โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

MEDEZE ครึ่งปี 68 กำไร 129 ล้านบาท เดินหน้า “Sandbox” ต่อยอดผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูง

การเงินธนาคาร

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

MEDEZE กำไรครึ่งปี 68 ที่ 129.41 ล้านบาท รายได้รวม 407.89 ล้านบาท เดินหน้า“Sandbox” ยกระดับผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูง ผลักดันไทยสู่ “HEALTH Economy” พร้อมขยายทีมขาย-การตลาดรวมถึงบุคคลากรทางการแพทย์เพื่อยกระดับสู่มาตรฐานสากล รองรับฐานลูกค้าในอนาคต

13 สิงหาคม 2568 นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีกําไรสุทธิอยู่ที่ 129.41 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 407.89 ล้านบาท โดยรายได้หลักของบริษัทยังคงมาจากการให้บริการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเนื้อเยื่อสายสะดือ หรือ Cord Tissue ที่คิดเป็นสัดส่วน 52%

ในขณะที่รายได้จากการจัดเก็บเซลล์รากผม หรือ Hair Follicle ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 1% ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ตามเป้าหมาย โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 76% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 32%

ทั้งนี้บริษัทมีการเพิ่มขนาดทีมขาย และการตลาด เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และการเข้าถึงบริการของลูกค้าที่มากขึ้น สำหรับการรองรับแผนในการขยายธุรกิจในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอาคารฝ่ายขาย และการตลาดอาคารคลังสินค้าแห่งใหม่ และระบบพลังงานไฟฟ้า Solar Cell เป็นต้น เพื่อเป็นการรองรับในการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท

ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทยังคงเดินหน้าโครงการ ATMPs Sandbox ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทฯและเกิดประโยชน์กับประเทศไทย เพื่อเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูงสร้างเศรษฐกิจสุขภาพ หรือ “HEALTHEconomy” ดึงดูดรายได้เข้าประเทศ

โดยบริษัทได้จับมือกับกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต และศูนย์การแพทย์บางรัก เปิดตัวโครงการ Advanced Therapy Medicinal Products Sandbox (ATMPs Sandbox) โดยคัดเลือก MEDEZE เป็นภาคเอกชนเพียงรายเดียวที่ร่วมดำเนินโครงการ ด้วยความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี มาตรฐาน และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูง

สำหรับการรักษาเชิงลึกแบบเฉพาะบุคคล (Precision Preventive Medicine) โดยเริ่มต้นจาก 5 กลุ่มโรคที่พบมากในประเทศไทย โดยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็น “สถานพยาบาลนำร่อง” ในการดำเนินการวิจัยทดลอง และให้บริการทางการแพทย์ 3 โรค คือโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม กลุ่มโรคผิวหนังและการชะลอวัย รวมถึงมะเร็งลำไส้ และศูนย์การแพทย์บางรักดำเนินการวิจัย ทดลอง และให้บริการทางการแพทย์ 2 โรค ”โรคข้อเข่าเสื่อม - โรคผิวหนังและการชะลอวัย” เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูงและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากเซลล์ต้นกำเนิดในประเทศไทย

อ่านข่าว แวดวงธุรกิจ ที่น่าสนใจ ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

ธนาคารกรุงเทพ นำร่องลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ทุกประเภท มีผล 14 ส.ค.68

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รมว.คลัง มอง กนง. ลดดอกเบี้ย หนุนแบงก์ปล่อยกู้มากขึ้น

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มอง กนง. จะลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในปี 68

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ยูโอบี เปิดแคมเปญ “UOB Point Parade” มอบเครดิตเงินคืน 20% ทุกหมวดการใช้จ่าย

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

5 บัตรเครดิตเข้า Lounge สนามบินฟรี ใบไหนดีในปี 2568

SMART SME

Pacamara Coffee เปิด 24ชม.ในรพ.จุฬาฯ ลด 50% สำหรับบุคลากรทางการแพทย์

Manager Online

นบข.เคาะแจกเงินช่วยข้าวนาปี-นาปรัง ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 10 ไร่ ช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 8.5 แสนครัวเรือน

VoiceTV

POP MART เปิดแฟลกชิพที่ไอคอนสยาม ทุบสถิติขายวันเปิดร้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Manager Online

กรมบัญชีกลางต่อยอด New GFMIS Thai e - Tax ออกหลักฐานรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มใช้งาน 13 ส.ค. 2568

VoiceTV

‘วิทัย’ ว่าที่ ผู้ว่าการ ธปท. ขอบคุณธ.กรุงเทพ ลดดอกเบี้ย ดูแลภาคธุรกิจ-ประชาชน

เดลินิวส์

SAPPE ยันภาษีทรัมป์ไม่กระทบ งัดScenario Planning สู้ปัจจัยลบ

Manager Online

CPN ซื้อหุ้นคืนวงเงิน 5 พันล. เผยQ2/68 โกยกำไรเฉียด 4 พันล.

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...