เวียตเจ็ท ปรับเป้ารายได้ปี 68 ลง 20% หลังนักท่องเที่ยวจีนดิ่ง 30%
เวียตเจ็ท ประกาศกลยุทธ์ 5 ปี รายได้โต 4 หมื่นล้านบาท ปรับเป้ารายได้ปี 68 ลง 20% เหลือ 1.5หมื่นล้านบาท หลังนักท่องเที่ยวจีนดิ่ง 30%
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เปิดเผยว่า เวียตเจ็ทประกาศเดินหน้ากลยุทธ์การเติบโตเชิงรุก 5 ปี ( ปี 2568–2571) ตั้งเป้ารายได้ 40,000 ล้านบาท จากปี 2568 ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 15,000 ล้านบาท เติบโตใกล้เคียงกับปี 2567 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงประมาณ 30% ส่งผลให้เวียตเจ็ท ต้องปรับเป้ารายได้ลดลงประมาณ 20% จากประมาณการณ์เดิมที่ตั้งไว้ทั้งปีจะมีรายได้ 18,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ แผน 5 ปีที่วางไว้สิ้นสุดปี 2571 นั้นจะเกิดขึ้นจากประมาณการสถานการณ์นักท่องเที่ยวและการเดินทางจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยพร้อมเดินหน้าวางแผนอนาคต เพื่อผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน ผ่านการขยายฝูงบิน เพิ่มเครือข่ายเส้นทางบิน ลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสาร
“ขณะนี้เวียตเจ็ทมีสัดส่วนรายได้ การบินในประเทศอยู่ที่สัดส่วน 65% และบินระหว่างประเทศสัดส่วน 35% และขยายการบริการเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มฝูงบิน ดังนั้นในปี 2571 สัดส่วนรายได้ของการให้บริการบินในประเทศจะลดลงเหลือ 20% ขณะที่การบินระหว่างประเทศจะเพิ่มเป็น 80% ซึ่งการบินระหว่างประเทศจะมีมาร์จิ้นสูงกว่าบินในประเทศ ดังนั้นจากนี้ต่อไปสัดส่วนกำไรจะเพิ่มขึ้นจากการขยายบริการไปยังต่างประเทศ เชื่อว่าเวียตเจ็ทจะมีกำไรต่อเนื่องนับจากปี 2567 ที่มีกำไรเป็นปีแรกหลักจากการระบาดของโควิด”
นายวรเนติ กล่าวว่า ปัจจุบันเวียตเจ็ทอยู่ระหว่างเตรียมรับมอบอากาศยานใหม่ โบอิ้ง 737-8 เพิ่มอีก 50 ลำ ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป โดยเครื่องลำแรกมีกำหนดส่งมอบในเดือนต.ค.,พ.ย.และธ.ค.จำนวน 1 ลำ 4 ลำและ 4 ลำตามลำดับ ดังนั้นเพื่อรองรับการเปิดเส้นทางการบินใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะมีเป้าหมายเชื่อมต่อเมืองหลัก–เมืองรองในไทยกับเมืองสำคัญทั่วเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย เวียดนาม และออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 ปีจากนี้ ถือเป็นการขยายการเติบโตของสายการบินเวียตเจ็ท หากสถานการณ์เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ น่าจะสามารถขยายการบริการไปยังตลาดระยะไกลที่สามารถบินยาวๆได้มากกว่า 7 ชั่วโมงในอนาคต ขณะนี้แม้สายการบินเวียตเจ็ทจะมีการขยายฝูงบิน แต่ยังไม่เพียงแต่รองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการยกระดับศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวในภูมิภาค
นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ กล่าวว่า ปีนี้ เวียตเจ็ทไทยแลนด์เตรียมเปิดเส้นทางใหม่ รวมถึงเส้นทางกรุงเทพฯ–โซล ในเดือนต.ค., กรุงเทพฯ–โกลกาตา เดือนพ.ย., กรุงเทพฯ–โตเกียว (นาริตะ) ในเดือนธ.ค. กรุงเทพฯ–โอซาก้า (คันไซ) เดือนธ.ค. และกรุงเทพฯ–อาห์เมดาบัด ในเดือน ธ.ค. เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้เวียตเจ็ทไทยยังเตรียมมอบประสบการณ์การบินที่น่าประทับใจด้วยการให้บริการด้านความบันเทิงบนเที่ยวบิน (In-Flight Entertainment)
“ที่สำคัญไม่แพ้กัน สายการบินเวียตเจ็ทยังคงพัฒนาความตรงต่อเวลาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันก้าวขึ้นสู่อันดับ 4 ของสายการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและการมอบบริการที่เป็นเลิศแก่ผู้โดยสาร”
นายปิ่นยศ กล่าวว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์มีการเติบโตด้านธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่รายได้ ปริมาณผู้โดยสาร และเครือข่ายเส้นทางบิน สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารและคู่ค้า โดยมุ่งมั่นนำเสนอการเดินทางที่สะดวกสบาย ราคาคุ้มค่า และตรงเวลา
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เวียตเจ็ท ปรับเป้ารายได้ปี 68 ลง 20% หลังนักท่องเที่ยวจีนดิ่ง 30%
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th