผ่าตัด ช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการผ่าตัด ฟื้นตัวเร็ว และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ทำกิจวัตรประจำวันและรับประทานอาหารได้ตามปกติ และผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง
การรักษาด้วยเทคโนโลยีลักษณะนี้ถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและเป็นแห่งแรกในอาเซียน ซึ่งเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล (Endoscopic Ultrasound-Guided Radiofrequency Ablation, EUS-RFA) เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ผสานการส่องกล้องอัลตราซาวนด์ผ่านทางเดินอาหาร (Endoscopic Ultrasound-Guided, EUS) เข้ากับการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency Ablation, RFA) เพื่อรักษาเนื้องอกหรือรอยโรคภายในอวัยวะในช่องท้อง
โดยเฉพาะตับอ่อน ตับ ต่อมน้ำเหลือง และทางเดินน้ำดี ด้วยความแม่นยำสูง ภายใต้การมองเห็นแบบ real-time ทำให้สามารถระบุตำแหน่งรอยโรคและส่งเข็มพิเศษที่มีขั้ว RFA เข้าไปยังเป้าหมายโดยตรง จากนั้นปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อทำลายเนื้องอกเฉพาะจุด โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงมากนัก ทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่น เช่น เคมีบำบัด หรือใช้เป็นการรักษาหลักในผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จะได้ติดตามประสิทธิภาพการรักษาด้วยวิธีนี้ในระยะยาว รวมถึงโอกาสในการขยายข้อบ่งชี้ในการรักษาวิธีนี้ไปยังผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ และพร้อมเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ความรู้ ทักษะ ในการใช้เทคโนโลยีนี้ให้กับแพทย์ในประเทศไทยและสากลต่อไป