ถึงฤดูดูดน้ำ อีสท์วอเตอร์เปิดบ้านโชว์สื่อ อ้างไม่แย่งน้ำภาคเกษตร
ฉะเชิงเทรา – ถึงฤดูกาลดูดน้ำ อีสท์วอเตอร์เปิดบ้านโชว์สื่ออ้างไม่แย่งน้ำจากภาคเกษตร ยันปริมาณการสูบผันน้ำออกไปสำรองกักเก็บไว้นอกพื้นที่แค่เพียงน้อยนิด ที่ร้อยละ 0.5 ของปริมาณน้ำจืดไหลทิ้งทะเลทั้งหมดต่อวัน พร้อมหยุดสูบทันทีหากน้ำเค็มขยับเข้าใกล้กลางลำน้ำบางปะกงในระยะ 4 เดือนต่อปี
วันที่ 5 ส.ค.68 เวลา 13.00 น. บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (อีสท์วอเตอร์) ได้นำพาคณะสื่อมวลชนในพื้นที่เข้าเยี่ยมชมสถานีสูบน้ำกลางลำน้ำบางปะกง ในเขตพื้นที่ ม.5 ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อชี้แจงถึงข้อมูลการสูบผันน้ำออกจากพื้นที่ และป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากภาคประชาชน ชุมชนในพื้นที่รวมถึงชาว จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากได้เริ่มทำการสูบผันน้ำตามฤดูกาลประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.68 ที่ผ่านมารวมระยะเวลาประมาณ 4-5 เดือนต่อปี
โดยมีนายวาทิต ประสมทรัพย์ รักษาการ ผอ.ฝ่ายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้เสีย นายสันติ ปิยะสราสารกูล ผู้จัดการแผนกชุมชนสัมพันธ์และ CSR นายชานนท์ สุขบุญ รักษาการผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ เป็นผู้นำพาเข้าเยี่ยมชมสถานีสูบน้ำ พร้อมกับบรรยายสรุปภาพรวมของสถานการณ์การสูบน้ำประจำปีของ บ.อีสท์วอเตอร์ว่า ในวันนี้สถานีสูบน้ำได้ทำการเดินเครื่องสูบน้ำจำนวน 3 เครื่องจากทั้งหมด 8 เครื่องและเปิดวาล์วเพียงประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ของกำลังการผลิตทั้งหมดของสถานี
ส่วนปริมาณการสูบผันน้ำในแต่ละวันในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 150,000 -200,000 ลบม.จากกำลังการสูบจ่ายรวม 350,000 ลบม.ต่อวัน ในขณะที่ในลำน้ำบางปะกงมีปริมาณการไหลผ่านของน้ำจืดออกสู่ทะเลต่อวันในช่วงเวลานี้อยู่ที่ 60-70 ล้าน ลบม. หรือคิดเป็นปริมาณน้ำที่ทางอีสท์วอเตอร์สูบออกมาจากแม่น้ำบางปะกงไปเพียงร้อยละ 0.5 ของน้ำจืดทั้งหมดที่ไหลผ่านเท่านั้น จึงไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อพื้นที่และเกษตรกรผู้ใช้น้ำรายอื่นๆ ตลอดลำน้ำ
ขณะที่การผันน้ำหรือสูบน้ำออกไปจากแม่น้ำบางปะกงนั้น เพื่อนำไปเป็นน้ำดิบต้นทุนการผลิตให้แก่การประปาฉะเชิงเทราและการประปาบางปะกง ส่วนน้ำที่เหลือได้นำไปฝากเก็บไว้ยังที่อ่างเก็บน้ำบางพระในพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อใช้เป็นต้นทุนน้ำดิบหล่อเลี้ยงช่วยชาว จ.ชลบุรี และสูบกลับมาใช้ผลิตน้ำประปาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงฤดูแล้ง และจะหยุดสูบเมื่อน้ำมีค่าความเค็มที่ 1 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์รุกล้ำเข้ามาถึงในเขต อ.บ้านโพธิ์
โดยที่ทางอีสท์วอเตอร์เป็นเพียงบริษัทเดียว ที่ได้ทำการหักเงินเพื่อไว้จัดสรรเป็นเงินทุนสำรองคืนให้แก่ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) รวม 6 อำเภอที่มีลำน้ำบางปะกงไหลผ่านในทุกๆ ลูกบาศก์เมตร ลบม.ละ 10 สตางค์ ซึ่งในปีที่ผ่านมา (2567) ทางอีสท์วอเตอร์ได้สูบน้ำไปจำนวน 27,548,084 ลบม. ทำให้มีเงินกองทุนที่หักไว้ได้รวม 2,754,735 บาท สามารถนำไปจัดทำโครงการเพื่อสังคมได้รวม 18 โครงการ
ประกอบด้วย อ.บางน้ำเปรี้ยว 7 โครงการในการตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำและกำจัดวัชพืชในลำคลอง อ.บางคล้า 3 โครงการในการสนับสนุนท่อสูบน้ำพญานาคและเครื่องยนต์ การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร อ.เมืองฉะเชิงเทรา 1 โครงการ คือ โครงการจัดจ้างสร้างเรือกำจัดวัชพืช อ.คลองเขื่อน 4 โครงการในการขุดลอกคลองและวางท่อเหลี่ยมส่งน้ำ และการกำจัดวัชพืช อ.บ้านโพธิ์ 1 โครงการในการกำจัดวัชพืช อ.บางปะกง 2 โครงการในการขุดลอกคลองและสนับสนุนท่อสูบน้ำพญานาค ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และ CSR อีสท์วอเตอร์ ชี้แจงข้อมูลถึงสื่อมวลชนที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ในวันนี้