เจ้าแม่แห่งการตุน ลั่นอยู่กัน 5 คน ของกินพร้อม ไม่อดตาย รับมือทุกสถานการณ์ แพลนเพิ่มอีก
เจ้าแม่แห่งการตุน ลั่นอยู่กัน 5 คน ของกินพร้อม ไม่มีอดตาย รับมือทุกสถานการณ์ ตั้งเป้าสต็อกไว้นาน 5 ปี
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า คุณแม่ชาวอเมริกันท่านหนึ่งวัย 37 ปี ที่เรียกตัวเองว่า “ราชินีวันสิ้นโลก” (Queen of Doomsday) ได้ตุนเสบียงอาหารสำหรับครอบครัว 5 คน นาน 1 ปี เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีแพลนตุนเพิ่มให้เพียงพอ 5 ปีในอนาคต
คริสตัล ฟรูกัล คุณแม่จากเมืองซอลต์เลกซิตี รัฐยูทาห์ เผยว่า เธอเริ่มเรียนรู้การถนอมอาหารมาตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบจากคุณปู่คุณย่าผู้ล่วงลับ
ภาพประกอบ
ทุกปีเธอสามารถปลูกผักและผลไม้ได้มากถึง 360 กิโลกรัม ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่ง มะเขือเทศ พริก ถั่ว พีช แอปเปิล และฟักทอง เพื่อนำมาประกอบอาหารให้สามี และลูกๆ อีก 3 คนทาน
นอกจากผลผลิตในสวน เธอยังเก็บสต็อกอาหารแช่แข็ง เช่น สเต๊กริบอาย มักกะโรนีชีส นักเก็ตไก่ และพายฟักทอง ซึ่งสามารถเก็บได้นานถึง 25 ปี เธอยังซื้อเนื้อวัวและหมูจากเกษตรกรท้องถิ่นมาเก็บไว้ทานตลอดปี และใช้เงินซื้อเฉพาะของสดราว 600 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 19,500 บาทต่อเดือน
ภาพประกอบ
คุณแม่ท่านนี้ บอกว่า เธอไม่เตรียมตัวเพราะการเมือง แต่เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของชีวิต เธอเน้นว่าการเป็นนักตุนเสบียงไม่ได้หมายถึงการเตรียมวันสิ้นโลกเสมอไป แต่เป็นการเตรียมเพื่อชีวิตประจำวัน “เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่ง”
วิธีการของเธอคือการหมุนเวียนสต็อกอาหาร ทำอาหารเป็นชุดแช่แข็ง เพื่อสร้างสต็อกระยะยาว ทั้งยังช่วยประหยัดเงินและเอาชนะภาวะเงินเฟ้อได้ด้วย
ปัจจุบัน ฟรูกัลมีเสบียงพอสำหรับ 1 ปี และตั้งเป้าจะตุนเสบียงให้ได้ถึง 5 ปี เธอแนะนำให้ผู้คนเริ่มจากเสบียงอาหารและน้ำดื่มอย่างน้อย 2 สัปดาห์ “โฟกัสไปที่อาหารที่คุณทานจริงๆ เช่น พาสต้า อาหารกระป๋อง และอย่าลืมสำรองน้ำดื่มเผื่อกรณีมีประกาศให้ต้มน้ำประปาก่อนดื่ม”
ภาพประกอบ
นอกจากอาหาร ครอบครัวของเธอยังมีอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ชุดปฐมพยาบาล เครื่องปั่นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ อุปกรณ์ก่อไฟ เสื้อผ้าอบอุ่น และชุดยังชีพสำหรับภัยพิบัติ
“หลายคนคิดไปถึงวันสิ้นโลกทันที แต่จริงๆ แล้วมันคือการทำประกันรูปแบบหนึ่ง” เธอกล่าว “เราหวังว่าจะไม่ถึงวันนั้น แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ฉันก็พร้อมรับมือ”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เจ้าแม่แห่งการตุน ลั่นอยู่กัน 5 คน ของกินพร้อม ไม่อดตาย รับมือทุกสถานการณ์ แพลนเพิ่มอีก
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th