บึ้มสนั่น! ทำลายกระสุนปืนใหญ่เขมรยิงถล่ม อ.บ้านกรวดบุรีรัมย์ยังไม่ระเบิด 7 ลูก จากเก็บกู้แล้ว 126 ลูก
บุรีรัมย์ - หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ร่วมกับชุด EOD ภ.จว.บุรีรัมย์ นำวัตถุระเบิดและกระสุนปืนใหญ่ จรวด BM-21 ของทหารกัมพูชา ที่ยิงตกลงมาในพื้นที่ อ.บ้านกรวด-อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เก็บกู้แล้วรวม 126 ลูก ในจำนวนนี้พบ 7 ลูก ตรวจพบยังไม่ระเบิด นำมาจุดระเบิดทำลาย คาดยังมีหลงเหลืออีกหลายลูก เตือนประชาชนพบสิ่งผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทีนที
วันนี้ (14 ส.ค.68) พล.อ. ศักดิ์สิทธิ์ แสงชนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ ,พ.อ.สมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฎิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม 3, นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด ร่วมเป็นสักขีพยานในการทำลายทุ่นระเบิดและกระสุนปืนใหญ่
ภายหลังจากทางเจ้าหน้าที่ นปท.3 ร่วมกับ EOD กองกำกับการสืบสวนภูธร จ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลูกกระสุนปืนใหญ่ จรวด BM 21 และวัตถุระเบิดจากเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในห้วงวันที่ 24-28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ตกค้างในพื้นที่ อ.บ้านกรวด แต่ไม่ทำงาน มาทำลายด้วยวิธีจุดระเบิด
โดยการจุดระเบิดทำลายในครั้งนี้ ได้นำวัตถุระเบิดจำนวน 7 ลูก ประกอบด้วย กระสุนปืน ค.100 จำนวน 5 ลูก ค.120 จำนวน 1 ลูก และ RPG 7 อีก 1 ลูก มาจุดระเบิดทำลาย ที่บริเวณด้านล่างอ่างเก็บน้ำห้วยตาเขียว(ทิศเหนือสันอ่าง) ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยอยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชนและพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งการจุดระเบิดทำลายในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัยดี
พล.อ. ศักดิ์สิทธิ์ แสงชนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ได้มีการรวบรวมทุ่นและวัตถุระเบิดที่ได้จากการเก็บกู้นำมาจุดทำลาย ณ จุดเดียวกัน เพื่อให้เกิดความสะดวกและไม่เป็นการรบกวนต่อประชาชนในพื้นที่ โดยใช้พื้นที่ส่วนกลางคืออ่างเก็บน้ำฯ ในการทำลาย วัตถุระเบิดและกระสุนปืนใหญ่ชนิดต่างๆของฝ่ายกัมพูชา ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้มาจากพื้นที่การถูกโจมตีของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่พลเรือน และพื้นที่ทางการเกษตร
นอกจากนี้ยังจะให้ทาง อ.บ้านกรวด ประสานความร่วมมือกับทาง อบต.-เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน เร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ถึงอันตรายจากกระสุนปืนใหญ่ที่ยังตกค้าง หากพบห้ามแตะต้อง จับหรือเคลื่อนย้าย โดยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าไปตรวจสอบและเก็บกู้
พ.อ.สมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฎิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม 3 ระบุว่า จากข้อมูลมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย กับ อ.บ้านกรวด จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและทำการเก็บกู้แล้วทั้งหมด 126 ลูก ในจำนวนนี้มี 7 ลูกที่ไม่ระเบิด จึงได้นำมาทำลาย แต่ก็คาดว่ายังมีกระสุนปืนใหญ่ ของฝ่ายกัมพูชาที่ถูกยิงตกลงมา และยังสำรวจไม่พบหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ ก็ได้มีการให้ความรู้ผู้นำ และประชาชนในการสังเกตวัตถุต้องสงสัย หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเก็บกู้ทันที
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO