โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ถ้าเขาไม่ทะเลาะกันเราไม่รู้

ไทยโพสต์

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สถานการณ์โจรปล้นโจรยังคงดำเนินต่อไป…

มันพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ

จากกับระเบิดเขมร วนไปวนมา มีอาวุธเขมรทะลักเข้าไทย เอาไว้สู้กับทหารไทย สมัยเผาบ้านเผาเมือง กทม.ตกอยู่ในกองเพลิง

ถ้าเขาไม่แฉกันเองเราก็ไม่รู้ครับ

ต้นตอแฉคือ "อาคม ซิดนี่ย์"

ชื่อจริงคือ "องอาจ ธนกมลนันท์" หนีคดี ม.๑๑๒ ปัจจุบันอยู่ที่ออสเตรเลีย เคยถูก คสช.เรียกรายงานตัว เพราะอยู่ในกลุ่มเคลื่อนไหวล้มล้างสถาบันฯ

อยู่ในคำสั่งเรียกรายงานตัว ชุดเดียวกับ จักรภพ เพ็ญแข, ชูพงศ์ ถี่ถ้วน, ใจ อึ๊งภากรณ์, จรรยา ยิ้มประเสริฐ, เอกภพ เหลือรา (ตั้ง อาชีวะ)

สถานะปัจจุบันหนีคดี ม.๑๑๒ ทั้งนั้น ยกเว้น "จักรภพ" อัยการสั่งยกฟ้องไปแล้ว

แต่ยังต้องขึ้นศาลคดี ร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

เป็นอั้งยี่

และอีกไม่กี่วันจะเป็นโฆษกรัฐบาล

"อาคม ซิดนี่ย์" โพสต์เรื่องลับ ๗ วันที่กัมพูชาไปแล้ว ๔ ตอน

มีประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากในโซเชียลขณะนี้คือ เรื่องเสื้อแดงได้อาวุธจากเขมร

"…วันแรกที่กัมพูชา การไปครั้งนั้นผมได้บอก…ว่าจะไปกันเงียบๆ จะมีแฟนคลับจากอเมริกาที่เป็นเพื่อนวู้ดไซด์กับคุณหมอจากราชบุรี และแฟนคลับจากเมืองไทยสองคนผัว-เมีย

แต่พอได้เวลาผมต้องตกใจพอสมควร ที่ต้องเจอกับบุคคลมากหน้าหลายตาที่ผมไม่รู้จัก ตลอดจนชายชุดดำที่ผมได้กล่าวถึงข้างต้น และแม้แต่มือปืนที่ยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล….ก็เชิญมาปรากฏตัวในคืนวันนั้น ทำให้ข้อสงสัยที่ผมใคร่อยากรู้ จึงไม่มีโอกาสได้สอบถาม

อีกทั้งบรรยากาศก็ไม่เอื้ออำนวย มีการถ่ายรูปและวิดีโอกันอย่างเดียงสา ผมจำเป็นต้องอดทนรอให้ทุกคนกลับถิ่นฐาน เพื่อผมจะได้มีโอกาสคุยกับ…ตามลำพัง…"

"…ดังที่กล่าวไว้ในบทความที่แล้วว่าการไปหา… สิ่งที่เหนือความคาดหมายของผมคือ ….เปิดตัวชายชุดดำและมือปืนยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในค่ำคืนนั้น ทำให้เป็นที่สนใจของผู้คนที่ร่วมอยู่ในงานเลี้ยงสิบกว่าคน ที่ต่างก็พากันสอบถามด้วยความอยากรู้ที่มาของชายชุดดำ ก็นับว่าเป็นของแถมที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ส่วนผมไม่ได้รีบร้อน ผมรอจนเป็นคนสุดท้ายจึงได้พูดคุยกับชายชุดดำอย่างใกล้ชิด กับคำถามแรก

๑.เป็นทหาร บก เรือ หรืออากาศ? ปรากฏว่าผิดหมด เขาเป็นสามัญชนที่อาสามาร่วมต่อสู้โดยไม่ได้เป็นทหารสังกัดเหล่าทัพใด

๒.เมื่อไม่ได้เป็นทหารแล้วเอาอาวุธมาจากไหน? คำตอบก็คือเวทีคนเสื้อแดง…เป็นคำตอบที่ทำให้ผมรู้สึกเหนือความคาดหมายมากยิ่งขึ้น

๓.ผมต้องถามย้ำเวทีคนเสื้อแดง แล้วเสื้อแดงทำไมจึงมีอาวุธสงครามให้ใช้….คำตอบสมเด็จฮุน เซน ให้มาเพื่อการต่อสู้จำนวน ๒ ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งจักรภพก็ยืนยันในข้อเท็จจริง….ทำให้เชื่อสนิทใจจากที่เคยได้ยินมาบ้าง

๔.ต่อคำถามที่ว่า อาวุธมากมายขนาดนี้น่าจะเพียงพอสำหรับการต่อสู้แบบกองโจรหรือโจมตีแล้วพลางตัวเข้ากับมวลชน สร้างความระส่ำให้กับเจ้าหน้าที่…..คำตอบคือไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เพราะแค่กระสุนหมด จะเบิกกระสุนรอบใหม่ยังต้องจ่ายตังค์ เลยถอดใจทิ้งอาวุธและหนีมาอยู่กัมพูชา

๕.ก็ไหนบอกว่าเป็นอาวุธที่ฮุน เซน ให้มาเพื่อช่วยการต่อสู้ เหตุใดจึงต้องซื้อ….คำตอบคือใช่ฮุน เซน ให้มาเพื่อการต่อสู้จริง แต่คนเสื้อแดงเอาไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่ได้เก็บไว้สำหรับต่อสู้…..ผมหวังว่าพี่น้องเสื้อแดงที่ได้อ่านบทความนี้คงจะกระจ่างถึงสาเหตุแห่งความพ่ายแพ้

กว่าผมจะได้คุยกับมือปืนที่ยิงสนธิ ซึ่งเป็นทหารบก ผมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดยิงกระสุนเข้าใส่จนรถพรุนทั้งคัน ทำไมโดนสนธิแค่ถากๆ นัดเดียว…..คำตอบคือ 'ผมนั่งอยู่ท้ายรถกระบะเมื่อเข้าระยะหวังผลก็ลุกขึ้นยิง วิถีกระสุนจึงลงต่ำส่วนใหญ่ลงพื้นรถมากกว่า' ซึ่งผมก็ยังคาใจและมีคำถามที่อยากจะถามต่อ ก็พอดีเพื่อนๆ ร่วมงานต่างก็เริ่มขยับจะกลับโรงแรมที่พักเพราะเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง ผมก็เลยไม่มีโอกาสได้สอบถามมากกว่านี้…"

มีเรื่องการล้มล้างสถาบันฯ ด้วย

โพสต์ของ "อาคม ซิดนี่ย์" ในตอนที่ ๓ ระบุว่า

"..อย่างไรก็ตามโอกาสก็มาถึง …ชวนผมไปกินกาแฟ เราก็เลยได้สนทนากัน ผมไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ ผมได้สอบถาม…ว่า 'ทำไมสมเด็จฮุน เซน เมื่อโค่นล้มกษัตริย์ได้แล้ว เหตุใดยังยกย่องให้เป็นประมุขแห่งรัฐ'

…จึงเล่าให้ฟังว่า นี่เป็นเรื่องที่สมเด็จฮุน เซน ได้อธิบายและแนะนำให้ทักษิณว่า 'การล้มกษัตริย์ราชวงศ์ ไม่จำเป็นต้องฆ่าแกงหรือจับติดคุก ในทางตรงกันข้ามควรเลี้ยงดูกษัตริย์ราชวงศ์ให้ดีที่สุด แต่ไม่ให้มีอำนาจ' เหตุผลก็คือ

๑.พวกที่ยังนิยมกษัตริย์ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยจะได้ไม่ต้องออกมาต่อต้าน จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง

ช๒.เมื่อกษัตริย์ไม่มีอำนาจ ไม่ได้คุมกองทัพ ก็เป็นเพียงประชาชนคนหนึ่งที่สิ้นฤทธิ์ ลูกหลานกษัตริย์ที่เหลืออยู่ก็เปรียบเสมือนเป็นตัวประกัน

….ยังยกตัวอย่างเจ้านโรดม รณฤทธิ์ อดีตหัวหน้าพรรคฟุนซินเปก ที่เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร่วมกับสมเด็จฮุน เซน และพยายามสถาปนาระบอบกษัตริย์ขึ้นมาใหม่ แต่สุดท้ายสมเด็จฮุน เซน กุมตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และให้เจ้ารณฤทธิ์ไปเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร

จนในที่สุดเจ้ารณฤทธิ์ต้องทรงลี้ภัยการเมืองในต่างประเทศ โดยพำนักอยู่ในประเทศฝรั่งเศส หลังจากต้องคดีหมิ่นประมาทสมเด็จฮุน เซน เจ้านโรดม สีหมุนี เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๔๗ หลังการประกาศสละราชสมบัติของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ขณะมีพระชนมายุ ๕๑ พรรษา…"

"อาคม ซิดนี่ย์" เขียนเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

ก็ไม่อาจทราบได้ครับ

แต่มีข้อเท็จจริงคือ "อาคม ซิดนี่ย์" เคยเป็น FC ของ "ทักษิณ" มาก่อน เคยสนับสนุนเต็มเหนี่ยว แต่สุดท้ายเลิกนับถือเพราะแนวทางไม่ฮาร์ดคอร์พอ

ไม่อาจตอบสนองกลุ่มที่หนีคดีไปต่างประเทศได้

ไม่ใช่ "อาคม ซิดนี่ย์" คนเดียวครับที่หวังพึ่ง "ทักษิณ" ว่าจะเปลี่ยนระบอบการปกครองได้ กลุ่มผู้ต้องหาคดีม.๑๑๒ ที่หนีไปต่างประเทศทั้งหมดก็คาดหวัง

เมื่อผิดหวัง ทั้งหมดจึงหันไปเชียร์พรรคส้มแทน

คาดหวังว่า พรรคส้มจะสานต่อแนวคิดล้มเจ้าได้

ครับ…ถ้าเขาไม่ทะเลาะกันเราก็ไม่รู้

เหมือน "ทักษิณ" กับ "ฮุน เซน" นั่นแหละครับ

ลากไส้กันเอง.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

มท.1 ยังไม่เห็นรายงานเขากระโดง ลั่นถ้ายังเยิ่นเย้อ จะตัดสินใจใน 7-15 วัน!

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จะคล่องปากไหม?

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม