TISCO เก็งปีนี้เฟดลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งรวม 0.50% รับแรงกดดันตลาดแรงงาน แม้เงินเฟ้อยังเป็นโจทย์ใหญ่
นายธนภัทร ธนชาต ผู้ช่วยนักวิจัย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% ภายในปี 68 เพื่อรองรับกับความเสี่ยงด้านต่ำของตลาดแรงงาน โดยคาดว่าจะทยอยลดในเดือนกันยายนและเดือนธันวาคมและอาจปรับลดลงอีก 0.25-0.50% ในปี 69 หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย และไม่มีการเลิกจ้างงานอย่างรุนแรง
"หลังจากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% มาตั้งแต่ต้นปี 68 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่สัญญาณจากตลาดแรงงานเริ่มสะท้อนถึงความเปราะบาง โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับท่าทีของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในการประชุม Jackson Hole Economic Policy Symposium ล่าสุด ที่เริ่มโน้มเอียงไปทางผ่อนคลาย (Dovish) ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายนนี้"
ด้านตลาดการเงินตอบรับด้วยการคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับประมาณ 3.0% ภายในไตรมาส 3/69 ซึ่งเทียบเท่ากับการลดดอกเบี้ยรวมกว่า 1.251.50% จากระดับปัจจุบัน ขณะที่ TISCO ESU มองว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยนโยบายน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจาก 1.โครงสร้างตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป 2.เงินเฟ้อที่ยังมีแนวโน้มสูงกว่าระดับเป้าหมาย และ 3.ตลาดตีความท่าทีการสื่อสารของนายพาวเวลล์ว่ามีความผ่อนคลายมากเกินไป
สำหรับการจ้างงานในสหรัฐฯ แม้จะชะลอลง แต่อัตราการว่างงานยังทรงตัวในระดับต่ำ เป็นผลจากอุปทานแรงงานที่ชะลอตัวลงพร้อม ๆ กับอุปสงค์แรงงาน หลังประธานาธิบดีทรัมป์ดำเนินมาตรการกีดกันผู้อพยพอย่างเข้มงวด ทำให้จำนวนการเข้ามาของผู้อพยพแบบผิดกฎหมายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ระดับการจ้างงานที่ไม่ทำให้อัตราการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น (Breakeven Employment) ลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตัวชี้วัดตลาดแรงงานอื่น ๆ เช่น อัตราการลาออกแบบสมัครใจ อัตราการเลิกจ้าง สัดส่วนงานว่างเปิดใหม่เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ว่างงาน และค่าจ้างแรงงานยังสะท้อนถึงภาวะตลาดแรงงานที่อยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล
ขณะที่ราคาสินค้าบางหมวดเริ่มเผชิญกับผลของการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งกำแพงภาษีศุลกากร ทั้งนี้ แม้ในภาพรวมยังไม่น่ากังวลเท่าที่เฟดเคยประเมินไว้ เพราะการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลผลิตไปสู่ผู้บริโภคยังเกิดขึ้นน้อยและช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า แต่มีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการจะยังทยอยส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคในช่วงที่เหลือของปีหลังต้นทุนการนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังเผชิญกับความเสี่ยงด้านสูงในระยะข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้นายพาวเวลล์จะเริ่มมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้นในการประชุม Jackson Hole ล่าสุด แต่การสื่อสารยังผสมไปด้วยความระมัดระวัง โดยระบุว่า"เงินเฟ้อเผชิญความเสี่ยงด้านสูง ขณะที่ตลาดแรงงานเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำ" ซึ่งหากเปรียบเทียบกับงานประชุม Jackson Hole ในปี 2567 ที่เฟดเริ่มต้นวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง นายพาวเวลล์กล่าวว่า "ความเสี่ยงด้านสูงของเงินเฟ้อมีลดลง และความเสี่ยงด้านต่ำของตลาดแรงงานมีเพิ่มขึ้น" ทำให้โดยรวมเป็นการสื่อสารที่ค่อนข้างเป็นกลางกว่าปีก่อน อีกทั้งยังย้ำว่า เครื่องชี้วัดตลาดแรงงานหลายตัวยังทรงตัว หรือชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในช่วงที่ผ่านมาเพราะฉะนั้นการลดดอกเบี้ยแบบต่อเนื่องหรือในอัตราที่มากกว่าปกติยังไม่น่าจะเกิดขึ้น เว้นแต่ตลาดแรงงานจะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO