ธีรรัตน์ตอบพริษฐ์ปมเบิกงบช่วยชายแดน 5 หมื่น เผยรู้นานแล้ว เป็นความผิดพลาดของจังหวัด ไม่ใช่ส่วนกลาง
วันนี้ (7 สิงหาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 10 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณากระทู้ถามสด โดย พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถาม เรื่อง การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ตอบแทน แต่เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงมอบหมายให้ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ตอบแทน
พริษฐ์ตั้งคำถามถึงผู้อพยพ บุคคลที่ได้รับผลกระทบ แม้จะไม่บาดเจ็บหรือสูญเสียอย่างร้ายแรง ต้องยอมรับว่า น้ำใจของคนไทยสามารถบรรเทาวิกฤติได้ระดับหนึ่ง แต่ก็หวังว่า ในฐานะนักการเมือง ในฐานะสภาผู้แทนราษฎร เราจะไม่หลงลืมหรือปล่อยปะละเลยความจริงอันน่ากลัวมากของระบบราชการ แม้ประเทศเผชิญวิกฤติขนาดนี้ แต่เรากลับพบว่างบประมาณที่ถูกใช้ในการจัดตั้งและดำเนินการในศูนย์พักพิง ช่วง 3-5 วันแรกนั้น มาจากเงินบริจาคและเงินของท้องถิ่นทั้งหมด
“ข้อมูลจากทางกรรมาธิการการปกครอง ก็ทำให้เราเห็นชัดขึ้นว่า แม้ส่วนกลางได้มีการอนุมัติเงินทดรองราชการไปแล้วจังหวัดละ 100 ล้านบาท แต่อุบลราชธานีเบิกจ่ายไปแค่ 55,000 กว่าบาทเท่านั้น ทำให้เกิดคำถามต่อมาว่า เราไม่สามารถเชื่อมั่นคำพูดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้โฟนอินเข้ามายืนยันในสภาแห่งนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ไม่มีปัญหาในการเบิกจ่ายได้ แล้วที่ท่านรัฐมนตรีนำมาอ้างในสภาแห่งนี้ ต่อไปเราจะเชื่อคำพูดอะไรจากรัฐบาลได้บ้างอีก“ พริษฐ์กล่าว
พริษฐ์ตั้งคำถามว่า เมื่อเช้าได้ย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีไปแล้ว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดการเบิกจ่ายจำนวนที่น้อยขนาดนี้ เกิดขึ้นจากอะไร อยากทราบว่ากรณีนี้สร้างความเสียหาย ความลำบากให้กับประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีไปมากแค่ไหนแล้ว ถึงจะย้ายผู้ว่าฯ ไปแล้ว แต่ในทางส่วนกลางที่ต้องกำกับดูแลการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดจะรับผิดชอบอย่างไร
พริษฐ์ระบุว่า ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร ต่อการไม่วางแนวทางให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด สามารถเบิกจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และท่านจะรับผิดชอบอย่างไรต่อความผิดพลาดที่ท่านไปฟังแค่เสียงของข้าราชการที่มายืนยันในสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แทนที่จะฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่ ที่สะท้อนผ่านผู้แทนราษฎร และปล่อยระยะเวลามายาวนานถึง 1 สัปดาห์ ทำให้ปัญหานี้ยังเกิดขึ้นอยู่ ส่วนเรื่องมาแดงในกรรมาธิการการปกครองเมื่อวานนี้ แทนที่ท่านจะเอาข้อทักท้วง ข้อเสนอแนะ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เห็นถึงความเป็นจริงได้เร็วกว่านี้
“เหมาะสมแล้วหรือไม่ ที่จะต้องไปพึ่งพิงเงินบริจาคของประชาชน และเงินท้องถิ่นที่ต้องควักออกมาเองก่อน ทั้งที่เงินทดรองราชการที่ส่วนกลางอนุมัติไปแล้ว” พริษฐ์กล่าว
ย้ำเป็นความผิดพลาดของจังหวัด ไม่ใช่รัฐบาล
จากนั้น ธีรรัตน์ลุกตอบคำถาม กรณีงบประมาณจังหวัดอุบลราชธานี ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าพริษฐ์จะถามประเด็นนี้ด้วย เพราะข้อเท็จจริงได้ปรากฏเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เป็นข่าวมากมาย ได้ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม หลังจากเกิดเหตุการณ์ 2 วัน และได้ไปเยี่ยมศูนย์อพยพ ไปดูแลเรื่องอาหารเครื่องนุ่งห่ม ที่นอนหมอนมุ้ง
ธีรรัตน์ได้เปิดคลิปที่ไปเยี่ยมชาวอุบลราชธานี พร้อมระบุว่า ได้มอบหมายให้จังหวัดหากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผ่อนคลายความเครียดให้กับประชาชน เช่น กิจกรรมตัดผม กิจกรรมสัมพันธ์ ได้เห็นถึงการปฏิบัติงานจนมีการตั้งกระทู้ถามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็คิดว่าน่าจะเป็นการดี เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าท่านผู้ว่าฯ อุบลราชธานีจะตอบว่าอย่างไร แต่คิดว่าถ้าติดขัดอะไรแล้วบอกให้รู้เลย เราก็จะได้แก้ไขได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ตามที่ได้ทราบจากสื่อและภาพที่ได้นำเสนอไปแล้วว่า ก็มีการตอบรับกลับมาว่าเบิกได้ทั้งหมด ตนเองก็ยังไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังกลับลงไปพื้นที่อุบลราชธานีอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 3 สิงหาคม ได้ไปเยี่ยมผู้ที่อยู่โรงพยาบาล จะเห็นว่าในส่วนที่เราพยายามที่จะให้เป้าสำคัญคือการดูแลประชาชน ได้ครอบคลุมและทั่วถึงมากที่สุด ก็เป็นไปตามขั้นตอน
แต่เมื่อวานนี้ที่มีข่าวว่าทาง กรรมาธิการการปกครองได้รับรายงานจากตัวแทนของจังหวัดอุบลราชธานี ตนเองก็คิดว่าต้องมีอะไรที่ผิดปกติในจังหวัดนี้ ก็คือมีการทำเอกสารล่าช้าหรือไปใช้เงินของ อปท. ก่อนหรือไม่ ก็ได้สอบถามไปทันทีทันใด และได้รับทราบข้อมูลว่า ทางจังหวัดมุ่งเน้นไปเรื่องการใช้เงินของท้องถิ่นก่อน รวมถึงสิ่งของและเงินที่ได้รับบริจาคมา
“ดิฉันก็ทราบตัวเลขว่าอุบลราชธานีได้รับเงินบริจาคมาเป็นจำนวน 5.5 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดอื่นได้รับ 1-2 ล้านบาท แต่ก็ถือว่ามีความบกพร่อง เพราะเราได้จัดประชุมกันเรื่องการใช้เงินทดรองราชการที่เพิ่มเติมเข้าไปแล้ว ว่าขอให้ใช้จ่ายเงินในส่วนนี้ทันที แม้ว่าในระเบียบจะบอกไว้ว่าให้ใช้เงินท้องถิ่นก่อนก็ตาม เราได้จัดประชุมและได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วน จังหวัดอื่นก็ไม่มีปัญหา ใช้เงินได้ตามปกติ แต่เป็นเรื่องที่ดิฉันเองต้องเรียนว่าเพื่อให้ท่านได้สบายใจ เราได้ดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด” ธีรรัตน์กล่าว
ธีรรัตน์ย้ำว่า ประเด็นการเบิกจ่ายนั้น ไม่ใช่ว่าเราเบิกมาแล้ว แล้วเราไม่ให้ แต่ปัญหาคือยังไม่มีการส่งตัวเลขเข้ามาส่วนกลาง เพราะกรอบวงเงิน 100 ล้านบาท เราให้ไปตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมแล้ว จึงคิดว่าพริษฐ์มีความเข้าใจดี เพราะได้ยินกับหูตัวเอง
“เมื่อเรียงร้อยเรื่องราวแล้ว มีความผิดพลาดในส่วนของจังหวัด ไม่ใช่รัฐบาลที่ส่งความช่วยเหลือลงไป เมื่อเราได้ข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ได้สร้างความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ที่จะสื่อสารข้อมูลจริงข้อมูลเดียว ไม่ใช้อคติหรือไม่ใช้การที่แต่งเติมข่าวสารลงไป หรือพี่น้องประชาชนอาจจะเรียกกันว่าเป็นเกมการเมือง ในภาวะนี้เราทุกคนมีความตั้งใจเดียวกันคือดูแลพี่น้องประชาชนของเราให้ดีที่สุด” ธีรรัตน์กล่าว