โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

นักวิชาการ มธ.แนะทางออก แก้ไขปัญหาแรงงานกัมพูชากลับบ้าน

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2568 รศ. ดร.กิริยา กุลกลการ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการเดินทางกลับภูมิลำเนาของแรงงานกัมพูชา แม้ว่าจะยังไม่แสดงออกถึงความเดือดร้อนในวงกว้าง แต่ได้สร้างความรวดร้าวแบบกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมบางประเภทที่พึ่งพิงแรงงานกัมพูชา อาทิ การรับเหมาก่อสร้าง อุตสาหกรรมเรือประมง และแรงงานเกษตรในสวนผลไม้ ฯลฯ ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีตัวเลขยืนยันว่าแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ เชื่อว่าภาครัฐคงไม่ออกมาพูดในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ควรนำประเด็นความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจกับปัญหาความมั่นคงมารวมกัน ต้องแยกออกจากกันแล้วแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กัน ไม่จำเป็นต้องให้เรื่องเศรษฐกิจนำความมั่นคง หรือให้ความมั่นคงนำเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันรัฐบาลอาจกำลังให้ความสำคัญกับความมั่นคงเป็นตัวนำ

อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือมีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการหลายแห่งที่กำลังประสบปัญหาอย่างมาก เช่น ธุรกิจก่อสร้างที่ต้องหยุดชะงักทันทีเพราะไม่มีแรงงาน ส่งผลให้ต้องยืดระยะเวลาการส่งมอบโครงการให้กับผู้ว่าจ้างออกไป หรือธุรกิจประมงบางรายต้องจอดเรือทิ้งไว้เพราะไม่มีลูกเรือ รวมถึงในพื้นที่ภาคตะวันออกที่ขาดแคลนแรงงานเก็บผลไม้

“การแก้ไขปัญหาควรเริ่มต้นจากการให้กระทรวงแรงงานและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ร่วมมือกันสำรวจและสรุปจำนวนแรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศ แล้วนำตัวเลขออกมาแถลงหรือเปิดเผยให้เห็นถึงผลกระทบอย่างชัดเจน เพื่อให้สังคมรับทราบขนาดของปัญหาที่แท้จริงและช่วยกันคิดหาทางออก ซึ่งจากข้อมูลจากการรายงานขององค์กรพัฒนาเอกชน พบว่าแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศราว 3 – 4 แสนคน โดยคิดเป็น 90% ของแรงงานทั้งหมด” รศ. ดร.กิริยา กล่าว

นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ 2 มาตรการ ได้แก่ 1. การผ่อนผันอนุโลมให้แรงงานต่างด้าวที่ยังทำงานอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย หรือมีสถานะไม่ถูกต้องให้สามารถยังทำงานต่อไปได้ 2. เห็นชอบให้นำเข้าแรงงานต่างชาติอื่นๆ ผ่านระบบบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซึ่งในระยะแรกจะเริ่มต้นนำเข้าแรงงานสัญชาติศรีลังกา ส่วนตัวมองว่ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทดแทนแรงงานกัมพูชาได้ อาจไม่ทันท่วงที หรือไม่ตอบสนองต่อความต้องการแรงงานอย่างเร่งด่วนของนายจ้างได้ในเวลานี้

“มาตรการผ่อนผันฯ คงไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะแรงงานที่ได้รับการผ่อนผันเหล่านั้นส่วนใหญ่อยู่นอกระบบ และเขามีงานทำ ไม่ได้อยู่ในสถานะว่างงาน ซึ่งเขาก็ยังคงทำงานของเขาต่อไป และไม่ได้ถูกจูงใจให้เข้ามาในระบบ ส่วนการนำเข้าแรงงานจากต่างชาติ เช่น ศรีลังกา ก็อาจไม่ทันต่อความต้องการ เพราะการนำแรงงานสัญชาติใหม่ๆ จำเป็นจะต้องใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจร่วมกันทั้งฝ่ายแรงงานและนายจ้าง เช่น แรงงานจะต้องศึกษาข้อกฎหมาย ภาษา วัฒนธรรมการเป็นอยู่ของคนไทย และต้องให้เวลาสังคมไทยในการเปิดใจยอมรับผู้คนหน้าใหม่ๆ ที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ร่วมกัน” รศ. ดร.กิริยา กล่าว

รศ. ดร.กิริยา กล่าวอีกว่า ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลได้สำรวจความคิดเห็นของนายจ้างก่อนมีนโยบายนำเข้าแรงงานศรีลังกาหรือไม่ เพราะในการสำรวจความคิดเห็นกันเองของกลุ่มนายจ้างต่างลงความเห็นตรงกันว่าไม่ต้องการแรงงานจากศรีลังกา เนื่องจากแรงงานศรีลังกามีความถนัดในงานภาคบริการ แต่ที่ขาดแคลนเป็นภาคก่อสร้าง-ประมง เก็บผลไม้ จึงไม่มั่นใจว่าเมื่อนำเข้ามาแล้วใครจะจ้างแรงงานเหล่านั้นทำงาน

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน นอกจากการเปิดเผยจำนวนตัวเลขอย่างเป็นทางการแล้วคือการนำแรงงานไทยที่มีทักษะและศักยภาพมาทดแทนแรงงานกัมพูชาได้ เพียงแต่ต้องให้ค่าตอบแทนและสวัสดิการที่จูงใจมากพอ ดังที่เกิดขึ้นในสวนลำไยแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี ซึ่งเปิดรับแรงงานคนไทยกว่า 3 หมื่นอัตรา เสนอรายได้วันละ 700 – 1,300 บาท มีที่พักฟรีและทำสัญญา 9 เดือนเต็มซึ่งทำให้แรงงานมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่า 2 หมื่น – 4 หมื่นบาท ซึ่งส่วนตัวขอเสนอให้รัฐบาลร่วมกันสมทบกับผู้ประกอบการเพื่อจัดสรรรายได้และสวัสดิการให้แรงงาน เพื่อเยียวยาสถานการณ์ปัญหาในเบื้องต้น

นอกจากนี้ คือการโอบรับแรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศไปแล้ว และมีความพยายามในการลักลอบกลับเข้ามาอีกครั้งเนื่องจากไม่สามารถหางานและดำรงชีพอยู่ในประเทศกัมพูชาได้ กล่าวคือแทนที่จะให้เขาลักลอบก็ควรจะเปลี่ยนเป็นเปิดให้เขาเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอาจทำให้ไทยกังวลเรื่องความมั่นคง แต่การที่ปล่อยให้เขาต้องลักลอบเข้ามามันยิ่งทำให้เกิดความไม่มั่นคงเข้าไปใหญ่ เราควรจะนำเขาเข้าระบบอย่างถูกต้องเพื่อที่เราจะได้รู้ตัวตน ส่วนตัวเชื่อว่าคนกัมพูชาจำนวนมากที่กลับไปแล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องกลับมาในวันหนึ่งเมื่อสถานการณ์ความขัดแย้งเริ่มคลี่คลาย

/////

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

มท.1 ตั้ง กก.ติดตามนโยบาย 'มหาดไทย' เสริมสร้างกลไกพื้นที่

22 นาทีที่แล้ว

ทบ.ส่งหลักฐานฟ้อง IOT ทหารกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย ลอบวางทุ่นระเบิด

27 นาทีที่แล้ว

สส.ปชน.ยันคลิปซื้อโหวตของจริง ลุ้น 'นายหน้าหญิง' ไปพบ ตร. 26 ส.ค.

31 นาทีที่แล้ว

ผบ.ทบ.เยี่ยม 'ภูมะเขือ' ให้กำลังใจทหาร ย้ำทำหน้าที่ระมัดระวัง

36 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

แสวง บุญมี เลขาฯหนังหน้าไฟ กกต.มืออาชีพ...คดีการเมืองไม่มี 2 มาตรฐาน

ประชาชาติธุรกิจ

“ภูมิธรรม” เปิดงบเยียวยาเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วยเหลือครบทุกด้าน 617 ล้านบาท

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

กต. เผย ไทยกดดันหนัก หวังกัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้อีกฝ่ายจะไม่ยอมรับ

มุมข่าว

มท.1 ตั้ง กก.ติดตามนโยบาย 'มหาดไทย' เสริมสร้างกลไกพื้นที่

กรุงเทพธุรกิจ

ภูมิธรรม ยัน รัฐบาลไม่ทอดทิ้ง ชาวบ้าน 7 จว.ชายแดน เร่งจ่ายเยียวยา-ฟื้นฟูบ้านเรือน

Khaosod

"กองทัพบก" ชี้ชัด ทหารกัมพูชาล้ำแดนไทย ลอบวางทุ่นระเบิด เตรียมชี้แจงต่อคณะ IOT

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม