ภาษีทรัมป์ 19% ในศึกเขมร Vs ดีลลับกับราคาที่ไทยต้องจ่าย?
มองเผิน ๆ เหมือนเป็น “ข่าวดี” กลางศึกสงครามชายแดน ที่ก่อนหน้านี้ถูกผูกเข้าเป็นคนละเรื่องเดียวกัน กับมิติ “เศรษฐกิจ” จากข้อสรุป ภาษีทรัมป์ 19% วันนี้ (1ส.ค.) ที่ไทย-เขมรได้เท่ากัน ในขณะที่พม่าและลาว โดนไป 40% โดย 19%ของไทยลดมาจาก 36% ที่เรื่องนี้ถูก “ทรัมป์” เอาไปมัดรวมเรื่องเจรจาหยุดยิง (28ก.ค.)
ระหว่าง ที่ไทยกำลังรบกับเขมรที่ “เขมร” ใช้กระบวนท่า “โลกล้อมประเทศ” ที่คลุมเครือก่อนหน้านี้ ถึงการกล้าเล่นใหญ่ เปิดแนวรบกับกองทัพไทย ทั้งที่รู้ว่ายังไงอาวุธก็สู้ไม่ได้ ของ 2 พ่อลูกฮุน “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” ที่อาจไม่ใช่แค่ “เล่นใหญ่”แบบบ้านๆ ไม่มีการเตรียมการ ไม่มีแบ็คอัพสนับสนุน หากมี “อเจนด้าแฝง” จาก “ภาพเฉลย” เกม “ชักศึกเข้าบ้าน” หักหลัง “จีน” ดึง “สหรัฐฯ” เข้ามาแจมเจรจาหยุดยิง ทั้งที่ เป็นเพียง “โต๊ะเล็ก” ความขัดแย้งระดับภูมิภาค เอาใจ “ทรัมป์” ที่กำลัง “เก็บแต้ม” ชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เดือนต.ค.68 เข้ามาเป็น “ผู้เล่นรายใหญ่” ในสมการประเทศอาเซียนที่ “จีน” เป็นพี่ใหญ่
ในท่ามกลางความกังวลจากหลายฝ่าย ถึงราคา ที่ทั้ง “ไทย-เขมร” ต้องจ่ายที่ซ่อนอยู่ในเงื่อนไข “ภาษีสหรัฐ 19%” นอกจากการภาษีนำเข้าสินค้า 0% นับหมื่นรายการ รวมถึงอีกหลายเงื่อนไขทางการค้ากับสหรัฐ ใน “มิติการเมือง ความมั่นคง” กับการ “เปิดช่อง” ให้ ”สหรัฐ” เข้ามาแบบรุกคืบ แม้แต่วงประชุมทวิภาคีGBC ในวันที่ 4ส.ค. ไม่แต่ “ดีลลับ” ระหว่าง “ฮุนมาเนต” กับ “ทรัมป์” ที่หลายฝ่ายกังวลถึงการเข้ามาแทนที่จีน
และประเด็น “ฐานทัพสหรัฐ” ในเขมรที่วันก่อนมีการ “ปั่นข่าว” จากภายในเขมรว่าพร้อมให้มาตั้ง จากที่ก่อนหน้านี้จีนมีการสร้าง “ท่าเรือเรียม” ในเขมร ที่ตามมาดัวยการหักจีนอย่างชัดเจน ด้วยการเซ็นต์ร่วมเป็น “ภาคียุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก” กับ กองบัญชาการ ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกสหรัฐฯที่สหรัฐถือว่า “จีน” เป็น “ภัยคุกคาม” อาจต้องมีการรบกันต่อไป ด้วยการเข้าร่วม ฝึกทางการทหาร“คอบบร้าโกล”กับกองทัพสหรัฐฯเป็นครั้งแรกในรอบ8ปี ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้(28พ.ค.)เขมรเพิ่งซ้อมรบร่วมกับกองทัพจีน
เรียกว่า แม้หลายฝ่ายรวมถึงภาคเอกชนไทยกำลังแซ่ซ้องขอบคุณ“ทีมไทยแลนด์”ที่ก่อนหน้านี้ เคยถูกด่ายับ ที่สามารถทำให้ “ทรัมป์”ลดราคาจาก36%”มาจบที่ 19%ได้ กำลังกลายเป็นประเด็น
กับ “คำถาม”จากหลายฝ่ายถึง“เงื่อนไขลับ”ที่ไทยต้องจ่าย นอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจ ว่า จะมีเรื่อง “ความมั่นคง” ที่โยงกับ”จีน”เข้าไปเกี่ยวข้องนอกจากปม“อุยกูร์”และปม “ดร.พอล”หรือไม่
โดยเฉพาะประเด็น “หน้างาน” ที่เคยกำลังทำศึกกับเขมร ที่”สหรัฐ”เจาะจง”เอาเรื่อง “ภาษีทรัมป์”มาขู่ทั้งเขมรและไทยก่อนหน้า และมีภาพที่เขมร”เปิดช่อง”ให้”สหรัฐ”เข้ามาแล้ว ในขณะที่ฝั่งไทยมี”สัญญาน”จาก“ทักษิณ ชินวัตร” พ่อ”นายกอิ๊งค์”ที่เหมือนก็รู้ดี ว่า “ภาษีทรัมป์”ไม่ใช่โจทย์ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจเพียว ๆ หากแต่มี”เงื่อนไข” “โหมดความมั่นคง”ซ่อนอยู่ อย่างที่เขาหลุดปากบนเวที3บก.เนชั่น ถึงเรื่องการหมายตา “ฐานทัพสหรัฐ”ในประเทศไทย ที่เขาเองก็ไม่เห็นด้วย กระทั่งหลังจากนั้น มีการลือถึงการหมายตา“ฐานทัพเรือพังงา”ที่ทับละมุ
กระนั้นจากประเด็น”ฐานทัพสหรัฐ”ในภูมิภาคที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็น “เงื่อนไขลับ”เดียวกันหรือไม่ ระหว่าง 2 ประเทศ เขมร-ไทยที่กำลังรบกัน จนเปิดช่องให้”ทรัมป์”เข้ามา ก็น่าพิจารณาความบังเอิญ สอดคล้เอง กับข้อมูล ที“ไพศาล พืชมงคล”อดีตกุนซือรองนายกฯด้านความมั่นคง นำมาโพสในFB ที่อ้างอิง บทความการวิเคราะห์ของ รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ตอนหนึ่งอ้างข้อมูลจาก RAND Corporation สถาบันวิเคราะห์ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ระบุไว้ในปี 2565 ว่า ไทยคือจุดยุทธศาสตร์อันดับ 1 ที่เหมาะสมต่อการติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ พิสัยกลางของสหรัฐ ที่จะส่งผลกระทบกับจีน และระบุด้วยว่า ไทยกำลังซ้ำรอยยูเครนทุกขั้นตอนนั้น
1. มีความแตกแยกทางการเมืองระหว่างสีแดง-ส้ม-น้ำเงิน
2.มีต่างชาติเข้ามาตั้งฐานพลเรือนในหัวเมืองสำคัญ ที่ ปาย, เชียงใหม่, ภูเก็ต, สมุย, เชียงราย
3. มีสงครามข้อมูลที่สับสน จนมิตรกลายเป็นศัตรู และศัตรูกลายเป็นไอดอล
4.มีการชักนำให้ “มองจีนเป็นภัย” ทั้งที่จีนไม่เคยส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดไทยเลยสักครั้งในประวัติศาสตร์.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews