‘อดานี-อัมบานี’ แอบบินไปจีน ล่าดีลธุรกิจกับยักษ์แบตเตอรี่ปักกิ่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (18 ส.ค.) ว่า เริ่มมีกระแสความร่วมมือกันระหว่างบริษัทอินเดียและจีนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของอินเดียอย่าง Adani Group, Reliance Industries และ JSW Group เริ่มมองหาข้อตกลงกับบริษัทจีนที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและคุ้มค่าในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าและเซลล์ลิเธียมไอออน จุดเปลี่ยนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ผลักดันให้ความสัมพันธ์ของจีนและอินเดียใกล้ชิดกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่อินเดียพยายามรักษาความร่วมมือเหล่านี้ให้เป็นความลับมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากจีนมีจุดยืนที่ไม่อยากแบ่งปันเทคโนโลยีให้กับประเทศที่อาจกลายมาเป็นคู่แข่งทางการผลิต ขณะที่อินเดียก็ปฏิเสธการลงทุนขนาดใหญ่จากบริษัทจีน อย่างไรก็ตาม ด้วยความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เริ่มคลี่คลายและมีสัญญาณที่ดีขึ้น นักธุรกิจจำนวนมากจึงมีความหวังว่าความร่วมมือของทั้งสองประเทศจะผ่อนคลายมากขึ้น
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มหาเศรษฐีอินเดีย โกตัม อาดานี เดินทางไปจีนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง เพื่อพบปะผู้บริหารจากจีน เช่น Contemporary Amperex Technology (CATL) ผู้ผลิตแบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดของโลก เขายังเป็นผู้นำการเจรจากับยักษ์ใหญ่รถอีวีอย่าง BYD Co. เพื่อความร่วมมือด้านการผลิตแบตเตอรี่ แม้ Adani Group จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้กำลังหาความร่วมมือใดๆ กับ BYD ก็ตาม
ขณะที่มหาเศรษฐีอีกรายคือ เจยันต์ อาชารยา ผู้บริหาร JSW ได้ทำข้อตกลงจัดหาเทคโนโลยีและชิ้นส่วนจากChery Automobile Co. สำหรับโครงการยานยนต์พลังงานใหม่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการแล้วเมื่อเดือนก.ค. ส่วน Reliance ของ มูเกช อัมบานี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย กำลังพิจารณาถือหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีต้นกำเนิดจากจีนแบบไม่เปิดเผยเพื่อผลักดันธุรกิจเซลล์เชื้อเพลิงและแบตเตอรี่ ซึ่งต่างจากการซื้อกิจการที่เปิดเผยในสหรัฐและยุโรป
ผู้เชี่ยวชาญแหล่งข่าวของบลูมเบิร์ก ชี้ว่า แม้จะเคยมีความร่วมมือระหว่างบริษัทอินเดียขนาดเล็กกับจีนมาบ้างในอดีต แต่เพิ่งจะเป็นช่วงนี้เองที่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของอินเดียเริ่มมองหาความร่วมมือกับบริษัทจีนอย่างจริงจัง อาเจย์ ศรีวาสตวา ผู้ก่อตั้ง Global Trade Research Initiative และอดีตนักเจรจาการค้า อธิบายว่า
"บริษัททั้งเก่าและใหม่ของอินเดียที่เข้าสู่ธุรกิจการกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่และพลังงานสะอาดต้องพึ่งพาจีนเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาไม่มีความเชี่ยวชาญหรือเทคโนโลยี "
เพื่อหลบเลี่ยงข้อจำกัดของรัฐบาล บริษัทอินเดียเริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่โดยลงนามข้อตกลงกับบริษัทลูกของบริษัทจีนที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ เวียดนาม หรือฮ่องกงมากขึ้น สัญญาเหล่านี้มักจะแฝงข้อกำหนดการถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านประเทศที่สาม เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากทั้งสองรัฐบาล กลยุทธ์นี้ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แม้จะมีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ
อ้างอิง:Bloomberg