กระแสเรียนมวยไทยแรงต่อเนื่อง หลังคณะซอฟต์เพาเวอร์มวยไทย เยี่ยมค่ายมวย จ.ภูเก็ต พบชาวต่างชาติสนใจมวยไทยเพิ่มยิ่งขึ้น
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 16 สิงหาคม 2568 เวลา 1.29 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท15 ส.ค.68 ภูเก็ต-คณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา นำโดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมคณะ ได้แก่ นายสมชาย พูลสวัสดิ์, นายไพฑูรย์ ชุติมากรกุล, พล.อ.อรชัย บุญสุขจิตเสรี และนายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เดินทางเยี่ยมค่ายมวยไทยเกอร์ จังหวัดภูเก็ต เพื่อสำรวจและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการฝึกสอนมวยไทย พัฒนานักกีฬามืออาชีพ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
ภายในค่ายมีการสาธิตการฝึกซ้อม เทคนิคการชก และการพูดคุยกับนักกีฬาและผู้ฝึกสอนเกี่ยวกับการยกระดับศักยภาพและมาตรฐานการแข่งขัน โดย ผศ.พิมล กล่าวว่า ค่ายมวยไทยเกอร์ถือเป็นค่ายมาตรฐานสูง มีสาขาในประเทศไทย 2 แห่ง และขยายแฟรนไชส์ไปยังอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จีน รวมกว่า 4–5 แห่ง ได้รับการยอมรับในระดับเอเชีย นักท่องเที่ยวกว่า 99% เป็นชาวต่างชาติ ช่วงไฮซีซั่นมีผู้มาเรียนกว่า 700 คนต่อวัน ค่าเรียนเฉลี่ย 700–800 บาทต่อคน ส่วนช่วงโลว์ซีซั่นมีราว 300 คนต่อวัน ค่ายยังมีที่พักให้บริการในอัตราเฉลี่ยกว่า 1,000 บาทต่อคืน ทำให้เกิดรายได้จำนวนมากเข้าสู่ประเทศ“
ในประเด็นการให้วีซ่าฟรี 180 วันแก่ผู้มาเรียนมวยไทย ผศ.พิมล กล่าวว่า “ ผมได้สอบถามไปยังผู้บริหารค่ายมวย เขาบอกว่าบางคนมาอยู่ 3 เดือน 6 เดือน และทั้งปีก็มี ถ้าเขาได้วีซ่าตัวนี้ที่ทางรัฐบาลจัดทำขึ้นมา ก็จะทำให้อยู่ได้โดยไม่กังวล ที่ต้องวิ่งออกไปต่อวีซ่าที่สิงคโปร์ มาเลเซีย เข้ามาแล้วก็มาต่อในไทยเลยครับ ต่อไปได้เรื่อยๆจนครบ1 ปี เป็นประโยชน์ต่อเขา สร้างความสนุกให้กับเขาครับ”
นอกจากนี้ คณะซอฟต์เพาเวอร์มวยไทยยังได้เยี่ยมชมค่ายมวยซินบีมวยไทย ซึ่งเน้นการฝึกมวยไทยแบบดั้งเดิม การเดินทางครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและค่ายมวยในจังหวัดภูเก็ต เพื่อผลักดันมวยไทยสู่มาตรฐานสากล และสร้างเครือข่ายสนับสนุนอุตสาหกรรมกีฬาทั่วประเทศ