PRIME ขาย 3 บ.ย่อย มูลค่า 686.18 ลบ. ใช้หนี้หุ้นกู้

หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (PRIME) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท ไพร์ม โรด กรุ๊ป จำกัด (PRG หรือ ผู้ขาย) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ จำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท สตาร์โซลาร์ จำกัด (STS) บริษัท สมาร์ท โซลาร์ จำกัด (SMS) และ บริษัท ไอดีล โซลาร์ จำกัด (IDS) ในมูลค่า 686,180,800 บาท ให้แก่ GREENYELLOW CHSPP Pte Ltd (GREENYELLOW หรือ ผู้ซื้อ) ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ (ธุรกรรมการจำหน่ายหุ้นบริษัทย่อยฯ) โดย STS, SMS และ IDS ดำเนินธุรกิจโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร 4 แห่ง ดังนี้

• โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (โครงการ BSA-08) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 5 เมกะวัตต์ โดยมี บริษัท ไพร์ม อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PAE) เป็นบริษัทเจ้าของโครงการ ซึ่ง STS ถือหุ้นใน PAE ในสัดส่วนร้อยละ 99.99
• โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ใน อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (โครงการ LBL-05) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 5 เมกะวัตต์ โดยมี บริษัท ไพร์ม โรด โซลาร์ จำกัด (PRS) เป็นบริษัทเจ้าของโครงการ ซึ่ง SMS ถือหุ้นใน PRS ในสัดส่วนร้อยละ 99.99
• โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ ภาคการเกษตร ใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (โครงการ BSA-01) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 5 เมกะวัตต์ โดยมีบริษัท ไพร์ม รีนิวเอเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (PRD) เป็นบริษัทเจ้าของโครงการ ซึ่ง PRG และ IDS ถือหุ้นใน PRD ในสัดส่วนร้อยละ 51 และ ร้อยละ 48.99 ตามลำดับ
• โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ ภาคการเกษตร ใน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี (โครงการ LAK-09) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ โดยมี PRD เป็นบริษัทเจ้าของโครงการ

อีกทั้งคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการมอบอำนาจให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกรรมการขายหุ้นฯตามที่จำเป็นและสมควร ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงการเจรจาต่อรองการเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น และจัดทำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินการใดๆ เพื่อ เข้าทำธุรกรรมการขายหุ้นฯ

เนื่องจากผู้ซื้อมีความประสงค์ที่จะเข้าเป็นเจ้าของโครงการ BSA-01 และ โครงการ LAK-09 ผ่านการถือหุ้น IDS ในสัดส่วน ร้อยละ 99.99 ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้นสำหรับ IDS และ PRD โดย PRG จะดำเนินการขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่PRG ถือใน PRD ในสัดส่วนร้อยละ 51 ให้แก่ IDS เพื่อให้IDS เป็นผู้ถือหุ้นของPRD ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ก่อน ดำเนินการธุรกรรมการขายหุ้นฯ ให้กับผู้ขาย

ทั้งนี้ภายหลังธุรกรรมการขายหุ้นฯ เสร็จสิ้น จะส่งผลให้ STS, SMS และ IDS รวมทั้งบริษัทย่อยภายใต้บริษัททั้ง 3 ได้แก่ PAE, PRS และPRD รวมทั้งหมด6 บริษัท สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ

แผนการใช้เงินที่ได้รับจากการขาย

บริษัทฯ จะใช้เงินที่ได้รับจากธุรกรรมการจำหน่ายหุ้นบริษัทย่อยฯ ส่วนหนึ่งจะเป็นเงินทุนสำรองเพื่อชำระคืนเงินต้นร้อยละ 30 ของหุ้นกู้และดอกเบี้ยหุ้นกู้ของบริษัทจำนวน 4 รุ่น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

(1) หุ้นกู้ของบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 โดย เลื่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน ครั้งที่ 1 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน หรือหุ้นกู้ PRIME253B

(2) หุ้นกู้ของบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 โดยเลื่อนวัน ครบกำหนดไถ่ถอน ครั้งที่ 1 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน หรือหุ้นกู้ PRIME253A

(3) หุ้นกู้ของบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 โดยเลื่อนวัน ครบกำหนดไถ่ถอน ครั้งที่ 1 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน หรือ หุ้นกู้ PRIME25DA (4) หุ้นกู้ของบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 โดย เลื่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน ครั้งที่ 1 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน หรือหุ้นกู้ PRIME25DB

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนการจัดการกระแสเงินสดเพื่อจัดการหนี้สินที่จะถึงกำหนดชำระ ซึ่งการเข้าทำธุรกรรม การขายหุ้นฯ นี้เป็นหนึ่งในแผนการจัดการดังกล่าว และบริษัทฯ ได้ติดตามและให้ความสำคัญในการดำเนินการตามแผนการ จัดการกระแสเงินสดเพื่อจัดการหนี้สินที่จะถึงกำหนดชำระซึ่งประกอบด้วย การหาผู้ร่วมทุนและการจำหน่ายสินทรัพย์บางส่วน ของโครงการโรงไฟฟ้าภายใต้กลุ่มบริษัทฯ การติดตามลูกหนี้ค้างชำระจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ การเจรจาขอสินเชื่อ โครงการสำหรับโครงการโรงไฟฟ้ากับนักลงทุนและสถาบันการเงิน ควบคู่กับการดำเนินนโยบายบริหารสภาพคล่องทางการเงิน อย่างเข้มงวดและรัดกุม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการทางการเงิน