“บิ๊กเล็ก” สั่งฟ้องกัมพูชา ลั่น! ผิดอาญาปมรื้อลวดหนามชายแดน
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึง กรณีที่มีประชาชนชาวกัมพูชาพยายามที่จะรื้อรั้วลวดหนามในพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวานนี้(25.ส.ค.) ว่า ตนได้รับรายงาน ว่าเนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วมีกำหนดที่จะไปพบกับประชาชนคนไทยในพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้ทางกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่1 เข้าไปวางรั้วลวดหนามเพิ่มเติม
เพื่อป้องกันชาวกัมพูชาเข้ามารบกวน ขณะที่ผู้ว่าราชการพบปะกับประชาชนคนไทย ซึ่งส่วนที่วางรั้วลวดหนามเพิ่มเติมนั้นก็ได้มีชาวกัมพูชาเข้ามารื้อออก แต่ไม่ได้ไปรื้อในบริเวณรวดหนามเดิม ทั้งนี้ตนได้ให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะแก่กอบทัพบก
และกองทัพภาคที่ 1 ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ประเทศไทย แล้วทางกัมพูชาจะเข้ามาทำอย่างนี้ไม่ได้ ถือว่าผิดกฎหมายอาญา จึงขอให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตามกฏหมาย และจะต้องไม่มีภาพอย่างเหตุการณ์เมื่อวานนี้เกิดขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องให้ใครเป็นผู้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับทางกัมพูชาในเรื่องนี้ นั้นพลเอกณัฐพล กล่าวว่าใครก็ได้ ให้ไปแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพภาคที่1หรือกองกำลังบูรพา หรือจังหวัดสระแก้วก็ได้ และตนขอย้ำว่าวันนี้จะต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนไทยรับไม่ได้
เมื่อถามว่า เมื่อฝั่งกัมพูชาใช้มวลชนมากดดันทำให้ฝั่งทางการไทยนั้นทำงานยากขึ้นหรือไม่นั้น พลเอกณัฐพล กล่าวว่า แน่นอน ทั้งนี้เราได้มีการทำหนังสือประท้วงโดยยื่นผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปยังประเทศกัมพูชา ถึงกรณีที่ใช้ประชาชนเป็นกำแพงมนุษย์ โดยได้ยื่นผ่านเพราะพื้นที่ตรงนี้ถือว่าเป็นอธิปไตยของไทย เขาจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ นอกจากนี้ตนจะนำเรื่องดังกล่าว เข้าไปเป็นวาระหารือในการประชุมคณะกรรธิการ เขตแดนร่วม(JBC ) ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้น ในครั้งต่อไป แต่อย่างไรก็ตามเราคงไม่ไม่รอให้ถึงวันประชุมJBC โดยตอนนี้กองทัพภาคที่1 ได้ทำหนังสือประท้วงไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว
ส่วนฝ่ายไทยจะต้องปฏิบัติการในการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมที่ดำเนินการ รื้อลวดหนามเช่นนี้อย่างไรนั้นพลเอกณัฐพล กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 1 และเริ่มใช้เครื่องมือ LRAD (อุปกรณ์ส่งคลื่นเสียงความถี่สูง) ซึ่งก็ถือเป็นขั้นเริ่มต้นและดำเนินการแล้วไปเมื่อวานนี้ และหลังจากนี้คงจะต้องมีการเตรียมกำลังเพิ่ม โดยอาจจะต้องพิจารณาใช้กำลังตำรวจแทน เพราะหากใช้กำลังทหารก็อาจจะถูกมองว่ารุนแรงเกินไป ซึ่งตนได้แนะนำสิ่งเหล่านี้ต่อกองทัพภาคที่ 1 แล้ว
เมื่อถามว่าจะต้องใช้แก๊สน้ำตาหรือการฉีดน้ำ ในขั้นต่อไปหรือไม่นั้นพลเอกณัฐพล กล่าวว่าเจ้าหน้าที่คงดำเนินการไปตามขั้นตอน ที่จริงแล้วจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วน ภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีข้อตกลงข้อหนึ่ง ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน ระหว่างผู้ประสานงานของกองทัพภาค แต่วันนี้อาจจะไม่มีอะไรก็ได้
เมื่อถามต่อว่าฝั่งกัมพูชาได้มีการชี้แจงต่อเหตุการณ์ดังกล่าวมาบ้างแล้วหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่าทางกองทัพภาคที่ 1 ได้รายงานว่าได้มีการเข้าไปพูดคุยกับฝั่งกัมพูชาจึงทำให้สถานการณ์คลี่คลายในภายหลัง ทั้งนี้ฝั่งกัมพูชาได้มีความเข้าใจแล้ว ว่าฝ่ายไทยนั้นไม่ได้กระทำการอะไรที่เป็นการสกัดกั้นเพิ่มเติม เพียงแต่ป้องกันเฉพาะกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วจะไปพบประชาชนคนไทยเท่านั้น ซึ่งงานนี้ส่วนราชการหลายคนได้เข้าไปในพื้นที่จึงต้องมีการป้องกันไม่ให้คนกัมพูชาเข้ามารบกวน
ทั้งนี้มีรายการถึงสถานการณ์พื้นที่เขาพระวิหารมาบ้างหรือไม่นั้น เพราะมีรายงานข่าวมาว่าฝั่งกัมพูชาได้มีการเพิ่มกำลังทหารในบริเวณนั้น พลเอกณัฐพล ระบุว่า มีการรายงานเรื่องนี้มาแล้ว ซึ่งตนได้มีการสั่งการให้กำลังพลเตรียมความพร้อมเอาไว้ ส่วนเรื่องการเจรจาก็เจรจาไป ขณะที่การเตรียมกำลังก็เตรียมไป โดยเราจะต้องไม่ยอมให้ฝ่ายกัมพูชามาปฏิบัติการอะไรในทางทหาร ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอันขาด
ส่วนกรณีที่ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 ระบุว่าให้กำลังพลยิงตอบโต้ได้เลย หากฝั่งกัมพูชา รุกล้ำเข้ามานั้นพลเอกณัฐพล กล่าวว่าแน่นอน และเป็นสิ่งที่ตนเคยพูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ได้หมายความว่าหยุดยิงแล้วจะต้องหยุดยิงตลอดไป แต่ถ้าเค้ามาล่วงล้ำอธิปไตยของไทย กำลังพลก็สามารถดำเนินการตาม อำนาจหน้าที่ ได้เลย เพราะกฎการใช้กำลังของกระทรวงกลาโหม ได้ให้อำนาจไว้แล้ว ผู้บัญชาการเหล่าทัพ แม่ทัพภาค มีอำนาจทำได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการยั่วยุฝ่ายไทยหรือไม่พลเอกณัฐพล ระบุว่า เราไม่สามารถคาดเดาได้ แต่เราต้องเตรียมพร้อมไว้ทุกวิถีทาง
ส่วนจะต้องมีการเตรียมความพร้อมอพยพในส่วนของประชาชนในพื้นที่อย่างไรเพิ่มเติมหรือไม่พลเอกณัฐพล กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเตรียมการไว้อยู่แล้ว ซึ่งบางจังหวัดได้มีการเตรียมศูนย์อพยพเพิ่มเติม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ส่งหนังสือมายังผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ถึงกรณีที่ฝ่ายไทยมีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินบริเวณบ้านหนองจานนั้น จะกระทบต่อ เรื่องของความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน โดย พลเอกณัฐพลระบุว่า ต้องแยกทั้ง 2 เรื่องให้ออกจากกัน โดยเรื่องของเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเรื่องความมั่นคงและการปกป้องอธิปไตยเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหมที่เป็นหน่วยงานหลัก โดยมีกระทรวงมหาดไทยสนับสนุน จึงต้องแย่งทั้ง 2 เรื่องออกจากกัน เรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ ก็เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย ก็ดำเนินการไปส่วนเรื่องการปกป้องอธิปไตย กระทรวงกลาโหมเราไม่ยอมอยู่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “บิ๊กเล็ก” สั่งฟ้องกัมพูชา ลั่น! ผิดอาญาปมรื้อลวดหนามชายแดน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com