ย้อนเกล็ด “คลิปเสียงฮุนเซน” แนะไทยลุยเปิดโปงบนเวทีโลก ขยี้จุดตาย “ผู้นำกัมพูชา”!!!
เมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2568 สังคมออนไลน์และแวดวงการเมืองไทย-กัมพูชาต้องสั่นสะเทือน หลังสำนักข่าวระดับโลก Al Jazeera เปิดเผยคลิปเสียงที่ระบุว่าเป็นของนายฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และประธานวุฒิสภาคนปัจจุบัน สั่งการให้ "ตามล่าสังหาร" นักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านชาวกัมพูชาที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย!
การเปิดโปงครั้งนี้ไม่เพียงแต่เขย่าวงการเมืองกัมพูชา แต่ยังกลายเป็นประเด็นร้อนในประเทศไทย โดยเฉพาะในบริบทที่ทั้งสองประเทศมีข้อพิพาทเรื่องเขตแดนบริเวณพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจของศาลโลกในอนาคต
ฉะนั้น การพิสูจน์ความจริงในกรณีนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องสิทธิมนุษยชน หากแต่เชื่อมโยงถึงเกียรติภูมิและผลประโยชน์แห่งชาติของไทยโดยตรง
คลิปเสียงเขย่าอาเซียน: ฮุน เซน กับคำสั่ง "เป็นหรือตาย"
คลิปเสียงที่ถูก Al Jazeera เผยแพร่เป็นส่วนหนึ่งของรายงานเชิงสืบสวนที่ตั้งใจเปิดโปงปฏิบัติการลับของรัฐบาลกัมพูชา ในการไล่ล่าและสังหารฝ่ายต่อต้านนอกประเทศ เนื้อหาของคลิปมีเสียงชายที่มีลักษณะเหมือนฮุน เซน พูดถึงการตามล่าผู้ลี้ภัยฝ่ายค้านว่า "ให้จับตัวกลับมา ไม่ว่าจะต้องทำยังไง เป็นหรือตายก็เอากลับมาให้ได้"
เสียงในคลิปยังกล่าวถึง "พร พันนา" นักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านที่หลบหนีมาไทย และยังมีการโยงถึงคดีลอบสังหาร "ลิม คิมยา" อดีต ส.ส. พรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่ถูกยิงเสียชีวิตกลางกรุงเทพฯ เมื่อเดือนมกราคม 2568 ซึ่งลิม คิมยา เป็นบุคคลสำคัญในขบวนการต่อต้านรัฐบาลฮุน เซน และมีสถานะพลเมืองฝรั่งเศส
รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธ: อ้างเป็น AI ปลอมเสียง
รัฐบาลกัมพูชาตอบโต้ทันที โดยปฏิเสธว่าเสียงในคลิปไม่ใช่ของฮุน เซน และกล่าวหาว่าคลิปนี้ถูกสร้างขึ้นด้วย AI โดยกลุ่มฝ่ายค้านเพื่อทำลายชื่อเสียง อย่างไรก็ตามจากรายงานของ Al Jazeera ชี้ชัดว่าทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงของพวกเขาได้วิเคราะห์คลิปแล้ว และยืนยันว่าเป็นเสียงของฮุน เซน จริง
หากพิสูจน์ได้ว่าคลิปเสียงนี้เป็นของจริง จะถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญในข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนข้ามพรมแดนของผู้นำกัมพูชา และอาจเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ในภูมิภาค
ปฏิกิริยาในไทย: แรงกดดันทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน
ในประเทศไทย กระแสสังคมเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น นักการเมืองหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการสอบสวนอย่างโปร่งใส เพื่อแสดงจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชนและปกป้องอธิปไตยของประเทศ
พริษฐ์ วัชรสินธุ (ไอติม) ส.ส. พรรคประชาชนกล่าวว่า "รัฐบาลไทยควรแสดงออกชัดเจนว่าเหตุลอบสังหารนักการเมืองกัมพูชาในไทยไม่อาจยอมรับได้ ไม่ว่าคำสั่งจะมาจากผู้นำต่างชาติคนใด"
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ยื่นเรื่องต่อ ผบ.ตร. เพื่อขอให้สอบสวนคลิปเสียงของฮุน เซน ว่าเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ โดยเน้นว่าการสังหารที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แม้ผู้สั่งการจะอยู่ต่างประเทศ ก็ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายไทย
ท่าทีของรัฐบาลไทย: ยิ่งเงียบ ยิ่งเสียเปรียบ
ในขณะที่แรงกดดันจากสังคมเพิ่มขึ้น รัฐบาลไทยกลับมีท่าทีที่ค่อนข้างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการเมืองภายในของกัมพูชา
ท่าทีนี้ถูกวิจารณ์ว่าอ่อนแอเกินไป เพราะหากไทยไม่แสดงจุดยืนที่ชัดเจน ไม่เพียงแค่สูญเสียความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก แต่ยังอาจส่งผลให้กัมพูชาได้เปรียบในข้อพิพาทพรมแดนที่กำลังเข้าสู่กระบวนการศาลโลก
เสียงจากองค์กรสิทธิมนุษยชน: "ประเทศไทยต้องไม่เป็นพื้นที่สังหารของทรราชต่างแดน"
Human Rights Watch และ Amnesty International ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า กรณีลอบสังหารลิม คิมยา เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งสอบสวนและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อปกป้องสถานะของประเทศไทยในฐานะประเทศที่ให้ที่ลี้ภัย
องค์กรสิทธิมนุษชนเตือนว่า หากไทยเพิกเฉยต่อคดีนี้ จะทำให้ชื่อเสียงของไทยในด้านสิทธิมนุษยชนเสียหาย และอาจถูกประเทศตะวันตกกดดันทางการทูต
จุดพลิกเกม: ใช้ "คลิปฮุน เซน" เป็นเครื่องมือในเวทีโลก
หลายฝ่ายเสนอว่า ไทยควรถือโอกาสนี้ในการเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมดและใช้คลิปเสียงนี้เป็นหลักฐานที่สะท้อนถึงธรรมาภิบาลของรัฐบาลกัมพูชา เพื่อแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลกัมพูชาใช้อำนาจในทางมิชอบถึงขั้นสั่งสังหารคู่แข่งทางการเมืองในต่างประเทศ
หากดำเนินการอย่างจริงจัง ไทยสามารถใช้กรณีนี้เป็นข้อได้เปรียบทางการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในการต่อสู้ข้อพิพาทเขตแดนกับกัมพูชาที่มีแผนจะนำเรื่องขึ้นสู่ศาลโลกอีกครั้งเกี่ยวกับพื้นที่พรมแดนรอบปราสาทพระวิหาร
ผลประโยชน์ระยะยาวของไทย
1. เสริมสร้างภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลก แสดงให้เห็นว่าไทยไม่ยอมให้ใครมากระทำผิดกฎหมายในแผ่นดินตน ยืนหยัดในหลักสิทธิมนุษยชนสากล
2. ส่งสารถึงประเทศเพื่อนบ้านว่าไทยจะไม่ทนต่อพฤติกรรมอำนาจนิยมที่ข้ามพรมแดน ช่วยสร้างภูมิภาคอาเซียนที่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ
3. ต่อรองในข้อพิพาทระหว่างประเทศ หากไทยสามารถพิสูจน์ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารในไทย จะช่วยลดความน่าเชื่อถือของกัมพูชาในเวทีระหว่างประเทศ
ทางเลือกของไทยคือจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์
ประเทศไทยกำลังยืนอยู่ในจุดตัดทางการเมืองระหว่างประเทศ กรณีคลิปเสียงของฮุน เซน ไม่ใช่แค่เรื่องอาชญากรรมธรรมดา หากแต่เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนการใช้อำนาจในทางที่ไร้มนุษยธรรม การเพิกเฉยหรือยืดเยื้อจะยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ว่าไทยอ่อนแอทางการเมืองและไร้จุดยืนด้านสิทธิมนุษยชน
การสอบสวนอย่างโปร่งใส และกล้าหาญต่อผู้นำเผด็จการในต่างแดน จะเป็นสัญญาณให้โลกเห็นว่า ไทยพร้อมปกป้องประชาธิปไตย ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอิทธิพลใดก็ตาม
#คลิปฮุนเซน #สิทธิมนุษยชน #ไทยกัมพูชา #ฆ่าคู่แข่งการเมือง #อธิปไตยไทย #ลิมคิมยา #ข่าวการเมือง #ข่าวต่างประเทศ