จบด้วยดี! จอนนี่มือปราบ ยินดีจับมืออธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ หาทางออก

จบด้วยดี! จอนนี่มือปราบ เผย หลังเจรจา ยินดีจับมืออธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ หาทางออกให้ชาวบ้านร่วมกันปมที่ดิน

จากกรณี จอนนี่มือปราบ หรือ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ ไปยื่นหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นนทบุรี โดยขอให้ไต่สวนการกระทำของอธิบดีกรมพัฒนาสังคม ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ต่อมาเวลา 14:00 น. หลังจบรายการโหนกระแส นายเกิดผล แก้วเกิด หรือ “ทนายเกิดผล “ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อวานจอนนี่โทรมาให้ช่วยเป็นทนายความให้หลังถูกดำเนินคดีโดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ตนเองก็รับปากเพราะรู้จักเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว พอพูดคุยรายละเอียดก็เข้าใจกันจนเมื่อเช้าพาไปร้องที่ ป.ป.ช.

ในส่วนประเด็นของที่ดินที่ถูกร้อง ถูกดำเนินคดีอาจจะยากถ้าที่ดินดังกล่าวเป็นของรัฐจริง แต่ก็ต้องให้จอนนี่ได้พิสูจน์ว่ามีเจตนาจริงหรือไม่ รู้หรือไม่ว่าเป็นที่ดินของรัฐ เนื่องจากที่ดินดังกล่าวมีการครอบครองของโดยราษฎรคนอื่นมาก่อนหน้านี้แล้ว ต้องมีการพิสูจน์ก่อน มีประชาชนอยู่มาก่อนกฎหมายกำหนดหรือไม่ และในลักษณะดังกล่าวจะมีข้อยกเว้นอะไรหรือเปล่า

ถ้าพิสูจน์แล้วเป็นความผิดก็ยอมรับผิด จะรื้อก็รื้อ จะถูกจับก็ถูกจับไม่กังวลใจจุดนี้ แต่ทางจอนนี่อยากใช้สิทธิ์ของตนเอง จอนนี่มาร้องเพราะมองว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้งอยู่คนเดียว ทั้งที่คนอื่นขายสิทธิ์ขายที่และนำไปใช้ประโยชน์ก็อีกมากมายกลับไม่โดน

ดังนั้นด้วยความแน่ชัดหากจอห์นนี่ผิดจริงเรื่องบุกรุก ก็ขอให้ชี้แจงแนะนำเอกสารไปยื่นแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนที่เหลือก็ว่าไปตามกฎหมาย จอห์นนี่ก็เป็นขาวบ้านคนหนึ่ง เป็นผู้นำคน เอาปัญหาชาวบ้านมาพูดเพื่อรักษาสิทธิ์ ถ้าหลังจากนี้จอห์นนี่ พูดคุยกับหน่วยงานได้ลงตัวการถอนดำเนินคดีก็เป็นสิทธิ์ของจอห์นนี่คนเดียว

ซึ่งคนที่ได้รับผลประโยชน์จะต้องไม่ใช่จอนนี่คนเดียวชาวบ้านเองก็ต้องได้รับสิทธิ์ทุกอย่างเท่าเทียมกัน

ขณะที่ทางด้าน ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงศ์ หรือ "จอนนี่มือปราบ" ได้แสดงความขอบคุณต่ออธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่ได้มีโอกาสพูดคุยและเจรจากัน และเปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ที่ตนได้ไปสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นการปกป้องเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของผู้ที่ทำมาหากินสุจริตแต่ถูกรังแก ซึ่งไม่ใช่การต่อสู้ด้วยอาวุธ แต่เป็นการปกป้องด้วยเกียรติและวาจา

จอนนี่มือปราบ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีการตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงเพื่อปกป้องตนเอง แต่หลังจากที่ได้พูดคุยกับอธิบดีกรมฯ ผ่านรายการโหนกระแส และได้ทำความเข้าใจในบริบทของท่าน ก็รู้สึกเข้าใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ตนหอบมาวันนี้ คือความหวังของชาวบ้านที่ต้องการเอกสารสิทธิ์ ที่ทำกิน และสามารถนำไปกู้ธนาคารได้ ซึ่งเป็นความหวังที่ชาวบ้านฝากไว้ ไม่ใช่เพื่อเอาตัวเองรอดเพียงคนเดียว

โดยส่วนตัวแล้ว ตนยังมีกิจการอื่นที่สามารถทำมาหากินได้ หากตนผิดหรือแพ้ก็พร้อมยอมรับ และไม่ได้คิดว่าเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีในสังคมด้านกฎหมาย เพราะตนเคยเป็นผู้รักษากฎหมาย จึงต้องการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้ที่มีกฎหมายอยู่ในมือควรใช้กฎหมายให้ถูกต้อง เท่าเทียม และไม่เหลื่อมล้ำ

จอนนี่มือปราบ ได้หารือกับอธิบดีกรมฯ ว่า หากตนมีความสามารถที่จะจับมือกับท่านเพื่อหาทางออกที่ดีให้กับชาวบ้านได้ ก็ยินดีที่จะร่วมมือกัน เพื่อให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุขและสวยงามขึ้น หรือหากชาวบ้านที่ไม่เข้าใจข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดของกฎหมาย ก็ควรมาทำความเข้าใจกัน หรือหากต้องการให้ตนเป็นกระบอกเสียงหรือตัวแทนชาวบ้านทั่วประเทศ ก็ยินดี

ที่ผ่านมา จอนนี่มือปราบ มั่นใจในความถูกต้องของการกระทำของตน เนื่องจากมีกำนันและผู้ใหญ่บ้านลงนามรับรองเอกสารการซื้อขายที่ดิน หากตนผิดก็คงไม่ซื้อ นักกฎหมายหลายคนที่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับสิทธิ์ นค.1 และ นค.3 ตนเห็นด้วย แต่สิ่งที่ตนได้มานั้นไม่ได้อยู่ในระเบียบหรือกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ของหมู่บ้านที่ชาวบ้านอาศัยอยู่กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษและมีการซื้อขายตกทอดกันมา หากจะนำระเบียบนั้นมาครอบคลุม ตนก็ยินดีให้ตรวจสอบ แต่ก็จะพิสูจน์ทราบในสิ่งที่ได้มาจากชาวบ้าน ก่อนที่จะมีกฎหมายปี 2511

จอนนี่มือปราบ กล่าวอีกว่า การกระทำเช่นนี้เพื่อต่อสู้เพื่อเกียรติของตนเอง หลายคนในประเทศที่ไม่เคยถูกรังแกแบบตนคงไม่เข้าใจ แต่หากวันหนึ่งทุกคนถูกรัฐรังแก ก็จะนึกถึงหน้าตน ที่ดินตรงนี้ตนไม่ได้เป็นคนแผ้วถาง แต่ไปซื้อต่อจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่กันมานานแล้ว จึงไม่ใช่การบุกรุก และการก่อสร้างรีสอร์ตก็ได้มีการทำประชาคมหมู่บ้านหรือที่เรียกว่ากฎหมายหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว

จอนนี่มือปราบ ขอชี้แจงด้วยความเคารพว่า วันนี้อย่างน้อยก็ได้พูดคุยกับอธิบดี ก็รู้สึกยินดีและขอขอบคุณท่าน หากมีโอกาสได้จับมือร่วมหาทางออกที่ดีต่อชาวบ้าน ก็ยินดีที่จะหาทางออกให้กับทุกท่านเพื่อให้สังคมเป็นปกติสุข ใครจะด่าหรือตรวจสอบตนเองก็ยินดี ขอเพียงแค่ให้ชาวบ้านได้รับสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินที่รอคอยอย่างมีความหวัง

หากท้ายที่สุดหลังการตรวจสอบมีกฎหมายบังคับใช้ให้ตนรื้อถอน ตนก็ยินดีรื้อถอน แต่หากตนมีช่องทางต่อสู้ก็จะต่อสู้จนลมหายใจสุดท้าย เพื่อรักษาไว้ซึ่งที่ดินมรดกให้แก่ลูกหลาน หากกฎหมายสู้ไปถึงขั้นฎีกาแล้วจะบอกว่าตนแพ้ก็ยอมรับในความพ่ายแพ้ แต่ตนจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

ฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า หากใช้หลักนิติศาสตร์ในการใช้กฎหมายเล่นงานตน ประเทศนี้จะอยู่ไม่ได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือหลักรัฐศาสตร์คือการอยู่ร่วมกันในสังคม และหลักเศรษฐศาสตร์คือการดำรงชีพเพื่อปากท้องและการทำมาหากิน จึงอยากให้ใช้ควบคู่กัน โดยยึดความเป็นอยู่ของชาวบ้านและความเป็นเพื่อนมนุษย์ ควบคู่ไปกับกฎหมาย หากยึดเพียงหลักนิติศาสตร์ จะมีประชาชนจำนวนมากที่เดือดร้อน จึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ใครที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนถูกกระทำ วันหนึ่งที่ตนได้ถูกกระทำจากหน่วยงานของรัฐ ใครที่เคยต่อว่าตน วันนั้นก็ยังคงสามารถมาขอความช่วยเหลือได้ เพราะตนยังคิดว่าทุกคนเป็นมิตรกับทุกคน เนื่องจากตนเป็นคนจิตใจดี