ภท.จ่อฟ้องสมศักดิ์ ‘สทร.’ร่วมดินเนอร์

"ภูมิใจไทย" จ่อดำเนินคดี "สมศักดิ์" ปราศรัยโจมตีตอนคุม "มหาดไทย" ไม่แก้ปัญหายาเสพติด ซัดกลับป.ป.ส.-สตช.เป็นหน่วยงานหลักภายใต้กำกับ พ.ต.อ.ทวี-นายกฯ ทำงานบกพร่องแต่กลับใส่ร้ายป้ายสี อาจผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง ด้าน "สมศักดิ์" ลาราชการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ย้ำยึด มท.คืนเหตุปราบยาเสพติดไม่ได้ ฟุ้ง มท.1 คนใหม่เอาจริง คาดโทษ "ผวจ.-นอภ.-กำนัน-ผญบ." พื้นที่ไหนมียาเสพติดต้องรับผิดชอบ "วิสุทธิ์" แย้ม "ทักษิณ" ร่วมวงดินเนอร์พรรคร่วม รบ. โบ้ยไร้ครอบงำ ยันตำแหน่งรอง ปธ.สภาคนที่ 2 เป็นโควตา สส.อีสาน พท.

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ไปปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่จังหวัดศรีสะเกษ แล้วมีการกล่าวพาดพิง ภท.ว่าเมื่อครั้งดูแลกระทรวงมหาดไทยไม่แก้ปัญหายาเสพติด และทํากัญชาเสรีว่า เป็นการกล่าวที่เป็นการใส่ร้าย ทีมกฎหมายพรรคจะตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไป ความจริงแล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นหน้าที่หลักของสํานักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรมที่นายสมศักดิ์เคยเป็น รมว.ยุติธรรม ซึ่งมีหน้าที่หลักในขณะนั้นในการป้องกันรักษายาเสพติด ต่อมาผู้ที่เข้ามาดํารงตําแหน่ง รมว.ยุติธรรม คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ซึ่งเป็นอยู่ถึงปัจจุบัน

"ถามว่าที่ผ่านมานายสมศักดิ์ได้ทําหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไปถึงไหนอย่างไร และในฐานะที่เป็นคนดูแล ป.ป.ส. พ.ต.อ.ทวีทําหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือไม่อย่างไร หน่วยงานอีกหน่วยงานหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดยตรงก็คือ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (สตช./ตร.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ความรับผิดชอบโดยตรงของทั้ง 2 หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานหลัก กระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าตั้งแต่สมัยไหนก็ตามไม่ใช่หน่วยงานหลัก แต่เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการสนับสนุน"

นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามหาดไทยได้ให้การสนับสนุนในการทํางาน บางครั้งจําเป็นที่จะต้องเข้าไปดําเนินการในการเข้าไปจับกุมแหล่งการค้ายาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นยาบ้าหรือมีการกวาดล้าง ความบกพร่องที่มันเกิดขึ้นจนมหาดไทยต้องเข้าไปช่วย เพราะมีความบกพร่องของ ป.ป.ส.หรือ สตช.ที่อยู่ภายใต้กํากับดูแลของกระทรวงยุติธรรมและนายกฯ เพราะฉะนั้นการมากล่าวหาว่ามีการปล่อยปละละเลย การปราศรัยโดยมีการใส่ร้ายป้ายสีอย่างนี้ไม่มีผลดีกับผู้ที่ปราศรัย อาจจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง ในขณะเดียวกันการไปหลอกลวงบิดเบือนข้อเท็จจริงกับประชาชน เป็นการดูถูกประชาชน เพราะประชาชนรู้ดีว่าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่มีหน้าที่หลักในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพราะฉะนั้นอย่าใช้วิธีการอ้างโยนความรับผิดทั้งหลาย

"ฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทยจะมีการตรวจสอบว่าท่านใส่ร้ายป้ายสี มันผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแค่ไหนยังไง การใส่ร้ายว่าเราไม่ปราบปรามยาเสพติด ทั้งๆ ที่ท่านเอง ตัวคุณเองมีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อันนี้ชัดเจน" นายศุภชัยกล่าว

นายศุภชัยกล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาเรื่องกัญชา จริงๆ การปลดล็อกกัญชาทำสมัยที่นายสมศักดิ์เป็น รมว. ยุติธรรม เคยลงมติสนับสนุนในการปลดล็อกมา เพราะฉะนั้นอย่ามาบิดเบือนว่า ภท.มาทําให้กัญชาเสรีอย่างเดียว ภท.ไม่เคยทํากัญชาเสรี เราทํากัญชาทางการแพทย์ เหมือนที่นายสมศักดิ์กําลังทําตามสิ่งที่ ภท.เคยทํามา

พท.ขู่คาดโทษ ผวจ.-นอภ.

ที่วัดบ้านขะยูง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย น.ส.ภูริกา สมหมาย ผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งซ่อมที่ 5 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1, น.ส.วิลดา อินฉัตร สส.ศรีสะเกษ เขต 7, นายกิตติกร โล่ห์สุนทร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยมีประชาชนกว่า 1,000 คนร่วมฟังการปราศรัยอย่างคึกคัก

โดยนายสมศักดิ์กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตนได้รับเสียงสะท้อนว่ามี อสม.บางส่วนไปช่วยผู้สมัครอีกพรรคหนึ่ง ซึ่งมีการไปช่วยจดชื่อ ตนก็ตอบกลับไปว่าจะเป็นไปได้หรือ เพราะวันนี้ รมว.สาธารณสุขก็ลงพื้นที่มาแล้ว และในสัปดาห์หน้าคาดว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ก็จะเดินทางมาลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษด้วย เพื่อรณรงค์ให้ข้าราชการทุกระดับชั้นจัดการกับปัญหายาเสพติด เพราะตลอดการลงพื้นที่ตนได้รับเสียงสะท้อนตลอดว่า ตามชุมชนยังมียาเสพติดอยู่ ซึ่ง รมว.มหาดไทยคนใหม่ หลังรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 68 ก็ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 17 ก.ค. 68 ทันทีเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด โดยได้นำผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศไปร่วมประชุม และได้สั่งคาดโทษว่าถ้าพื้นที่ไหนมีคนขายยาเสพติด นายอำเภอ, ผู้กำกับ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรับผิดชอบ

“เป็นนโยบายดั้งเดิมของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ซึ่งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องการทำงานปราบปรามยาเสพติด แต่ในอดีตเราเป็นรัฐบาลผสม มีหลายพรรคการเมือง โดยพรรคลำดับที่ 2 ดูแลกระทรวงมหาดไทย แต่ไม่ได้ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ จึงเป็นเหตุที่ปรับกระทรวงมหาดไทยมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย และในส่วนของผม หลังปรับพรรคร่วมออกจากรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุขก็ควบคุมกัญชาทันที โดยจากกัญชาเสรี ผมได้ประกาศควบคุมกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว" นายสมศักดิ์กล่าว

จากนั้นนายสมศักดิ์พร้อมด้วย น.ส.ภูริกาได้เดินทางไปปราศรัยต่อที่วัดกลางสันติภาพ อ.ภูสิงห์ โดยมีพี่น้องประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยกว่า 500 คน โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ตนลาราชการมาพบปะกับพี่น้องตำบลดงรัก

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม จ.ศรีสะเกษว่า ไม่ทราบ ซึ่งจะมีคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นผู้วางแผนกัน ซึ่งเขาก็ขอคิวทุกคน ถ้าใครว่างก็ไป

ส่วนการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 22 ก.ค.นี้นั้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะไปร่วมงานด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ทราบ ซึ่งการรับประทานอาหารดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการปกติ ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะกินข้าวและพูดคุยกัน ส่วนเรื่องที่จะพูดคุยกันคงเป็นเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ทำความรู้จัก และพบปะแลกเปลี่ยนกัน ส่วนนายทักษิณสามารถไปร่วมงานได้หรือไม่ ต้องว่าไปตามกฎหมาย งานลักษณะดังกล่าวปกติจะไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า

'สทร.' จ่อดินเนอร์พรรคร่วม

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณจะร่วมรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า เบื้องต้นทราบว่าท่านจะไป เป็นเรื่องปกติเพราะตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมา 2 ปี สส.พรรคร่วมรัฐบาลไปทานอาหารร่วมกันแค่ครั้งเดียว เพราะแต่ละคนไม่ค่อยมีเวลา แต่ครั้งนี้มีการปรับบางพรรคออกจากการร่วมรัฐบาล ที่เหลือเราจึงต้องมานั่งปรึกษาหารือและทำความเข้าใจกันเพื่อให้เกิดความแน่นแฟ้น ความสามัคคีในการประชุมสภาที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อถามว่าเป็นการครอบงำหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า การไปทานอาหารร่วมกันและไปพูดคุยกันนั้นไม่ถือเป็นการครอบงำ ถ้าตีความการครอบงำจะคือการสั่งการ สั่งให้พรรคนั้นทำเช่นนี้ หรือทำให้ฝ่ายพรรค พท.ทำเช่นนั้น แต่หากไปให้ความรู้และประสบการณ์การทำงาน เราต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่าตอนที่นายทักษิณเป็นนายกฯ คนไทยวันนั้นมีความสุขมาก ยาเสพติดเกือบหมดไป อะไรก็ดีไปหมด

“ฉะนั้นขออย่าไปจ้องว่าจะมีการครอบงำเช่นนั้นเช่นนี้ คนไทยวันนี้ติดเรื่องหนึ่งคือการจับผิด ไม่รู้ว่าใครจะมาบอกดีหรือบอกร้ายแต่ฟ้องไว้ก่อน กลายเป็นเรื่องปกติที่มีการร้องรายวัน ทำให้องค์กรอิสระเหนื่อยไม่รู้จะตรวจสอบเช่นไร นักร้องเยอะแยะไปหมด ไม่รู้วงไหนบ้าง มีหลายวง” นายวิสุทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า สรุปแล้วไม่กลัวข้อหานี้ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า "ไม่กลัว เราต้องตีความว่าการครอบงำคือการไปสั่งการให้ทำเช่นนั้นเช่นนี้ พรรคนั้นต้องปฏิบัติเช่นนี้ พรรคนี้ต้องปฏิบัติเช่นนั้น แต่ท่านไปพูดประสบการณ์การทำงาน ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการที่เป็นนักการเมือง ฝ่ายบริหารได้ฟังก็นำไปคิด หากอะไรที่เป็นประโยชน์ก็นำไปทำ สส.รุ่นหลังที่เข้ามาก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้พบท่านก็ไปฟัง เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ทั้งนั้น"

นายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงการเลือกตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 ว่า ตำแหน่งรองประธานสภาไม่ได้ยกให้ใคร บอกแล้วว่าเป็นโควตาของพรรค พท. ในพรรคก็ดูกันแล้วว่า สส.ภาคอีสานมากที่สุด และควรจะเป็น สส.ทางภาคอีสานที่จะได้ตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 ซึ่งจะเลือกในวันที่ 24 ก.ค. แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะส่งใครเพราะยังไม่ได้มีการประชุมพรรค ในที่ประชุมพรรคว่าจะเลือกใครก็เป็นมติของ สส.ในพรรคก่อน ฉะนั้นใครครอบงำไม่ได้ 22 ก.ค.นี้ตอนเย็นแน่นอนว่าจะได้รายชื่อ พท.จะส่งใคร เพราะเห็นมีหลายคนเสนอตัว ส่วนพรรคอื่นโอเคอยู่แล้ว จากที่คุยมาไม่มีใครขัดข้อง.