TMILL กำไร 6 เดือนพุ่ง 491% ปริมาณขายข้าวสาลีคึกคัก

หุ้นวิชั่น – TMILL โชว์ผลงาน งวด 6 เดือนแรกปี 68 กำไรพุ่งแตะ 16.82 ล้านบาท โตแรง 491.6% พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจว่าผลประกอบการทั้งปีจะสดใสและเหนือความคาดหมาย

ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ทีเอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) หรือ TMILL ได้นำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 2/2568 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ปรากฏว่างบการเงินของบริษัทแสดงผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 4.42 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567 มีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.59 ล้านบาท คิดเป็น 55.9%

บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายในไตรมาส 2 ปี 2568 ลดลง 5.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงจากการจำหน่ายรำข้าวสาลีเป็นหลัก เนื่องจากราคาจำหน่ายรำข้าวสาลีต่ำกว่าปีก่อนถึง 12.5% ส่งผลให้รายได้ลดลง 18.5 ล้านบาท แม้ว่าปริมาณจำหน่ายรำข้าวสาลีจะมากขึ้น 8.3% ก็ตาม ส่วนราคาจำหน่ายแป้งสาลีลดลง 3.2% แต่ปริมาณจำหน่ายสูงขึ้น 6.7% ส่งผลให้รายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน

และจากผลประกอบการรวม 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 งบการเงินของบริษัทแสดงผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 16.82 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13.98 ล้านบาท คิดเป็น 491.6%

บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายใน 6 เดือนแรกของปี 2568 ลดลง 3.2% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงจากการจำหน่ายรำข้าวสาลีเป็นหลัก เนื่องจากราคาจำหน่ายรำข้าวสาลีต่ำกว่าปีก่อนถึง 29.3% ส่งผลให้รายได้ลดลง 27.60 ล้านบาท แม้ว่าปริมาณจำหน่ายรำข้าวสาลีจะมากขึ้น 8.6% ก็ตาม ส่วนราคาจำหน่ายแป้งสาลีลดลง 8.8% แต่ปริมาณจำหน่ายสูงขึ้น 10.7% ส่งผลให้รายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน

สถานการณ์ปัจจุบัน ราคาตลาดข้าวสาลีในปี 2568 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยราคาลดลงตั้งแต่ไตรมาส 3 หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นสูงในช่วงกลางปี 2567 ทั้งนี้สต็อกข้าวสาลีที่มีราคาสูงส่วนใหญ่ได้หมดไปแล้ว ประกอบกับทางบริษัทบริหารจัดการต้นทุนข้าวสาลีในปีนี้ได้ดีขึ้น ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ราคาจำหน่ายรำข้าวสาลีลดต่ำลงถึง 12.5% ส่งผลให้รายได้จากการจำหน่ายรำข้าวสาลีลดลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ปัจจุบันราคาก็เริ่มดีขึ้นแล้ว

บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังคงคาดการณ์ว่าผลประกอบการในปี 2568 น่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อน