คลื่นความร้อนปกคลุมยุโรป อากาศระอุขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งทวีป
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองมาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่า บรรดานักวิทยาศาสตร์เตือนมานานแล้วว่า การที่มนุษย์เผาเชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้โลกร้อนขึ้น และส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งคลื่นความร้อนในช่วงฤดูร้อนของยุโรป ซึ่งรุนแรงยิ่งขึ้นและเกิดบ่อยครั้ง ก็เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากภาวะโลกร้อน
ในอิตาลี เมือง 17 แห่ง ตั้งแต่เมืองมิลาน ทางตอนเหนือ ไปจนถึงเมืองปาแลร์โม ทางตอนใต้ ได้รับการประกาศเตือนภัยอุณหภูมิสูง ในระดับ “สีแดง” ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด โดยทางการบันทึกอุณหภูมิสูงสุดได้ที่ 39 องศาเซลเซียส ขณะที่ในกรุงโรม อุณหภูมิที่ร้อนระอุทำให้นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญจำนวนมาก มุ่งหน้าไปที่น้ำพุสาธารณะ 2,500 แห่ง เพื่อคลายร้อน
อีกด้านหนึ่ง อุณหภูมิในเมืองมาร์แซย์ ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของฝรั่งเศส พุ่งแตะ 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ทางการสั่งให้บริการสระว่ายน้ำสาธารณะ “โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย” เพื่อช่วยให้ประชาชนผ่อนคลายจากความร้อนของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ล่าสุด พื้นที่ 2 ใน 3 ของโปรตุเกส อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังระดับสูง สำหรับอากาศร้อนจัดและไฟป่า โดยคาดว่าอุณหภูมิในกรุงลิสบอน อาจสูงถึง 42 องศาเซลเซียส ส่วนสเปนคาดว่าจะเผชิญกับอุณหภูมิสูงสุดเกิน 40 องศาเซลเซียส เกือบทั่วประเทศ
ทั้งนี้ โคเปอร์นิคัส ไคลเมต เชนจ์ เซอร์วิส (ซี3เอส) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหภาพยุโรป (อียู) ระบุว่า ยุโรปเผชิญกับคลื่นความร้อนอย่างรวดเร็ว และรุนแรงเป็นประวัติการณ์ โดยโคเปอร์นิคัส และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) ชี้ให้เห็นว่า ยุโรปมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 2 เท่า ของค่าเฉลี่ยทั่วโลก นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980.
เครดิตภาพ : AFP