รายงานเผยความสับสนในห้องนักบิน ก่อน'แอร์อินเดีย'ตกเสียชีวิต 260 คน
12 กรกฎาคม 2568 - รายงานเบื้องต้นการสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินจากอาห์เมดาบาดไปลอนดอน เผยให้เห็นถึงความสับสนในห้องควบคุมเครื่องบิน ก่อนที่เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์จะตกและคร่าชีวิต 260 คน (ผู้โดยสาร 241 คน และประชาชนบนพื้นดิน 19 คน) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
หน่วยสืบสวนอุบัติเหตุอากาศยาน (AAIB) ของอินเดีย เปิดเผยรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568ผ่านมา ระบุว่าเครื่องบินเริ่มสูญเสียแรงขับและลดความสูงลงอย่างรวดเร็ว หลังจากสวิตช์ตัดเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ทั้งสองข้างถูกปิดพร้อมกันเกือบในเวลาเดียวกัน ทำให้เครื่องยนต์ขาดเชื้อเพลิง ขณะเดียวกันระบบกังหันลมฉุกเฉิน (ram air turbine) ก็ทำงานทันที ซึ่งเป็นสัญญาณของการสูญเสียพลังงานจากเครื่องยนต์หลัก
ข้อมูลจากกล่องดำเผยความจริงน่าตกใจ
จากการบันทึกกล้องวงจรปิดของสนามบินอาห์เมดาบาด พบว่าเครื่องบินแอร์อินเดียสามารถขึ้นไปได้ที่ความสูง 650 ฟุต แต่หลังจากนั้นก็สูญเสียความสูงอย่างรวดเร็วและพุ่งชนอาคารใกล้เคียงจนเกิดเพลิงไหม้
จากการบันทึกเสียงในห้องนักบิน พบว่านักบินคนหนึ่งได้ถามอีกคนว่า "ทำไมถึงตัดเชื้อเพลิง" แต่นักบินอีกคนตอบว่า "ไม่ได้ทำ" รายงานไม่ได้ระบุว่าคำพูดดังกล่าวมาจากกัปตันหรือนักบินร่วม และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ "เมย์เดย์" ก่อนเครื่องบินจะตก
นักบินทั้งสองคนมีประสบการณ์บินมาก โดยกัปตัน สุมิต ซาบาร์วาล อายุ 56 ปี มีประสบการณ์บิน 15,638 ชั่วโมง และยังเป็นผู้ฝึกสอนของแอร์อินเดีย ส่วนนักบินร่วม ไคลฟ์ คุนเดอร์ อายุ 32 ปี มีประสบการณ์บิน 3,403 ชั่วโมง
ปริศนาการเคลื่อนไหวสวิตช์เชื้อเพลิง
ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินระบุว่า นักบินไม่สามารถเคลื่อนไหวสวิตช์เชื้อเพลิงได้โดยบังเอิญ แอนโทนี่ บริกเฮาส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบินของสหรัฐฯ ตั้งคำถามว่า "หากสวิตช์ถูกเคลื่อนไหวโดยนักบิน เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น"
รายงานระบุว่าสวิตช์ทั้งสองถูกปิดห่างกันเพียงหึ่งวินาที ซึ่งใช้เวลาพอดีสำหรับการเคลื่อนไหวสวิตช์ทีละตัว โดยปกติแล้วนักบินจะไม่ปิดสวิตช์เหล่านี้ระหว่างบิน โดยเฉพาะเมื่อเครื่องบินกำลังขึ้น
ที่น่าสนใจคือ เมื่อตรวจสอบซากเครื่องบิน พบว่าสวิตช์เชื้อเพลิงทั้งสองกลับมาอยู่ในตำแหน่ง "เปิด" และมีสัญญาณว่าเครื่องยนต์ทั้งสองพยายามติดใหม่ก่อนเครื่องบินจะตกในระดับความสูงต่ำ
ผลกระทบต่อภาพลักษณ์แอร์อินเดีย
อุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายสำหรับแผนการฟื้นฟูภาพลักษณ์และยกระดับกองเรือบินของแอร์อินเดีย ภายใต้การบริหารของกลุ่มทาทา ที่เข้าซื้อกิจการจากรัฐบาลในปี 2022
ทั้งนี้ สำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) ประกาศสัปดาห์ที่แล้วว่า จะสอบสวนสายการบินงบประมาณ แอร์อินเดีย เอ็กซ์เพรส หลังรายงานว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ของแอร์บัส A320 ตามกำหนดเวลา และปลอมแปลงบันทึกเพื่อแสดงการปฏิบัติตามกฎ
การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป โดยรายงานฉบับสมบูรณ์คาดว่าจะออกภายในหนึ่งปี ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนามาตรการความปลอดภัยในอุตสาหกรรมการบินต่อไป
อ้างอิง: รอยเตอร์ส, Aircraft Accident Investigation Bureau (AAIB) อินเดีย