ผลกระทบศึกชายแดน
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
การท่องเที่ยวไทย แม้เปิดศักราช 2568 ด้วยดี นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศเดือนแรก 3.70 ล้านคน ขยายตัว 19.46% เดือนกุมภาพันธ์ ยังยืนอยู่ในหลัก 3 ล้านคน ก่อนไต่ลงเหลืออยู่ 2.2-2.7 ล้านคน ภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 1 มกราคม-27 กรกฎาคม 2568 ทั้งสิ้น 18,983,936 คน ติดลบ 6.18% สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 879,977 ล้านบาท นักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 2,635,810 คนมาเลเซีย 2,622,672 คน อินเดีย 1,352,774 คน รัสเซีย 1,105,719 คน และเกาหลีใต้ 881,288 คน
ตลาดนักท่องเที่ยวจีนถูกมาเลเซียแซงขึ้นไปเป็นที่ 1 หลังจากมีข่าวดาราจีน ซิงซิง หายตัวที่ชายแดนไทย แม้กลับมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ประเทศไทยถูกตั้งคำถามในสังคมออนไลน์ของจีนอย่างหนักว่า ท่องเที่ยวไทยปลอดภัยจริงหรือไม่
ก่อนหน้ามหาสงกรานต์ เมษายน 2568 ขณะที่ภาครัฐเตรียมโหมท่องเที่ยวไทยเดือนมีนาคมเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมียนมา อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังลงมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ตามมาด้วยข้อพิพาทไทยและกัมพูชาเกิดปะทะใหญ่ 5 วันซ้อน จาก 24 กรกฎาคม ก่อนหยุดยิงตอนเที่ยงคืน วันใหม่ของ 29 กรกฎาคม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า จากหลายเหตุการณ์ ช่วงที่เหลือของปีนี้ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยลดลง พฤติกรรมนักท่องเที่ยวและความต้องการด้านการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป รวมถึงปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างปัญหาภูมิรัฐศาสตร์
ทั้งปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอาจหดตัว 2.8% หรือมีจำนวน 34.5 ล้านคน ซึ่งจะทำให้รายได้การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัว 3% จากปี 2567 หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 1.62 ล้านล้านบาท เป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี ทางด้านผู้เกี่ยวข้อง ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชี้ว่า สถานการณ์ไทยกัมพูชาดีขึ้น ต้องออกข่าวเชิงบวกไปให้เร็วขึ้นและมาก เพื่อให้เกิดการรับรู้ว่าประเทศไทยมีความปลอดภัย ทุกอย่างสงบลงแล้ว
การพิพาทไทย-กัมพูชาในครั้งนี้ ประเทศไทยได้ดำเนินการตามหลักกฎหมายและการปฏิบัติระหว่างประเทศ และยืนยันได้ว่า เป็นฝ่ายถูกโจมตีก่อน จึงตอบโต้โดยเน้นเป้าหมายทางทหาร ความขัดแย้งรอบนี้เป็นที่สนใจไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งเพราะประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงมาหย่าศึก ทำให้เกิดการหยุดยิงในที่สุด ภาพข่าวที่ปรากฏไปทั่วโลก ยืนยันข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามคำชี้แจงของไทย
อย่างไรก็ตาม การพิพาทที่มีการใช้กำลังทหารไม่เป็นผลดีกับใคร ไทยจึงควรยึดในหลักปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป ใช้การเจรจายุติปัญหาที่ยังค้างคาอยู่ รักษาบรรยากาศประเทศที่รักสันติ และมีความปลอดภัย ซึ่งจะมีผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผลกระทบศึกชายแดน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net