ปูดฐานทัพเรือพังงา แลกภาษีทรัมป์บาน-ระแวง “รัฐบาลอิ๊งค์” ชักศึกฯ?

ความวัว “ศึกเขมร” ยังนัวกับทั้ง “ทักษิณ-อิ๊งค์” และรัฐบาลที่ถูกระแวงสัมพันธ์ “ฮุนเซน” ความควายก็มา โดยจู่ ๆ ก็มีการปูด “ข่าวลือ” การเจรจา “ภาษีทรัมป์”มีประเด็น การจะแลกเปลี่ยนการตั้งฐานทัพสหรัฐในไทยที่ “ฐานทัพเรือพังงา” หรือ “กองทัพเรือภาค 3”ที่ ทับละมุ จ.พังงา เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ถ่วงดุลอำนาจทางเรือกับจีน ในการสกัดทางน้ำมัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขทางการค้าภาษี

ที่ถือเป็น “เรื่องใหญ่” ที่ส่งผลกระทบด้านความมั่นคง และอาจดึงไทยให้เข้าไปอยู่ระหว่าง “เขาควาย”สหรัฐ-จีน ยิ่งเมื่อ “พี่อ้วน ภูมิธรรม เวชชยชัย” รักษาการนายกฯ และรองนายกฯความมั่นคงออกมาตอบนักข่าวเมื่อวาน (14ก.ค.)เมื่อถูกถามว่ากองทัพเรือชี้แจงมาบ้างยังว่า ยังไม่มีการชี้แจงมาในรายละเอียด อันนี้อยู่ในงานของเขาอยู่แล้ว เรื่อง “ฐานทัพ” เขาคุยอยู่ในแผนของกองทัพเรืออยู่แล้ว ไม่มีอะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็ยิ่งทำให้ข่าวลือยิ่งกระจายหนัก เพราะเหมือนยอมรับในที

ที่ทำให้เมื่อวาน มีการอกมาถล่มรัฐบาลจากหลายฝ่าย อย่างที่ “ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์”จากคณะหลอมรวมประชาชน ที่ไลฟ์FB ระบุ สิ่งสำคัญ คือมรสุมลูกใหญ่ที่จากข่าวว่า รัฐบาลวางแผนนำไทยไปเสี่ยงกับสงครามนิวเคลียร์ ของประเทศมหาอำนาจ โดยนำฐานทัพเรือสหรัฐที่เกาะพังงา ไปเจรจาต่อรองให้ไทยรอดพ้นกับกำแพงกับภาษีทรัมป์ 36% ซึ่ง “นายภูมิธรรม”ก็ยอมรับว่าฐานทัพเรือสหรัฐที่เกาะพังงามีอยู่จริงในแผนของกองทัพเรือไทย แต่ไม่เกี่ยวกับภาษีทรัมป์ ที่เท่ากับเป็นการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน โดยไม่เข็ดหลาบกับอดีตที่ไทยเคยเป็นฐานทัพอากาศให้สหรัฐ
ขนระเบิดไปถล่มลาว เขมร ตั้งแต่สงครามเวียดนามมาแล้ว ดังนั้นในเรื่องนี้ รัฐบาลไม่ควรเอาประเทศไทยไปเสี่ยงด้วย

โดย “จตุพร”ระบุด้วยว่า ถ้าไทยเอาการตั้งฐานทัพเรือสหรัฐไปใช้ในการต่อรองภาษีทรัมป์ หรืออาจมีใครเห็นด้วยกับฐานทัพนี้ แต่ตนบอกได้ว่า ไม่มีวันจะคุ้มค่ากับความหายนะของชาติ ถ้าทางการไทย ได้ตัดสินใจเอาเรื่องนี้ไปแลก เกิดเรื่องกันอย่างแน่นอน ไม่ต้องรอถึงสิงหาคมหรอก ตัดสินใจกรกฎาก็ไปกรกฎากัน ก่อนย้ำว่า ฐานทัพเรืองสหรัฐที่พังงานั้น เป็นยุทธภูมิต้องการดักและควบคุมการเดินเรือช่องแคบมะระกา

ดังนั้น แม้สงครามต่าง ๆ ไทยไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่มหาอำนาจทั้งหลายล้วนมีอาวุธหนักคือระเบิดนิวเคลียร์ทั้งสิ้น ถ้ารัฐบาลเปิดประตูให้ไทยกลายเป็นสมรภูมิสงครามแล้ว หัวจรวดนิวเคลียร์จะพุ่งถล่มประเทศที่มีฐานทัพ ซึ่งไทยยิ่งเสี่ยงถูกทำลาย

ขณะที่“ดร.สุรชาติ บำรุงสุข”นักวิชาการด้านความมั่นคงจากจุฬาให้สัมภาษณ์รายการ “หมาแก่”ว่า วันนี้ รัฐบาลต้องกล้าเปิดว่า ตกลง ที่ “พิชัย”ทีมไทยแลนด์ เพิ่งทราบเรื่องนี้ในวันที่เข้าบ้านพิษฯใช่มั้ย ถ้าเป็นอย่างนั้นแสดงว่าข้อมูลชุดนี้ไม่ได้ถูกส่งผ่าน กลายเป็น “ข้อมูลเฉพาะส่วน”ที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนั้นรัฐบาลอาจจะต้องกล้าที่จะเปิดเรื่องนี้ให้สังคมรับรู้ แล้วถ้ารัฐบาลปิด แต่มันแพลมออกมาแล้ว ตนมองว่าจะเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องแบกรับเป็น “ภาระทางการเมือง”ยังไงโจทย์วันนี้ ควรต้องเปิดแล้ว ว่าตกลง ทรัมป์ อยากได้อะไรในเรื่องการเมืองความมั่นคง รวมถึงพูดชัดๆว่าเรื่องที่ลือกันจะขอมาตั้งฐานทัพในไทย จริงหรือไม่จริง เพราะก่อนหน้านี้ “ภูมิธรรม”ก็ เคยปฏิเสธ ว่าไม่มีประเด็น “อ.พอล” เกี่ยวข้องกับเรื่องเจรจา แต่ “ทักษิณ” มาบอกว่ามี

เรียกว่าข่าวเรื่องนี้ส่งผลกระเพื่อม ที่ส่วนใหญ่คัดค้าน จนทำให้วันนี้ มีรายงานการออกมาปฏิเสธของกองทัพเรือ ทำนอง ยังไม่เคยมีข้อเสนอว่าจะใช้ฐานทัพเรือพังงาเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐฯ เพราะสำหรับประเทศไทยไม่สามารถทำได้ ในการตั้งฐานทัพของประเทศใด แต่ตามข้อตกลงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เรื่องของการส่งกำลังบำรุง สหรัฐฯสามารถมาจอดที่ฐานทัพเรือพังงา และรับการส่งกำลังบำรุง เติมน้ำมัน หรือพักเรือได้อยู่แล้ว เป็นข้อตกลงไม่ว่าจะเป็นฐานทัพใดก็ตาม ทั้งฐานทัพเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสงขลา หรือแม้แต่สนามบินอู่ตะเภา เพราะมีข้อตกลงกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่กับสหรัฐฯ เท่านั้น

แต่กองทัพเรือมิตรประเทศก็สามารถที่จะมาจอดใช้ฐานทัพเรือต่างๆ ของกองทัพเรือไทยตามข้อตกลงอยู่แล้ว ไม่มีข้อเสนอถึงขั้นการเป็นฐานทัพของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าไทยจะรู้ว่า สหรัฐฯ อยากที่จะได้มีฐานทัพในประเทศไทย มายาวนานแล้วก็ตาม แต่รัฐบาลไทยทุกยุคและกองทัพก็ไม่เคยยินยอม เพราะถึงอย่างไรเรามีข้อตกลงเรื่องการส่งกำลังบำรุงกันอยู่แล้ว ก็เหมือนกับที่สนามบินอู่ตะเภา ที่สหรัฐฯ ก็มาใช้ตลอดจนเสมือนเป็นฐานทัพของสหรัฐฯ อยู่แล้ว

ขณะที่“พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รมช.กลาโหม ก็ออกยันยันเช่นกัน ว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อมาในประเด็นนี้ เห็นเพียงจากการนำเสนอของสื่อ พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่หนึ่งในเงื่อนไขที่สหรัฐฯ ยื่นให้กับประเทศไทย ในการเจรจาเรื่องภาษีและการค้า ก่อนย้ำว่า ยังไม่มีการพูดคุยเจรจากันเลย และเมื่อกระทรวงกลาโหมไม่รับทราบ ก็ไม่ทราบว่าจะมาจากทางไหน.

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews