ผบ.ตร. สั่งตำรวจทั่วประเทศ เฝ้าระวัง-เตรียมพร้อมกำลังพล รับมืออิทธิพลพายุวิภา จัดสายด่วน 191, 1599 เพื่อช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
วันนี้ (24 กรกฎาคม) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยและสาธารณภัยที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุวิภา
จากการประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุวิภา ซึ่งเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบน ประกอบกับอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่ม
ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้ตำรวจทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ประสบอุทกภัย เตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และจัดระบบการจราจรในพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเคร่งครัด พร้อมสนับสนุนการทำงานของกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564 – 2570
มาตรการสำคัญที่กำชับเพิ่มเติม ได้แก่
ติดตามสถานการณ์: เฝ้าระวังการเกิดสาธารณภัย เช่น น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และการประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด
เตรียมความพร้อมกำลังพลและอุปกรณ์: ตรวจสอบกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ และอุปกรณ์อื่น ๆ ให้พร้อมใช้งานเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
เพิ่มความเข้มงวดการปฏิบัติหน้าที่: รักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ประสานงานเครือข่าย: ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน เพื่อบูรณาการการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด
ป้องกันมิจฉาชีพ: จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่รับผิดชอบ ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางประสบปัญหา พร้อมลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำเติม และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกราย
หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่ สายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง