“จีน” จับตาดอลลาร์อ่อนค่า ธนาคารกลางจีน เร่งสำรวจความเห็น หวั่นหยวนแข็งค่ากระทบเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางจีน สอบถามความเห็นสถาบันการเงินเกี่ยวกับทิศทางดอลลาร์ หลังอ่อนค่าหนักจากแรงกดดันนโยบายทรัมป์ แรงวิตกหยวนอาจแข็งค่าขึ้นรวดเร็ว กระทบส่งออก-เศรษฐกิจจีน
วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 16.44 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แหล่งข่าวระบุว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้สอบถามความเห็นของสถาบันการเงินบางแห่งเกี่ยวกับทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา
การสำรวจดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย PBOC ถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงนี้ และมุมมองต่อทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนจีนในอนาคต
แม้ทางการจีนไม่ได้ระบุจุดประสงค์ของการสำรวจในครั้งนี้อย่างชัดเจน แต่หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวว่าตนตีความว่าการสอบถามดังกล่าวสะท้อนถึงความกังวลของรัฐบาลจีนต่อแนวโน้มที่เงินหยวนอาจแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง
อีกหนึ่งแหล่งข่าวซึ่งมีส่วนร่วมโดยตรงกับการสำรวจครั้งนี้ ระบุว่าดูเหมือนว่าเป็นการประเมินมุมมองต่อทิศทางของดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐกำลังดำเนินไป
การสำรวจนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่มาตรการพักชั่วคราว 90 วันของทรัมป์ต่อภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศจะสิ้นสุดลงในวันพุธนี้ และประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่มาตรการพักภาษีสินค้าจีนในระดับหลายร้อยเปอร์เซ็นต์จะครบกำหนด
นโยบายด้านเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐในปีนี้ส่งผลกดดันอย่างหนักต่อค่าเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนค่าเงินดอลลาร์เทียบกับเงินสกุลหลักอีก 6 สกุล มีผลประกอบการครึ่งปีแรกที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 โดยปรับตัวลดลงประมาณ 11% และอ่อนค่าลงถึง 6.6% นับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ซึ่งตรงกับวันที่ทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษี "Liberation Day"
ขณะที่เงินหยวนของจีนยังคงมีเสถียรภาพ โดยแข็งค่าขึ้นเพียง 1.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา
อ้างอิง : reuters.com